GPSC เผยผลประกอบการ Q3 ปี 66 กำไรสุทธิ 1,790 ล้านบาท โต 441% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

GPSC เผยกำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 1,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 441% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปัจจัยหลักจากต้นทุนพลังงานลดลง ทำให้มาร์จิ้นโรงไฟฟ้า SPP ดีขึ้น ประกอบกับผลการดำเนินงานในส่วนของ IPP ที่เพิ่มขึ้น จากความพร้อมจ่ายไฟฟ้าที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนถึงความพร้อมเดินเครื่องโรงไฟฟ้าทันทีเมื่อ กฟผ. เรียกรับ โดยตอกย้ำการบริหารจัดการ และเพิ่มความเชื่อมั่นในการดำเนินการที่เป็นเลิศ พร้อมเดินหน้าต่อเนื่องในการบริหารต้นทุนการผลิต เน้นเดินเครื่องโรงไฟฟ้าต้นทุนต่ำ เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน และรักษาระดับมาร์จิ้น ท่ามกลางความผันผวนของสถานการณ์พลังงานโลก

GPSC เผยผลประกอบการ Q3 ปี 66 กำไรสุทธิ 1,790 ล้านบาท โต 441% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ของบริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 21,044 ล้านบาท ลดลง 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากราคาขายเฉลี่ยไฟฟ้าและไอน้ำที่ลดลงตามต้นทุนราคาพลังงาน ประกอบกับโรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) บางส่วนมีการเรียกรับไฟฟ้าลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,459 ล้านบาท หรือคิดเป็น 441% โดยปัจจัยหลักจากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากปัจจัยที่กล่าวข้างต้น นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของ IPP มีรายได้ค่าความพร้อมจ่ายไฟฟ้า (AP) ที่ปรับตัวดีขึ้น จากการหยุดซ่อมบำรุงลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน GPSC เผยผลประกอบการ Q3 ปี 66 กำไรสุทธิ 1,790 ล้านบาท โต 441% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า

เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,481 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 479% เป็นผลมาจากมาร์จิ้นการขายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมของโรงไฟฟ้า SPP ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับปริมาณการขายไฟฟ้าและไอน้ำรวมเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าโกลว์ พลังงาน ระยะที่ 5 ที่มีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ได้กลับมาเดินเครื่องตามปกติแล้ว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับเงินปันผลส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงุทุนในบริษัทร่วม และการร่วมค้าเพิ่มขึ้น โดยหลักจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรี จากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และได้รับเงินปันผลจากบริษัทราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด (RPCL)

ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 3,217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142% เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนแรกปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 1,328 ล้านบาท

โดยในปีนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นการบริหารจัดการในการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ผ่านการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำเป็นลำดับแรก (merit order) เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้ได้มากที่สุด รวมทั้งมุ่งเน้นการดำเนินงานด้าน synergy เพื่อบริหารจัดการการผลิต การใช้โครงข่ายไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน พร้อมกับมีมาตรการลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดเป็นไปตามเป้าหมายและกลยุทธ์ของบริษัทฯ เพื่อรักษาระดับมาร์จิ้นที่ดี พร้อมทั้งเดินหน้าขยายพอร์ตการลงทุนสีเขียวอย่างต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและการเตรียมความพร้อมภายใต้สถานการณ์ความผันผวนของราคาพลังงานในตลาดโลก


ข่าวการบริหารจัดการ+การดำเนินการวันนี้

UMI ได้รับใบประกาศเกียรติคุณโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) จาก โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก

บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ UMI ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระเบื้องชั้นนำของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ดูราเกรสและเซอเกรส ได้รับใบประกาศเกียรติคุณโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากการดำเนินการโครงการด้านพลังงาน 5 กิจกรรม คือ การลดการใช้พลังงานไฟฟ้า โรงงาน UMI 1 ปี 2567, การลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล โรงงาน UMI 1 ปี 2567, การลดการใช้พลังงานไฟฟ้า โรงงาน UMI 2 ปี

บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้น 70 ไ... บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุน TThai70ESGX และ TThaiESGX ช่วยลูกค้าบริหารภาษี - ลดหย่อนสูงสุด 800,000 บาท — บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้น 70 ไทยเพื่อความยั่ง...