ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม โดยให้ความสำคัญในการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง ยึดหลักพึ่งพาตนเอง สร้างรากฐานที่มั่นคงของระบบเศรษฐกิจ เดินหน้าสานต่อโครงการ "กรุงไทยรักชุมชน" อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง ควบคู่การให้ความรู้สร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
ล่าสุด ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับกระทรวงการคลัง จัดกิจกรรมให้ความรู้ทางด้านการเงิน (Financial Literacy) ให้กับ 18 ชุมชน ในพื้นที่ กทม. ครอบคลุม 11 เขต นำร่องอบรมให้ความรู้เขตพระโขนง ที่ชุมชนแย้มสรวล และชุมชนหน้าวัดบุญรอด โดยนำองค์ความรู้ทางการเงินขั้นพื้นฐาน แนวทางในการจัดการหนี้ การเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน การจัดทำหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายส่วนตัว การออมและมีวินัยทางการเงิน การป้องกันภัยทางการเงิน อันจะส่งผลดีต่อภาพรวมในการพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารได้รับความร่วมมือกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในการให้ความรู้การวางแผนการออมเพื่อวัยเกษียณ การรับสิทธิประโยชน์เงินสมทบผ่านการเป็นสมาชิก กอช. รวมทั้ง แนะนำบริการ "ออมเพลิน" บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ตัวช่วยให้การออมเป็นเรื่องง่าย สร้างวินัยทางการเงิน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ สอดคล้องกับการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) ข้อที่ 1 แก้ปัญหาความยากจน ยกระดับเศรษฐกิจระดับฐานราก ข้อที่ 4 สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ข้อที่ 8 การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องครอบคลุมและยั่งยืน และข้อที่ 17 เสริมความเข้มแข็งให้แก่กลไกการดำเนินงานและฟื้นฟูสภาพหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทย มุ่งมั่นยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทุกกลุ่มให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเป็นกำลังสำคัญสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศ ด้วยการมุ่งส่งเสริมให้คนไทยมีทักษะความรู้ทางการเงินที่ถูกต้อง เพื่อให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน อันจะส่งผลดีต่อภาพรวมในการพัฒนาประเทศ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ "กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน"
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate เหลือ 6.15% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้า SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีหรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์ นับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงิน
INETREIT ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 กวาดรายได้ 168.09 ล้านบาท เติบโต 58.50% เคาะจ่ายปันผลรายเดือน 0.0667 บาทต่อหน่วย
—
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสัง...
SCBX เปิดตัวรายงาน AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence พร้อมเทรนด์ AI สำคัญสำหรับภาคธุรกิจไทย
—
เตรียมความพร้อมสู่การเป็นองค์...
SPREME สุดสตรอง! โชว์งบ Q1/68 กำไรเพิ่มขึ้น 6.4% งานส่งมอบอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง ดันอัตรากำไรขั้นต้นสูง 32.76% ปี 68 ปักหมุดรายได้เติบโต 10-15%
—
บมจ.สุพรีม ...
PREB เตรียมออกหุ้นกู้ อายุ 2 ปี ชูอัตราดอกเบี้ย 5.25-5.40% ต่อปี คาดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 26-28 พ.ค.68
—
นายวิโรจน์ เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บร...
หุ้นกู้ "ซีพี ออลล์" อายุ 4 ปี 10 เดือน 13 วัน ช่วงดอกเบี้ย [2.80 - 2.95]% ต่อปี ทางเลือกลงทุนในธุรกิจพื้นฐานแกร่ง ช่วงดอกเบี้ยขาลง
—
คาดว่าเปิดจองให้ผู้ถ...
MPJ เปิดเกมรุก สู้ศึก TRADE WAR สบช่องขยายโอกาสการลงทุน ลุยปรับแผนเพิ่มช่องทางการขนส่งในอาเซียน-ตะวันออกกลาง
—
บมจ.เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ หรือ MPJ เปิดเกมส...
ธ.ทิสโก้ เสิร์ฟบัญชีเงินฝากประจำออนไลน์ "TISCO e-Fixed"
—
ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เอาใจคนชอบเซฟ ! เสิร์ฟบัญชีเงินฝากประจำ 9 เดือน "TISCO e-Fixed" ดอกเบ...