6 อาหารต้องห้าม! ผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดรับประทานไม่ได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

โรคหอบหืดเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก แน่นหน้าอก และไอ เพราะฉะนั้นการดูแลสุขภาพ และการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามีอาหารบางชนิดที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการกำเริบได้? เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 6 อาหารต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืดที่ควรหลีกเลี่ยง พร้อมทั้งแนะนำวิธีการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้อาการกำเริบในบทความนี้กัน 

6 อาหารต้องห้าม! ผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดรับประทานไม่ได้

โรคหอบหืด คืออะไร 

โรคหอบหืด เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากการอักเสบของหลอดลม ทำให้หลอดลมไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้หรือสิ่งกระตุ้น หลอดลมจะตีบตันลง ทำให้การหายใจเป็นไปอย่างยากลำบาก ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจมีเสียงหวีด แน่นหน้าอก ไอ และหายใจลำบาก โดยเฉพาะในเวลากลางคืนหรือเช้าตรู่ 6 อาหารต้องห้าม! ผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดรับประทานไม่ได้

โดยโรคนี้สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่มักเริ่มแสดงอาการตั้งแต่วัยเด็ก อาการของโรคอาจรุนแรงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจมีอาการเพียงเล็กน้อยและไม่บ่อย ในขณะที่บางคนอาจมีอาการรุนแรงและบ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก  6 อาหารต้องห้าม! ผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดรับประทานไม่ได้

สาเหตุของโรคหอบหืด มีอะไรบ้าง 

การเกิดโรคหอบหืดนั้นมีสาเหตุหลัก 2 ประการ ได้แก่ 6 อาหารต้องห้าม! ผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดรับประทานไม่ได้

  1. กรรมพันธุ์ มีการถ่ายทอดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้มาจากบิดา มารดา หรือทั้งสองท่าน ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหอบหืดหรือโรคภูมิแพ้มีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าคนทั่วไป
  2. ปัจจัยจากสภาพแวดล้อม มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหอบหืด เช่น มลภาวะในอากาศ สารก่อภูมิแพ้ และสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ในบ้าน บางการศึกษาพบว่าสภาพแวดล้อมที่ "สะอาดเกินจำเป็น" อาจส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่ได้รับการกระตุ้นอย่างเพียงพอ ทำให้มีโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้และโรคหอบหืดได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการหอบหืด เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การออกกำลังกายหนัก ความเครียด และการสัมผัสกับสารระคายเคืองต่าง ๆ รวมถึงอาหารบางชนิดที่เราจะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป

6 อาหารที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคหอบหืด

อาหารจำพวกถั่ว

ถั่วเป็นหนึ่งในอาหารที่ผู้ป่วยโรคหอบหืดควรระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ถั่ว เนื่องจากการแพ้ถั่วอาจนำไปสู่การเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการหอบหืดกำเริบได้ ซึ่งถั่วที่มักก่อให้เกิดอาการแพ้ ได้แก่ ถั่วลิสง ถั่วเหลือง และถั่วชนิดอื่น ๆ ผู้ป่วยควรสังเกตอาการของตนเองหลังรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของถั่ว และปรึกษาแพทย์เพื่อทำการทดสอบการแพ้อาหารหากสงสัย

อาหารแปรรูป

อาหารแปรรูปมักอุดมไปด้วยสารกันบูด สารแต่งสี และสารปรุงแต่งรสชาติต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดในผู้ป่วยบางราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารกันบูดประเภทซัลไฟต์ที่มักพบในอาหารแปรรูป เช่น เนื้อแปรรูป ผลไม้แห้ง และเครื่องดื่มบางชนิด นอกจากนี้ อาหารแปรรูปมักมีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบและบวมในระบบทางเดินหายใจ ส่งผลให้อาการหอบหืดแย่ลงได้

ผลิตภัณฑ์ที่มาจากนม

แม้ว่านมและผลิตภัณฑ์จากนมจะเป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญ แต่สำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืดบางราย อาหารเหล่านี้อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการแพ้นมวัวหรือแพ้โปรตีนในนม การบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมอาจทำให้เกิดการผลิตเสมหะมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้หายใจลำบากและกระตุ้นอาการหอบหืด ผู้ป่วยควรสังเกตอาการของตนเองและปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการลดหรืองดบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมหากจำเป็น

อาหารที่มีความเย็น

อาหารและเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิต่ำมาก เช่น ไอศกรีม น้ำแข็ง หรือเครื่องดื่มเย็นจัด อาจกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดในผู้ป่วยบางราย เนื่องจากการบริโภคอาหารเย็นจัดอาจทำให้หลอดลมตีบตันและเกิดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหลอดลม ส่งผลให้หายใจลำบากและเกิดอาการหอบหืดได้ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่เย็นจัดเกินไป และเลือกรับประทานอาหารที่มีอุณหภูมิปานกลางแทน

น้ำอัดลม

น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่ผู้ป่วยโรคหอบหืดควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากมีส่วนผสมของสารเคมีหลายชนิดที่อาจกระตุ้นอาการหอบหืด เช่น สารกันบูด สารแต่งสี และคาเฟอีน นอกจากนี้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำอัดลมยังอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ซึ่งส่งผลให้กะบังลมยกตัวสูงขึ้นและกดทับปอด ทำให้หายใจลำบากมากขึ้น ผู้ป่วยควรเลือกดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแทน เช่น น้ำผักผลไม้สด หรือชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีน

ผลไม้บางชนิด

แม้ว่าผลไม้ส่วนใหญ่จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ผู้ป่วยโรคหอบหืดควรระมัดระวังในการรับประทานผลไม้บางชนิด โดยเฉพาะผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรดสูง เช่น ส้ม มะนาว และสับปะรด เนื่องจากอาจกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจและทำให้อาการหอบหืดกำเริบได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแพ้ผลไม้บางชนิด เช่น กีวี่ สตรอว์เบอร์รี หรือแอปเปิล ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดอาการหอบหืดได้เช่นกัน ผู้ป่วยควรสังเกตอาการของตนเองและปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางเลือกในการรับประทานผลไม้ที่เหมาะสม

วิธีการดูแลตัวเองไม่ให้อาการกำเริบ

นอกจากการหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจกระตุ้นอาการแล้ว ผู้ป่วยโรคหอบหืดยังสามารถดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้อาการกำเริบได้ด้วย ดังนี้ 

  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากน้ำหนักเกินอาจส่งผลต่อระบบหายใจ
  • ออกกำลังกายที่ไม่หนักเกินไป หรือทำกิจกรรมที่ช่วยให้ระบบหายใจมีความแข็งแรงมากขึ้น เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือโยคะ
  • หลีกเลี่ยงสถานที่หรือสารที่อาจก่อให้เกิดอาการหอบหืด เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่ หรือมลพิษทางอากาศ
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการใช้ยาพ่นอย่างถูกวิธี
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้อาการหอบหืดแย่ลง
  • ไม่อยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำหรือสูงเกินไป เนื่องจากอาจกระตุ้นให้เกิดอาการหอบได้
  • รักษาสุขภาพจิตและควบคุมความเครียด เพราะความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืด

หากมีอาการเป็นหวัดหรือไข้ ควรได้รับการรักษาจากแพทย์โดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามจนกระตุ้นให้เกิดอาการหอบหืดกำเริบ

สรุป

โรคหอบหืด เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจกระตุ้นอาการเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมโรค ผู้ป่วยควรระมัดระวังในการบริโภคอาหารจำพวกถั่ว อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์จากนม อาหารเย็นจัด น้ำอัดลม และผลไม้บางชนิดที่อาจกระตุ้นอาการ นอกจากนี้ ยังต้องการดูแลสุขภาพโดยรวม และออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และในกรณีที่อาจเผลอรับประทานอาหารที่ไม่ทราบถึงส่วนผสมเข้าไป หรืออยู่ในที่ที่มีฝุ่นเยอะจนอาการกำเริบขึ้นมา ควรมีที่พ่นยาหอบติดบ้านไว้ เพื่อใช้บรรเทาอาการ และสำหรับใครที่กำลังมองหาที่พ่นยา คุณภาพดี ต้อง OMRON แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่ห่วงใยคุณ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วไป หรือช่องทางออนไลน์ทั้งใน OMRON Healthcare (Thailand) Shopee และ Lazada


ข่าวดูแลสุขภาพ+โรคหอบหืดวันนี้

ยอดป่วยไข้หวัดใหญ่พุ่ง กรมอนามัย แนะสวมหน้ากากอนามัย-กินร้อน-ช้อนกลาง-ล้างมือ ป้องกันโรค

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วง ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หญิงตั้งครรภ์ หลังจำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น พร้อมแนะสวมหน้ากากอนามัย ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ป้องกันการแพร่กระจายโรคไข้หวัดใหญ่ แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะมีแนวโน้มดีขึ้นในบางพื้นที่ แต่ประชาชนยังคงต้องดูแลสุขภาพตนเอง เพื่อป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ ที่ขณะนี้พบผู้ป่วยกว่า 1 แสนคน โดย

ปัญหาฝุ่น PM 2.5 กลายเป็นภัยคุกคามสุขภาพท... เคล็ดลับการดูแลสุขภาพในช่วงฝุ่น PM หนาแน่น จากแบรนด์ซันคิสท์ — ปัญหาฝุ่น PM 2.5 กลายเป็นภัยคุกคามสุขภาพที่เราต้องเผชิญในปัจจุบัน แบรนด์ซันคิสท์ ผลิตภัณฑ์ถ...

เบื้องหลังรางวัล "HR Asia Best Companies ... ถอดรหัส "NEO Well-Being" เมื่อองค์กรเลือกลงทุนใน "ความสุขของคนทำงาน" — เบื้องหลังรางวัล "HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2024" ปีที่ 5 และรางวั...

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่าน... รพ.เมดพาร์ค จับมือ MQDC มอบบริการสุขภาพครบวงจร ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้อยู่อาศัย — เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา โรงพยาบาลเมดพาร์ค จัดพิธีลง...

ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ... พิธีเปิดงานการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 33 — ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางคว...