บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนในไทย ประกาศเปิดเพิ่มเหรียญสกุลเงินดิจิทัลเหรียญใหม่เข้ากระดานเทรดอีก 9 สกุล ในปี 2567 ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาบริการและการขยายตัวในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
นายชาญวิทย์ รุ่งเรืองลดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด กล่าวว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยมีโอกาสเติบโตตามทิศทางตลาดโลก โดยสินทรัพย์ดิจิทัลหลายประเภทให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุน
บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล orbix Trade หรือที่รู้จักกันในนามแบรนด์ orbix ได้ประกาศเปิดตัวเหรียญสกุลดิจิทัลใหม่ ได้แก่ Ondo Finance (ONDO), NEAR Protocol (NEAR), GALA (GALA), Polygon (MATIC), The Graph (GRT), Zentry ($ZENT), Ethena ($ENA), Mantle ($MNT) และ Toncoin ($TON) เข้ากระดานเทรดอย่างเป็นทางการ และพร้อมให้ผู้ใช้งานได้ทำการเทรดซื้อขายและโอนเหรียญแล้ว
ทั้งหมดเป็นเหรียญที่ผ่านการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ (Prudent Product Selection) ตามเกณฑ์คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุน โดยพิจารณาจากคุณสมบัติเหรียญ เทรนด์ของสินทรัพย์ฯ ตามสภาวะของตลาด ตลอดจนความหลากหลายของเหรียญ อย่างเหรียญ Layer2/Layer1 เหรียญ protocol ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็จะมีการทบทวนคุณสมบัติของเหรียญในกระดานซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ หากเหรียญใดไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อนักลงทุน ก็จะมีการพิจารณานำออกจากกระดาน (Delist) เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุน ปัจจุบันมีเหรียญสกุลดิจิทัลที่พร้อมเทรดอยู่บน orbix Trade จำนวน 45 สกุล
orbix ยังคงประสบความสำเร็จจากการมีผู้ใช้ฟีเจอร์บนแพลตฟอร์ม ที่ตอบสนองเพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานตามความต้องการของนักลงทุน ได้แก่
Wallet Lock ระบบล็อกกระเป๋าสองชั้นที่ผู้ใช้งานสามารถเปิด-ปิดพอร์ตได้ด้วยตนเองปลอดภัย
Price alert ระบบตั้งเตือนราคาสินทรัพย์ดิจิทัลแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องเฝ้าดู ทำให้ไม่พลาดทุกโอกาสการซื้อขาย สามารถเลือกเหรียญที่ต้องการให้แจ้งเตือนได้ด้วยตนเอง
orbix Balance ระบบช่วยคำนวณต้นทุนเหรียญแบบอัตโนมัติ ทำให้รู้กำไรขาดทุนทุกเหรียญโดยไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ ซึ่งเปิดตัวให้บริการเมื่อเดือนมิถุนายน 2567
นอกจากความสำเร็จจากผู้ใช้ฟีเจอร์ ทาง orbix เองก็ใส่ใจและเข้าใจปัญหาของผู้ใช้งานตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครและยืนยันตัวตน (KYC) หลังจากเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ได้มีการพัฒนาและอัปเดตการยืนยันตัวตน (KYC) ใหม่ สำหรับช่องทาง K+ Authentication ผ่านแอป K+ ที่ปรับปรุงขั้นตอนให้ลูกค้าได้ใช้งานสะดวกขึ้น นับเป็นการเพิ่มตัวเลือกช่องทางให้ผู้ใช้มากขึ้น ส่งผลให้มีผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป สมัครและยืนยันตัวตน KYC เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงที่ยังไม่ได้มีการอัปเดตระบบยืนยันตัวตนผ่านแอป K+
นายชาญวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นปรับตัวและเติบโตในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย "Easy & Trustworthy" ผ่านระบบนิเวศธุรกิจ (Ecosystem) ที่ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบของแอปพลิเคชันในแง่การส่งมอบประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้งานให้สามารถเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือ และลูกค้าสามารถมั่นใจได้ ส่งผลให้ ณ เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา orbix มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยอดดาวน์โหลดและจำนวนลูกค้าที่สมัครเปิดบัญชีสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้
สามารถอ่านรายละเอียดข่าวสาร กิจกรรมของ orbix เพิ่มเติมที่ www.orbixtrade.com/blog
**********
คำเตือน "สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้"
ก.ล.ต. ไม่ยืนยันการสแกนม่านตาเพื่อแลกเหรียญ WLD ถูกกฎหมายหรือไม่
Ledger เปิดตัว "Ledger Nano(TM) Gen5" และ "Ledger Wallet(TM)" มาตรฐานใหม่ ยกระดับความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก
ออร์บิกซ์ คว้า 3 รางวัลระดับโลก ตอกย้ำความน่าเชื่อถือ และมาตรฐานระดับสากลของแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศร่วมมือ Plasma (XPL) ขยายโครงสร้างพื้นฐาน Stablecoin และ Scaling Solution
PayPay และ Binance Japan ประกาศร่วมลงทุนและเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ
Thailand Blockchain Week 2025 มหกรรมงานบล็อกเชนและการเงินแห่งโลกอนาคต
บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ เปิดตัว "แอป Bitkub ใหม่ สมาร์ตกว่าเดิม" ?ชูประสบการณ์เทรดแบบแอดวานซ์ ลื่นไหลปลอดภัยตามมาตรฐานสากล