สภาพอากาศที่แปรปรวนสุดขั้วและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงขึ้นทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นคลื่นความร้อนที่แผดเผา ภัยแล้งที่ยาวนาน การขาดแคลนน้ำและอาหารในหลายพื้นที่ น้ำท่วมฉับพลัน ไฟป่าที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือที่เรียกกันว่า ภาวะโลกร้อน ที่เกิดขึ้นแล้ว และนับวันจะยิ่งรุนแรงขึ้นทุกขณะ หากไม่เร่งช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ผลกระทบจะยิ่งรุนแรงและส่งผลร้ายต่อทุกชีวิตบนโลก
แล้วใครจะช่วยหยุดปัญหานี้ ?
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราทุกคนจะลุกขึ้นมา "เปล่งแสง" ส่องสว่าง ปล่อยพลังกู้โลกใบนี้ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ในฐานะที่คร่ำหวอดในธุรกิจพลังงานและเชี่ยวชาญด้านการสร้างความยั่งยืน มองว่านอกจากจะต้องรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าที่กำลังเกิดขึ้นและแก้ไขโดยเร่งด่วนแล้ว สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปอย่างจริงจังในระยะยาว คือ การปลูกสร้างจิตสำนึกและปลุกพลังรักษ์โลกให้กับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ไม่เพียงจะมาช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันแต่ยังเป็นความหวังที่จะช่วยสร้างอนาคตให้ดีขึ้นได้และเพื่อเป็นการปลุกพลังเด็กและเยาวชน พร้อมจุดประกายให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาและช่วยกันหาทางกู้โลก EGCO Group โดย ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม จ.นครศรีธรรมราช จึงได้ปิ๊งไอเดียสุดเจ๋ง จัดนิทรรศการสุดพิเศษ "Glow in the Dark" ภายใต้ธีม "นวัตกรรมวิทย์ พลิกโลก ตอน Climate Tech
เด็กเปล่งแสง ลดโลกเดือด" ซึ่งมีที่มาจากความเชื่อที่ว่า "เด็กทุกคนมีแสงและมีศักยภาพในตัวเอง"โดยเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้โชว์ศักยภาพ หรือ "เปล่งแสง" ออกมาได้อย่างเต็มที่เพื่อช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้โลกใบนี้นิทรรศการพิเศษชุด Glow in the Dark เป็นนิทรรศการที่ถ่ายทอดความรู้ด้านนวัตกรรมพลังงาน วิทยาศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่ตื่นเต้น สนุกสนาน ที่จะพาทุกคนผจญภัยข้ามกาลเวลาย้อนกลับไปในยุคอดีตที่ขนอมยังมืดมิด แต่อุดมสมบูรณ์ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและร่องรอยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ สู่ยุคปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และมุ่งหน้าสู่อนาคตสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะช่วยจุดประกายให้ทุกคนเกิดไอเดียสร้างสรรค์ และ "เปล่งแสง" ทางความคิด เพื่อร่วมกันหยุดยั้งภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องเผชิญและร่วมมือกันแก้ไข เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่สำหรับทุกคน นิทรรศการ "Glow in the Dark" กับเสียงตอบรับ สุดประทับใจ
นายชยณัฐ สมบัติพิบูลย์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนขนอมพิทยาคม เล่าความประทับใจที่ได้มาชมนิทรรศการว่า ปกติมาเป็นประจำทุกปี ชื่นชอบ "Glow in the Dark" นิทรรศการโซนพิเศษ ของปีนี้เป็นอย่างมาก เพราะแปลกใหม่ ตื่นตาตื่นใจ และได้เรียนรู้เรื่องการคิดค้นนวัตกรรม เช่น พลังงานทดแทนที่ช่วยลดปัญหาโลกเดือดที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของโลกในขณะนี้ ซึ่งเด็กๆ ก็มีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาได้ นอกจากนี้ยังประทับใจแนวคิดเรื่องเครื่องเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์ในทะเลที่ทำงานได้ตลอดเวลาซึ่งเป็นไอเดียสุดสร้างสรรค์จากนวัตกรเยาวชน อยากชวนคนที่ยังไม่เคยมางานนี้ให้มาลองสัมผัสด้วยตัวเอง นอกจากจะได้ไอเดียเจ๋งๆ ที่ช่วยลดโลกร้อนแล้ว อาจได้แรงบันดาลใจดีๆ จนโตไปเป็นวิศวกรที่คิดค้นนวัตกรรมเจ๋งๆ ได้ในอนาคต
ด้านนางสาวพิฌชาวดี ชูทอง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท้องเนียนคณาภิบาลเล่าว่า มางานวิทยาศาสตร์ ณ ศูนย์เรียนรู้ฯ แห่งนี้ เป็นครั้งที่ 2 แล้ว รู้สึกสนุกมาก และชอบนิทรรศการ Glow in the Dark ที่เป็นเมืองดอกไม้เรืองแสงมากเป็นพิเศษ เพราะเพิ่งเคยเห็น Black Light เป็นครั้งแรก รู้สึกสวยงามตระการตาและน่าประทับใจมากๆ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้เรื่องการเรืองแสงและนวัตกรรมลดโลกเดือด โดยเฉพาะการชมภาพยนต์ใน Immersive Theater ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนช่วยกันคิดค้นนวัตกรรมเพื่อหยุดยั้งอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เพื่อช่วยกันดูแลรักษาโลกใบนี้ไว้ เชื่อว่าถ้าเราทุกคนร่วมมือกันต้องทำได้ เพราะทุกคนมีศักยภาพที่ซ่อนอยู่ ขอแค่ดึงออกมาใช้ และอยากเชิญชวนทุกคนให้มาเที่ยวชมงานวิทยาศาสตร์ในครั้งนี้ เพราะทั้งสนุก ทั้งมีสาระ และยังได้แรงบันดาลใจและไอเดียดีๆกลับบ้านอีกด้วย
ด้าน น.ส.ธัญชนก มหาพงษ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านเขาหัวช้าง เล่าว่าชอบแนวคิดของงานวิทยาศาสตร์ในปีนี้ที่สะท้อนว่าเด็กเป็นอนาคตของโลกใบนี้ และชอบกิจกรรมในงานมากๆ เช่น การประดิษฐ์หมวกวิศวกรน้อย การเพ้นท์ผีเสื้อเรืองแสง โดยเฉพาะนิทรรศการพิเศษ Glow in the Darkที่สวยงามอลังการ และยังได้เรียนรู้เรื่องปัญหาโลกเดือดผ่านนิทรรศการที่ตื่นตาตื่นใจและกิจกรรมสนุกๆ เช่น เกมดักจับและกักเก็บคาร์บอน ซึ่งจะนำความรู้และประสบการณ์ดีๆ ที่ได้จากงานนี้ไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟังและชวนทุกคนมาช่วยกันลดโลกร้อน ถ้าใครมีโอกาสก็ไม่อยากให้พลาดมาร่วมกิจกรรม เพราะได้ประโยชน์และเป็นเรื่องใกล้ตัวจริงๆ
ด้านคุณครูที่พาเด็กๆ มาร่วมกิจกรรม อย่างเช่น ครูทัศนะ รามทัศน์ จากโรงเรียนท้องเนียนคณาภิบาล เผยถึงความประทับใจที่ได้มาชมนิทรรศการว่า การเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจและทำให้เด็กๆ ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาโลกเดือดอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้เด็กๆ จะรู้จักแค่ปัญหาโลกร้อน แต่ยังไม่รู้ว่าตอนนี้ปัญหาลุกลามรุนแรงจนเข้าขั้นกลายเป็นโลกเดือดไปแล้ว รวมถึงได้เรียนรู้นวัตกรรมพลังงานที่จะมาช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ ผ่านเกม เช่น การดักจับและกักเก็บคาร์บอนที่ให้ทั้งความรู้เรื่องผลกระทบจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และให้ความสนุกสนานไปพร้อมกัน และไม่ใช่แค่เด็กที่ได้ประโยชน์เท่านั้น แต่ครูก็ได้รับแรงบันดาลใจที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนที่ทำให้นักเรียนได้รับทั้งสาระและความสนุก
ขณะที่ครูสุวิษา หมวดดำ ครูวิทยาศาสตร์ จากโรงเรียนบ้านเขาหัวช้าง เล่าว่า เยาวชนในพื้นที่ อ.ขนอม อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมาตลอด และยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจถึงปัญหาโลกเดือด การเข้าร่วมกิจกรรมนี้จึงทำให้นักเรียนได้เปิดหูเปิดตาและเข้าใจสิ่งที่เคยเรียนรู้ในห้องเรียนได้อย่างชัดเจนและเห็นภาพ พร้อมตระหนักถึงภัยอันตรายที่ค่อยๆ คืบคลานเข้ามา และช่วยจุดประกายความคิดให้เด็กๆ ว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างไร อีกทั้งยังทำให้เกิดแรงบันดาลจากนวัตกรรมลดโลกเดือดที่คิดค้นโดยเพื่อนๆ นวัตกรทั่วโลก ในขณะที่คุณครูเองก็จะนำความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดและสอนในห้องเรียน เพื่อให้เด็กๆ ได้รับความรู้อย่างเต็มที่ รวมถึงจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนที่สนใจชวนครอบครัวมาเที่ยวและทำกิจกรรม
"โรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำ" จากอดีตผู้สร้างแสงสว่างในภาคใต้ สู่ "ศูนย์เรียนรู้" ผู้จุดไฟทางปัญญาในปัจจุบัน
นอกเหนือจากนิทรรศการสุดพิเศษที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาสร้างสีสันเป็นประจำทุกปีแล้วEGCO Group ยังตั้งใจสร้างสรรค์ ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ถาวรด้านการผลิตไฟฟ้า พลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ชุมชน และประชาชนทั่วไปพร้อมปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วยกัน ซึ่งความพิเศษของที่นี่ คือ การแปลงโฉมโรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำลำแรกและลำเดียวของไทยที่ปลดระวางแล้วมาจัดทำเป็นศูนย์เรียนรู้ที่แห่งนี้จึงไม่ใช่แค่ศูนย์เรียนรู้ด้านพลังงานไฟฟ้าทั่วไป แต่ยังเปรียบเหมือน "ไทม์แมชชีน" ที่จะพาทุกคนเดินทางย้อนเวลาไปทำความรู้จักกับประวัติศาสตร์โรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำลำแรกและลำเดียวในไทยที่ครั้งหนึ่งเคยให้กำเนิดพลังงานไฟฟ้าสร้างแสงสว่างให้พื้นที่ปักษ์ใต้ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คน ชุมชน และธรรมชาติที่อยู่ร่วมกับโรงไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน
เปิดโลกแห่งการเรียนรู้ที่สนุกสนาน และสร้างสรรค์ ที่ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม
ลบภาพการเรียนรู้ที่น่าเบื่อออกไป เพราะศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอมแห่งนี้ คือ แหล่งเรียนรู้เชิง Edutainment ที่มีการนำเสนอที่แปลกใหม่ ตื่นตาตื่นใจ ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ไปพร้อมๆ กับสาระเน้นการเรียนรู้ด้วยการลงมือสัมผัส จับต้อง ทดลอง และลงมือทำจริง ผ่านนิทรรศการถาวร 7 โซน โดยแต่ละโซนมีจุดเด่นที่น่าสนใจ ดังนี้ โซน 1 ค้นพบเปลี่ยนโลก ชวนเจาะเวลาหาอดีตไปสนุกกับประวัติศาสตร์การกำเนิดพลังงานไฟฟ้า โซน 2 ย้อนอดีตโรงไฟฟ้าขนอมหน่วยที่ 1 พาย้อนวันวานสู่วันแรกที่โรงไฟฟ้าเรือลอยน้ำเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากประเทศญี่ปุ่นก่อนจะเข้าเทียบท่าชายฝั่งอ่าวไทยที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2523 พร้อมลุ้นระทึกไปกับปฏิบัติการกู้วิกฤตในวัน Blackout Day ที่ไฟดับทุกจังหวัดในภาคใต้ โซน 3 เราผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร โชว์กระบวนการผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันไอน้ำขนาดใหญ่ผ่านเทคโนโลยี Projection Mapping ที่เข้าใจง่ายและตื่นตาตื่นใจ โซน 4 ป่า เขา ทะเล คือเสน่ห์ของขนอม พาสัมผัสธรรมชาติอันงดงามของทะเลขนอม ชมวิถีประมงพื้นบ้าน และถ้าโชคดีอาจได้เจอโลมาสีชมพูเจ้าถิ่นที่สุดแสนน่ารัก โซน 5 รักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นมากกว่าหน้าที่ พาไปทำความรู้จักกับการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนของโรงไฟฟ้า โซน 6 บ้านของเรา พาสำรวจวิถีชีวิต วิถีชุมชนและวัฒนธรรมของชาวขนอมผ่านมุมมองของคนท้องถิ่น โซน 7 แหล่งเรียนรู้อำเภอขนอม รวบรวมแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวในขนอมซึ่งคัดเลือกและออกแบบสัญลักษณ์ของหมุดหมายโดยชุมชนและเยาวชนในพื้นที่
นางสาวพินทุ์สุดา เปี่ยมปิติ ผู้จัดการส่วนกิจกรรมองค์กรและสังคม ฝ่ายสื่อสารองค์กร EGCO Group กล่าวปิดท้ายว่า เพราะเชื่อว่า "ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ ปลายทางที่ดี" EGCO Group จึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมที่ช่วยยกระดับและพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนซึ่งเป็น "วัยต้นทาง" EGCO จึงตั้งใจสร้างศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอมให้เป็นแหล่งบ่มเพาะและปลูกฝังเด็กและเยาวชนให้มีจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อม โดยจะมีทั้งนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียนซึ่งแต่ละปีจะมีเนื้อหาแตกต่างกันไป สำหรับปีนี้ เน้นเรื่องปัญหาโลกเดือด ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ที่ทั่วโลกจับตา และเป็นวิกฤตที่เด็กยุคนี้ต้องเผชิญและเตรียมรับมือในอนาคต ซึ่งเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการสนับสนุนเด็กๆ ให้ได้เรียนรู้และตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา พร้อมเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์จะช่วยจุดประกายและทำให้พวกเขาเติบโตไปเป็นกำลังสำคัญที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและสร้างปลายทางที่ดีในอนาคตได้
ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เปิดให้เยี่ยมชมทุกวันอังคาร-วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าชมล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ www.egco.com/th/khanom-learningcenter โทร. 075 466 062 หรือ 098 014 2249 หรือติดตามข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ เกี่ยวกับศูนย์เรียนรู้ฯ ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก www.facebook.com/khanomlearningcenter/
การเคหะแห่งชาติผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐและเอกชนเร่งฟื้นฟูคุณภาพชีวิตชาวหาดใหญ่ที่ประสบอุทกภัย
ไทยประกันชีวิต ออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือลูกค้าจากอุทกภัยภาคใต้ พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัย
ฝนตกหนัก สคร.12 สงขลา เตือน โรคและภัยสุขภาพ ที่มากับน้ำท่วม พร้อมแนะวิธีการป้องกัน
สคร.12 สงขลา เตือน ปชช. เตรียมความพร้อมรับมือ หากเกิดน้ำท่วม (อุทกภัย) เน้นย้ำ ติดตามข้อมูลข่าวสารสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง
กปภ. ห่วงใยประชาชน แนะเตรียมพร้อมรับมือพายุ น้ำท่วมฉับพลัน
กรุงไทยเคียงข้างลูกค้าและประชาชน ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่เพชรบูรณ์
สธ. ห่วงผู้ประสบภัยจากพายุคาจิกิ กรมอนามัย ส่งทีม SEhRT ดูแลสุขภาพของประชาชน และจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในศูนย์พักพิงชั่วคราว
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา