"บีเจซี" เผยผลประกอบการไตรมาสสุดท้าย ปี 2566 มีกำไรสุทธิรวม 1,638 ล้านบาท จากต้นทุนหลักของธุรกิจบรรจุภัณฑ์และธุรกิจอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวลดลงและโครงการเพิ่มประสิทธิภาพลดต้นทุน รวมถึงยอดขายที่เติบโตขึ้นของกลุ่มค้าปลีกสมัยใหม่
บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี เปิดเผยรายได้จากการขายและบริการในไตรมาส 4 ปี 2566 เท่ากับ 39,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 721 ล้านบาท จากปีก่อน โดดเด่นมาจากกลุ่มสินค้าและบริการค้าปลีกสมัยใหม่ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทในไตรมาส 4/66 เท่ากับ 1,638 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท จากปีก่อน
กลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ รายงานยอดขายในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 6,650 ล้านบาท ยอดขายแก้วเติบโตขึ้น ส่วนยอดขายของกลุ่มบรรจุภัณฑ์กระป๋องลดลง โดยมีกำไรสุทธิรวมที่ 564 ล้านบาท เติบโตแข็งแกร่งจากปีก่อนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบหลักที่ลดลงและโครงการลดต้นทุน
กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค รายงานยอดขายในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 5,346 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 151 ล้านบาท จากปีก่อน เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจ สาเหตุหลักจากต้นทุนน้ำมันปาล์ม ต้นทุนเยื่อกระดาษ ต้นทุนสาธารณูปโภคและค่าขนส่งที่ลดลง รวมไปถึงการปรับราคาขายเพิ่มขึ้น
กลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และเทคนิค รายงานยอดขายในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 2,158 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 816 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์มียอดขายเพิ่มขึ้นจากสินค้ากลุ่มความงามและยาโรคไต และฝ่ายการแพทย์มียอดขายลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจากปีงบประมาณที่ล่าช้า
กลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่ รายงานรายได้รวมในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 26,373 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 766 ล้านบาท โดยมาจากรายได้จากการขายสินค้าเท่ากับ 26,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 819 ล้านบาท จากปีก่อน เป็นผลมาจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,096 ล้านบาท จากการบริหารสต็อกสินค้าที่ดี และค่าใช้จ่ายในห่วงโซ่อุปทานที่ลดลงเนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจยังเดินหน้าขยายสาขาทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์ม Omnichannel บริษัทได้ร่วมมือกับ Robinhood อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าจากร้านค้าบิ๊กซีใน Robinhood Mart พร้อมจัดส่งให้กับลูกค้าในกรุงเทพอีกด้วย
กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจอย่างมั่นคง ด้วยวิสัยทัศขององค์กรที่ตั้งเป้าหมาย เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือ เพื่อร่วมสร้างให้สังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์เพื่อเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate เหลือ 6.15% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้า SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีหรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์ นับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงิน
INETREIT ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 กวาดรายได้ 168.09 ล้านบาท เติบโต 58.50% เคาะจ่ายปันผลรายเดือน 0.0667 บาทต่อหน่วย
—
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสัง...
SCBX เปิดตัวรายงาน AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence พร้อมเทรนด์ AI สำคัญสำหรับภาคธุรกิจไทย
—
เตรียมความพร้อมสู่การเป็นองค์...
SPREME สุดสตรอง! โชว์งบ Q1/68 กำไรเพิ่มขึ้น 6.4% งานส่งมอบอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง ดันอัตรากำไรขั้นต้นสูง 32.76% ปี 68 ปักหมุดรายได้เติบโต 10-15%
—
บมจ.สุพรีม ...
PREB เตรียมออกหุ้นกู้ อายุ 2 ปี ชูอัตราดอกเบี้ย 5.25-5.40% ต่อปี คาดเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 26-28 พ.ค.68
—
นายวิโรจน์ เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บร...
หุ้นกู้ "ซีพี ออลล์" อายุ 4 ปี 10 เดือน 13 วัน ช่วงดอกเบี้ย [2.80 - 2.95]% ต่อปี ทางเลือกลงทุนในธุรกิจพื้นฐานแกร่ง ช่วงดอกเบี้ยขาลง
—
คาดว่าเปิดจองให้ผู้ถ...
MPJ เปิดเกมรุก สู้ศึก TRADE WAR สบช่องขยายโอกาสการลงทุน ลุยปรับแผนเพิ่มช่องทางการขนส่งในอาเซียน-ตะวันออกกลาง
—
บมจ.เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ หรือ MPJ เปิดเกมส...
ธ.ทิสโก้ เสิร์ฟบัญชีเงินฝากประจำออนไลน์ "TISCO e-Fixed"
—
ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เอาใจคนชอบเซฟ ! เสิร์ฟบัญชีเงินฝากประจำ 9 เดือน "TISCO e-Fixed" ดอกเบ...