ชี้ดื่มเหล้าเมาถึงสมอง-เสี่ยงหมดสติ-เสี่ยงตาย พบ 56% เสียชีวิตไม่ไกลจากบ้านในรัศมี 5 กม. เกิดอุบัติเหตุดื่มขับล้มเอง 53% ในผู้ดื่มแล้วขับพบมอเตอร์ไซต์ดื่มขับสูงถึง 91
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 25667 ที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมรณรงค์สงกรานต์ ปี 2567 "สาด ไม่ดื่ม ไม่ซิ่ง" ตอน สืบสานประเพณีไทยปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา และประธานคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 มีวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน และ เป็นช่วงที่มีประชาชนจำนวนมาก ใช้รถใช้ถนนในการสัญจรเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อเยี่ยมญาติและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิด อุบัติเหตุทางถนนมากกว่าเวลาในช่วงปกติสร้างความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น สาเหตุเกิดจากผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ทุกภาคส่วนได้บูรณาการจัดกิจกรรมรณรงค์ เพื่อกระตุ้นเตือนสร้างจิตสำนึกให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ตระหนักถึงความปลอดภัยทั้งของตนเอง และเพื่อนร่วมทาง การจัดงานในวันนี้ ด้วยคำขวัญของงาน "สาด ไม่ดื่ม ไม่ซิ่ง" จากตัวเลขสถิติการเสียชีวิตของพี่น้องประชาชนในปีที่ผ่านมา จะพบว่ารถ มอเตอร์ไซด์เป็นยานพาหนะที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากที่สุด รองลงมาจากรถยนต์ส่วน บุคคล และรถสาธารณะ โดยมีสาเหตุมาจากการเมาแล้วขับ การไม่สวมหมวกกันน็อก และการใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด สงกรานต์นี้จึงขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านเดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัย
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ข้อมูลของ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด พบว่า 56% เกิดอุบัติเหตุ และเสียชีวิตไม่ไกลจากบ้านในรัศมี 5 กม. และ78% เสียชีวิตบนเส้นทางที่ใช้ประจำ เกิดจากไม่สวมหมวกนิรภัยทำให้บาดเจ็บที่ศีรษะหนักจนถึงเสียชีวิต สอดคล้องกับข้อมูลการบาดเจ็บ และเสียชีวิตช่วงสงกรานต์ 2566 ของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีผู้ดื่มแล้วขับจำนวนทั้งหมด 4,340 ราย เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี 502 ราย ส่วนมากเกิดอุบัติเหตุดื่มแล้วขับ และล้มเอง 53% โดยอุบัติเหตุเกิดบนถนนสายรองมากกว่าถนนสายหลัก และยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่คือ รถจักรยานยนต์ โดยในผู้ดื่มแล้วขับเป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ถึง 91% ซึ่งในขณะที่ดื่มแอลกอฮอล์จะยังไม่ดูดซึม แต่ในขณะที่ขับขี่กลับบ้านปริมาณแอลกอฮอล์จะดูดซึมขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงระดับที่ส่งผลทำให้หมดสติ ในส่วนของผู้ขับขี่ และเดินทางไกลที่ไม่ได้พักผ่อน หากดื่มแล้วขับก็จะยิ่งทวีความเสี่ยงระดับแอลกอฮอล์ก็จะยิ่งสูงขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ และความสูญเสียได้
"สงกรานต์ปีนี้ สสส.รณรงค์ภายใต้แคมเปญ "ดื่มไม่ขับ สงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย" ดื่มเหล้าเมาถึงสมอง สื่อให้เห็นผลกระทบของแอลกอฮอล์ ที่ส่งผลต่อสมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ความรู้สึก คึกคะนอง กล้าเสี่ยงมากขึ้น และผลิตชุดคู่มือ # save สมองจากอุบัติเหตุการขับขี่ ที่รวบรวมข้อมูล แนวทางป้องกัน สาเหตุที่ทำให้สมองเสียหายจากการไม่สวมหมวกกันน็อก และดื่มแล้วขับ รณรงค์ให้ผู้ขับขี่มีความตระหนัก นอกจากนี้ สสส.รณรงค์ได้ภายใต้แคมเปญ "รณรงค์ ไม่ดื่ม ไม่ขาย แอลกอฮอล์ ในที่สาธารณะ" เผยแพร่สปอตรณรงค์ชุด "ผิดอะไร" เชิญชวนร่วมสร้างสุขไม่สูบไม่ดื่มในพื้นที่สาธารณะ เช่น พื้นที่สวนสาธารณะ อุทยานแห่งชาติ ภูเขา ทะเล น้ำตก หรือในพื้นที่จัดงานประเพณีสงกรานต์เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่ดีงาม เปิดรับนักท่องเที่ยว ลดเสี่ยง เพิ่มพื้นที่ปลอดภัย เช่น ถนนตระกูลข้าวกว่า 60 แห่ง และพื้นที่เล่นน้ำของภาคเอกชนกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ช่วงสงกรานต์ฝากให้ทุกคนเป็นตำรวจบ้าน ติดตามตรวจเตือน คนในครอบครัว ที่อาจจะมีโอกาสเสี่ยง ช่วยกันกระตุ้นเตือน เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแล้วไปขับรถ" นพ.พงศ์เทพ กล่าว
นางวรรณี มีขวด พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ปกติการทำงานในห้องฉุกเฉินจะมีคนไข้จำนวนเยอะอยู่แล้ว แต่ในช่วงเทศกาลจะมีมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ทั้งอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท จึงมีความยากลำบากในการทำงาน ผู้บาดเจ็บจากปัญหาอุบัติเหตุ สิ่งหนึ่ง คือ ดื่มแล้วขับ ปัญหาดื่มเหล้าแล้วทะเลาะวิวาท หลายครั้งเกิดการทะเลาะวิวาทคู่กรณีมาถึงในห้องฉุกเฉิน แทบจะทุกกรณีปัญหาเกิดจากดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติ แพทย์พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานกันอย่างหนัก จึงอยากร้องขอให้เทศกาลสงกรานต์ไม่ดื่ม หรือดื่มไม่ขับ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัดล้นช่วงเทศกาล เก็บเตียงไว้ให้คนไข้ที่จำเป็นจริงๆ ลดภาระให้กับบุคลากรทางการแพทย์
ย่านเดียวจบครบทุกแลนด์มาร์ก…ถ่ายรูปเช็คอิน กิน เล่น ช็อปฯ สนุกได้ทั้งคนฉายเดี่ยวและไปกับครอบครัว การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอยของ สวนกีฬาไคตั๊ก (Kai Tak Sports Park) เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาในย่านไคตั๊กทำให้ฮ่องกงกลับมาเป็นจุดสนใจของโลกอีกครั้ง จากการพลิกโฉมสนามบินเก่าสู่แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางฮ่องกงที่ครบครันทั้งกิจกรรมกีฬา ความบันเทิง และไลฟ์สไตล์ หนึ่งในจุดเด่นของโครงการนี้คือ Kai Tak Mall แหล่งช้อปปิงแนว "สปอร์ตเทนเมนต์" แห่งแรกของฮ่องกง ที่ผสานกีฬาและความสนุกเข้าไว้ด้วยกัน
เซ็นทารามอบข้อเสนอและสิทธิประโยชน์สุดคุ้ม เมื่อจองตรงบนเว็บไซต์เซ็นทารา
—
จองห้องพักตรงกับเซ็นทารา เพื่อรับราคาดีที่สุด ส่วนลดพิเศษ และสิทธิเพิ่มเติมมากมา...
เวียตเจ็ท ผนึกกำลัง คาซัคแอร์ เปิดตัวสายการบิน "Vietjet Qazaqstan" สานต่อความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์
—
เวียตเจ็ท (เวียดนาม) และสายการบินคาซัคแอร์ ประกาศความ...
ดุสิต ฟู้ดส์ ผนึกการบินไทย ต่อยอดความสำเร็จโครงการ 'Street to Sky' เตรียมส่ง 4 เมนูใหม่จาก SMEs เจ้าเด็ดเมนูดัง เสิร์ฟบนเที่ยวบินการบินไทย
—
บริษัท ดุสิต ...
Dive Terminal Scuba Diving ผุดแคมเปญเซฟชีวิตสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล
—
"Don't Touch Marine Life" พร้อมแชร์ประสบการณ์ในงาน TDEX 2025 แม้จะมีการรณรงค์และให้คว...
"ไททันบุกไทย! เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดประตู 'Attack on Titan Final Exhibition' ดื่มด่ำกับปัจฉิมบทของมหากาพย์สะเทือนโลก
—
7 พ.ค. 18 มิ.ย. 68 ที่ 'CentralWorld P...
ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท เกาะสมุย ฉลองครบรอบ 17 ปี
—
เตรียมเปิดวิลล่าใหม่รับทุกความต้องการของทุกกลุ่มนักเดินทาง ยกระดับการพักผ่อนด้วยสุดยอดรางวัล พร้อมม...
เหล่าไอคอน LGBTQIAN+ ผนึกดารา-ศิลปินดัง ร่วมสร้างปรากฏการณ์เทศกาลระดับโลก
—
"Bangkok Pride Festival" และ "The Celebration : Right to Love 2025" กลุ่มสยามพ...
แอร์เอเชียจัดโปรบินคุ้มชวนคนไทยตะลอนเที่ยว เติมไฟกลางปี เริ่มต้นเพียง 855 บาทต่อเที่ยว!
—
แอร์เอเชียจัดโปรโมชั่นใหญ่เตรียมเข้าสู่กลางปี ชวนเที่ยวไทยทั่วทุ...
เผยภาพแรกภาพยนตร์ "มือปืน" พร้อมจุดชนวนความมันส์! 27 พฤศจิกายนนี้
—
แค่เริ่มก็เตรียมจุดชนวนเดือดกันได้เลย กับภาพแรกของ ภาพยนตร์ "มือปืน" โดยมีนักแสดงอย่าง...