ช.การช่าง พร้อมแล้วกับการเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 4 ชุด ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปในระหว่างวันที่ 25-29 เมษายน 2567 ผ่านสาขาและช่องทางออนไลน์ของธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย โดยหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A- แนวโน้ม "คงที่" จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.61% ต่อปี อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.78% ต่อปี และอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.10% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้
บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ผู้ดำเนินธุรกิจก่อสร้างที่สามารถรับบริหารโครงการขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนทุกรูปแบบ และมีความสามารถในการพัฒนา ลงทุน และบริหารโครงการสัมปทานระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่ในประเทศและภูมิภาคอย่างครบวงจร ประกาศความพร้อมในการเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 4 ชุด แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผ่านสาขาและช่องทางออนไลน์ของธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ โดยผู้ลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้พร้อมกันในระหว่างวันที่ 25 - 29 เมษายนนี้
สำหรับหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด ประกอบด้วย
กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ โดยหุ้นกู้ชุดที่ 2 - 4 มีเงื่อนไขให้ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนก่อนครบกำหนดไถ่ถอน ตามเงื่อนไขที่ระบุในข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ที่ระดับ "A-" แนวโน้ม "คงที่" เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กร
นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ช.การช่าง เปิดเผยว่า สำหรับหุ้นกู้ ช.การช่าง ที่เสนอขายในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบันเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยสนับสนุนมาจากการที่บริษัทฯ เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำในประเทศไทยที่มีความสามารถในการรับงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และโครงการที่มีความซับซ้อน และมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่เกิดจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ รวมถึงโอกาสในการเติบโตจากมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ โดย ณ สิ้นปี 2566 บริษัทฯ มีปริมาณงานในมือที่รอรับรู้รายได้ มูลค่า 128,535 ล้านบาท
"ช.การช่าง ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ใหญ่ที่สุดในหมวดธุรกิจบริการรับเหมาก่อสร้าง ที่สะท้อนถึงความมั่นคงของกิจการเท่านั้น แต่ ช.การช่าง ยังมีความสามารถในการด้านก่อสร้างและรับบริหารโครงการขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพ ไม่ใช่เฉพาะในประเทศ แต่ยังรวมถึงการรับงานโครงการขนาดใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจให้รับงานโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนในการตัดสินใจจองซื้อหุ้นกู้ ช.การช่างได้เป็นอย่างดี" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ช.การช่าง กล่าว
ปัจจุบัน บมจ.ช.การช่าง ดำเนินธุรกิจหลัก 2 ประเภท ได้แก่ (1) ธุรกิจการก่อสร้าง ทั้งระบบขนส่งมวลชน ท่าอากาศยาน ถนน ทางด่วน สะพาน พลังงาน ระบบน้ำและท่าเรือ และ (2) ธุรกิจการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภค ด้วยการเป็นผู้ลงทุนพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคด้านต่างๆ โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ประกอบธุรกิจก่อสร้างและบริหารทางพิเศษ รวมถึงบริหารจัดการโครงการระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้า ในสัดส่วน 35.18% บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ผู้ผลิตจำหน่ายน้ำประปาและบริหารจัดการน้ำเสีย ในสัดส่วน 19.40% และถือหุ้นในบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ผู้ประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ในสัดส่วน 30.00% (ข้อมูลโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566)
ขณะที่ผลประกอบการของ ช.การช่าง มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 14,419 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้รวม 19,660 ล้านบาท และปี 2566 รายได้รวมเติบโตขึ้นเป็น 37,956 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิปี 2564 - 2566 เท่ากับ 906 ล้านบาท, 1,105 ล้านบาท และ 1,501 ล้านบาท ตามลำดับ
บมจ. ช.การช่าง ยังได้รับคะแนนประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ "ดีเลิศ" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2566 โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และได้รับการประเมิน ESG Rating ในระดับ A จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประจำปี 2566 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนภายใต้หลักธรรมาภิบาลอีกด้วย
สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ ช.การช่าง สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยติดต่อผ่าน 2 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bualuang mBanking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา
ในยุคที่เศรษฐกิจไทย ยังเผชิญความท้าทายรอบด้าน จากปัญหาเชิงโครงสร้างโดยเฉพาะปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การบริหารจัดการการเงิน จึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนคนไทยเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์อย่างทั่วถึง พร้อมเสริมสร้างทักษะในการจัดการทางการเงินให้กับลูกค้าประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะข้างหน้า
3 หน่วยงานกำกับดูแล ร่วมจัดทำโครงการ Responsible Voices สำหรับ Finfluencer
—
เดินหน้าส่งเสริมการให้ข้อมูลการเงิน การลงทุน และประกันภัย อย่างมีความรับผิดชอ...
orbix and Bitstamp Explore Strategic Partnership to Elevate Thailand's Digital Asset Market
—
Orbix Trade Co., Ltd. (orbix), Thailand's leading digital as...
orbix และ Bitstamp ศึกษาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ มุ่งยกระดับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
—
ออร์บิกซ์ เทรด (orbix) ผู้นำด้านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลของประ...
CPANEL แย้ม Q2/68 แนวโน้มดี ตั้งเป้าพลิกมีกำไร ลุยเดินหน้าขยายฐานลูกค้า
—
CPANEL เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/68 แนวโน้มดี ตั้งเป้าพลิกกลับมามีกำไร จากการปรับก...
finbiz by ttb แนะ 5 กลยุทธ์สร้างความโดดเด่นให้ร้าน SME บนแพลตฟอร์ม Food Delivery
—
แม้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดธุรกิจ Food Delivery ของประเทศไทย มีความเติ...
ทีทีบีชวนทำความรู้จักกองทุน Thai ESGX ทางเลือกใหม่เพื่อวางแผนลดหย่อนภาษีและลงทุนอย่างยั่งยืน
—
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างความม...