กรมพัฒนาที่ดิน รณรงค์ทำน้ำหมักชีวภาพคุณภาพสูงจากปลาหมอสีคางดำ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ทำการเกษตร บูรณาการหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอสีคางดำ ปกป้องสัตว์น้ำเศรษฐกิจพื้นถิ่น และรักษาระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่นยืนนายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายใต้การนำของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดิน นำนวัตกรรมจากผลิตภัณฑ์สารเร่งจุลินทรีย์ มาใช้ประโยชน์ ในการร่วมแก้ไขปัญหาจากการจับปลาหมอสีคางดำที่มีจำนวนมาก นำมาเป็นวัสดุสำคัญเพื่อใช้ผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพผสมกับผลิตภัณฑ์ สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 ซึ่งเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยโปรตีนและไขมันของซากสัตว์ ทำให้สามารถผลิตน้ำหมักชีวภาพในระยะเวลารวดเร็วและได้คุณภาพ ซึ่งน้ำหมักชีวภาพจากปลามีแหล่งอาหารที่สำคัญต่อจุลินทรีย์ในดิน ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์และธาตุอาหารรวมทั้งฮอร์โมนช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ทำให้สามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังสามารถช่วยลดจำนวนปลาหมอสีคางดำที่ก่อปัญหาต่อระบบนิเวศในแหล่งน้ำ ปกป้องสัตว์น้ำเศรษฐกิจพื้นถิ่น และรักษาระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่นยืนต่อไป
โดยสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 10 สถานีพัฒนาที่ดินสมุทรสาคร สถานีพัฒนาที่ดินสมุทรสงครามและสถานีพัฒนาที่ดินเพชรบุรี จึงจัดการรณรงค์การทำน้ำหมักชีวภาพคุณภาพสูง (สูตรไนโตรเจนสูง) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 ณ วัดบ้านโคก หมู่ที่ 2 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนมีการทำน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอสีคางดำ และเป็นการควบคุมกำจัดปลาหมอสีคางดำ เพื่อสร้างความสมดุลของระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งจากการศึกษาของกรมพัฒนาที่ดิน พบว่า น้ำหมักชีวภาพจากปลา มีไนโตรเจน 0.98 % ฟอสฟอรัส 1.12% โพแทสเซียม 1.03 % แคลเซียม 1.66 % แมกนีเซียม 0.24 % และกำมะถัน 0.20 % นอกจากนี้มีกรดอินทรีย์ และสารฮอร์โมนต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช สำหรับสูตรการผลิตให้นำปลาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เทผสมลงในถังน้ำหมักที่มีส่วนผสมของกากน้ำตาล 10 กิโลกรัม น้ำ 10 ลิตร และผลิตภัณฑ์สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 จำนวน 1 ซอง (25 กรัม) นำมาคนให้เข้ากัน ปิดฝาไม่ต้องสนิท และตั้งไว้ในที่ร่ม ในระหว่างการหมักจะพบเห็นฝ้าขาวซึ่งเป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่ผิวหน้าของวัสดุหมัก ฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมีกลิ่นแอลกอฮอล์ จึงจำเป็นต้องคนน้ำหมัก ทุกๆ 2-3 ครั้งต่อวัน เพื่อระบายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และทำให้ส่วนผสมคลุกเคล้าได้ดียิ่งขึ้น โดยหมักไว้ประมาณ 25-30 วัน ซึ่งการพิจารณาว่าน้ำหมักชีวภาพจะพร้อมใช้งาน สามารถสังเกตได้จากคราบเชื้อฝ้าขาวที่พบลดลง ไม่พบฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กลิ่นแอลกอฮอล์ลดลง และความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) เฉลี่ย 3.5 โดยวิธีการใช้เพียงแค่นำน้ำหมักชีวภาพจากปลา 1 ลิตร ผสมกับน้ำ 100-150 ลิตร ฉีดพ่นกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้กับเกษตรกรได้
พีทีที สเตชั่น ร่วมกับ ทิพยประกันภัย เติมเต็มความห่วงใยทุกการเดินทาง เติมน้ำมันครบ 500 บาท มอบประกันอุบัติเหตุฟรี รับปีใหม่
กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรฯ เชิญร่วมงาน Amazing Thailand Phayao Countdown Flora Fest 2026 ณ ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง จ.พะเยา 28-31 ธันวานี้
เผยผลวิจัยการซื้อรถใน Motor Expo 2025 "Chery - JAECOO - AION" ครอง 3อันดับแบรนด์รถที่ลูกค้าพอใจสูงสุด
67.8 % คนกทมจะออกไปเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร อยากได้ผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต อยากได้นโยบายด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จะตัดสินใจเลือกจากนโยบายพรรคการเมือง
Centara X Icons Series - Landmark Sports Partnership Unveiled at Star-Studded Launch Event in Bangkok
GUNKUL คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับสูงสุด AAA ตอกย้ำความพร้อมเป็น Green Transition Partner อย่างยั่งยืน
กรังด์ปรีซ์ฯ คว้ารางวัลดีเด่น "อาคารสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน" จาก พพ. กระทรวงพลังงาน ในงาน Thailand Energy Awards 2024
PPS ผู้บริหารงานก่อสร้างชั้นนำ เผยความสำเร็จปีนี้ ชนะงานใหญ่หลายโครงการ เพิ่มแบ็คล็อครวมเป็น 426 ล้านบาท
พรีเมียร์ลีกโค้งปลายปีเดือด! เกมใหญ่ 27-28 ธ.ค. นี้ บิ๊กทีม "ผี-เรือ-หงส์-ปืน" ฟาดแข้งลุ้นขยับอันดับตาราง