กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) เทคซอส และสมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย (TSA) เป็นเจ้าภาพร่วม (Co-host) ในการจับมือกับ Epicenter เปิดตัวโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพไทย-สวีเดน "The Scaleup Impact! Thailand - Sweden Global Startup Acceleration Program" เพื่อยกระดับระบบนิเวศสตาร์ทอัพของประเทศไทยสู่เวทีระดับสากล โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงระหว่างสตาร์ทอัพไทยสาขา Impact Tech กับตลาดระดับโลก ผ่านกระบวนการบ่มเพาะที่เข้มข้นเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก โดยมีนางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ให้เกียรติกล่าวเปิดงานร่วมกับ ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
นางอรุณรุ่ง โพธิ์ทอง ฮัมฟรีย์ส เอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจหลักของ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม และ Thailand and Nordic Countries Innovation Unit (TNIU) คือ การส่งเสริมการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความยั่งยืน ซึ่งสวีเดนขึ้นชื่อว่าเป็น "Innovation Powerhouse" หรือผู้นำทางด้านนวัตกรรมอันดับต้นของโลก และยังเป็นศูนย์กลางของยูนิคอร์นที่ประสบความสำเร็จมากมาย ซึ่งกุญแจสำคัญคือการเข้าถึงโอกาสและระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่ส่งเสริมต่อการเติบโตสู่ระดับโลก ด้วยเหตุนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ พร้อมด้วยหน่วยงานชั้นนำในระบบนิเวศสตาร์ทอัพของไทยทั้งภาครัฐและเอกชน จึงได้ริเริ่ม "Flagship project" ที่มีการบูรณาการ
ทั้งด้านแผนงาน งบประมาณ การสนับสนุนโครงการฯ โดยโครงการ Scaleup impact! นี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ร่วมงานกับบริษัท Epicenter (Stockholm) ซึ่งเป็น Accelerator ที่มีความเชี่ยวชาญในการส่งเสริมศักยภาพสตาร์ทอัพ เพื่อเปิดประตูโอกาสจากไทยสู่สวีเดน ภูมิภาคนอร์ดิก และตลาดโลก
"ในสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ความท้าทายใหม่ ๆ ต้องอาศัยโซลูชั่นใหม่ ๆ และการรวมพลังจากทุกภาคส่วน ซึ่งสตาร์ทอัพคือกำลังสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างผลกระทบได้อย่างรวดเร็ว ดิฉันจึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมสู่เป้าหมายความยั่งยืนเข้าร่วมโครงการนี้ และดิฉันเชื่อมั่นในศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยว่าสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด จาก "Soonicorn สู่การเป็น ยูนิคอร์น" ได้ในอย่างแน่นอน"
รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กล่าวว่า บพข. โดยแผนงานโครงการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือนานาชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ
ในการแข่งขันของประเทศ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความสามารถทางการแข่งขันระดับนานาชาติของภาคเอกชนไทยผ่านกระบวนการความร่วมมือในรูปแบบเครือข่ายที่มีการทำงานร่วมกันทั้งภาคการศึกษา สถาบันวิจัย ภาครัฐ และภาคเอกชน
ของไทยและต่างประเทศในการทำงานวิจัยและสร้างนวัตกรรม ผ่านเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ ในรูปแบบกระบวนการเลือกรับเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และการถ่ายทอดวิทยาการและเทคโนโลยีที่พัฒนาในประเทศให้กับต่างประเทศที่ต้องการอย่างมีทิศทาง ตรงตามความต้องการของประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคเอกชนไทยในการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมเข้าสู่ตลาดนานาชาติได้
"สำหรับโครงการนี้ บพข. ยินดีสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะกลุ่ม Deep Tech Startup มีโอกาสเร่งสร้างการเติบโต โดยเข้าสู่เครือข่ายผู้ประกอบการในประเทศสวีเดน เพื่อเป็นหมุดหมายแรกในการเข้าสู่ตลาดโลก ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสสร้างขีดความสามารถการแข่งขันระดับนานาชาติ และโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนขนาดใหญ่ที่จะช่วยทำให้สินค้าและบริการของไทยกระจายไปได้ทั่วโลก
ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า NIA ในฐานะ
"ผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม" มุ่งเน้นส่งเสริมสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดดเพื่อก้าวสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดสวีเดน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่แข็งแกร่งและเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมชั้นนำของโลก สำหรับความร่วมมือภายใต้โครงการ The Scaleup Impact! Thailand - Sweden Global Startup Acceleration Program ครั้งนี้
เป็นการบ่มเพาะสตาร์ทอัพไทยสาขา Impact Tech ที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จำนวน 12 ราย โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงระหว่างสตาร์ทอัพไทยกับตลาดระดับโลก ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากผู้ประกอบการและนักลงทุนชั้นนำจากสวีเดน ซึ่งมีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมและมีสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จจำนวนมาก และสาขา Impact Tech เป็นสิ่งที่นักลงทุนกลุ่มประเทศนอร์ดิกให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน ตั้งแต่กันยายน 2567 - มีนาคม 2568 ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลาย ได้แก่ การเวิร์กช็อปเพื่อกำหนด Objectives and Key results (OKR) การให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ (Expert talks) และการจับคู่ธุรกิจ (Active Sales Support + Match Making) เพื่อพัฒนาทักษะและขยายเครือข่ายให้สตาร์ทอัพไทยสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ นอกจากนี้ ยังจะได้รับโอกาสนำเสนอแผนธุรกิจ ณ ประเทศสวีเดน ในงาน Thailand Pitch Day 2025 เดือนมีนาคม 2568 อีกด้วย
"โครงการนี้ นอกจากจะช่วยเปิดประตูสตาร์ทอัพไทยสู่ตลาดใหม่ ๆ และสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างไม่จำกัดแล้ว ยังช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถเข้าถึงทรัพยากร เครือข่าย รวมถึงตลาดยุโรปที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและเป็นผู้นำระดับโลกได้ในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ NIA ในการขับเคลื่อนสตาร์ทอัพไทยสู่ระดับโลก"
ทั้งนี้ สตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีในช่วงระยะเริ่มต้น (early stage) ที่ต้องการขยายธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศในสาขา ImpactTech เช่น Smart City Solution, Green Energy, Climate Tech, Creative Industries, Health Tech, FoodTech, Fin Tech สามารถเข้าร่วมโปรแกรม "The Scaleup Impact! Thailand - Sweden Global Startup Acceleration Program" ได้ที่ Epicenter Accelerate Thailand Cohort 2024/25 (confetti.events) หรือ แสกน QR Code สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2567
NIA ร่วมกับ ซีพี ซีดดิ้ง โซเชียลอิมแพคท์ ผลักดันผู้ประกอบการไทยสู่ธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน
NIA ผนึก TikTok ประกาศ 6 ผู้ชนะ InnovaTok Contest 2025 ดันครีเอเตอร์สายนวัตกรรม จุดกระแสคอนเทนต์วิทย์-เทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
เอ็นไอเอปั้น 80 ผู้นำนวัตกรรมเชิงนโยบายหนุนมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ
NIA เดินหน้าสร้าง "ชาติแห่งนวัตกรรม" เปิดรับสมัคร "รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2568"
จุฬาฯ จับมือ NIA ปั้น "ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย" สร้างเวทีบ่มเพาะนวัตกรรมและธุรกิจ Startup จากงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์
ครั้งแรกในไทย นวัตกรรมสเต็มเซลล์เพื่ออนาคตสุขภาพสัตว์เลี้ยง
เอ็นไอเอ ผนึกพันธมิตร เปิดพื้นที่ให้ "นวัตกรรุ่นใหม่" โชว์นวัตกรรมสร้างโลกยั่งยืนใน "STEAM4INNOVATOR's Day 9.9"
เอ็นไอเอเปิดฟอรั่มโอกาสเฮลท์เทคไทย พร้อมเผยผลการจัดอันดับนวัตกรรมโลก 2025
STA รับประกาศนียบัตร SDGs for Climate X Program ตอกย้ำความมุ่งมั่น ESG และนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมยั่งยืน