รู้ยัง? ตอนนี้โลกร้อนจัดจนเดือดปุ๊ด ๆ แล้ว หากเรายังไม่ช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สักวันจะลามเป็นเดือด (ร้อน) เพราะคาร์บอนเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่มีบทบาทสำคัญต่อภาวะโลกร้อน โดยเมื่อปล่อยออกไปในชั้นบรรยากาศ คาร์บอนจะทำหน้าที่เหมือนผ้าห่มที่ห่อหุ้มโลก ทำให้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ระบายออกไปไม่ได้ อุณหภูมิบนโลกใบนี้ก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ
                                                                                                                                        ใครเป็นผู้ก่อการให้คาร์บอนล้นโลก! คำตอบไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือ มนุษย์นี่แหละ เพราะแค่เราหายใจก็ปล่อยคาร์บอนออกมาแล้ว และเรายังทำกิจกรรมหลายอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น การขับรถ การใช้ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งหุงข้าว ไม่เพียงเท่านั้นพฤติกรรมอื่น ๆ ของเราก็เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตคาร์บอนอย่างไม่รู้ตัว และที่สำคัญเรายังทำการผลิตอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการเพิ่มปริมาณก๊าซอันดับหนึ่ง
คาร์บอน ส่งผลไรกับโลกบ้าง?
- โลกร้อนขึ้น อุณหภูมิสูงขึ้น: นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า อุณหภูมิโลกอาจจะเพิ่มขึ้นอีก 1.5 องศาเซลเซียสในปี 2027 ซึ่งตัวเลขนี้อาจจะดูน้อยสำหรับตัวเรา แต่มันคือหายนะของสิ่งแวดล้อม เพราะแค่ 1 องศาฯ ที่เพิ่มมาทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำทะเลสูงขึ้น และยังทำให้ปะการัง พืช หรือสัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ได้เลย
 - เกิดภัยพิบัติบ่อยและรุนแรงมากขึ้น: ฤดูกาลแปรปรวนอย่างแรง เห็นได้จากในช่วงปีที่ผ่านมา ปัญหาพายุ น้ำท่วม หรือภัยแล้ง ที่หนักหน่วง
 
คาร์บอน ส่งผลอะไรกับคุณบ้าง?
- เจ็บป่วยบ่อย เสี่ยงเป็นโรคต่าง ๆ ง่ายกว่าเดิม: ต่อให้เราดูแลสุขภาพดีแค่ไหน แต่คาร์บอนก็สามารถทำร้ายเราได้ โดยเป็นตัวกระตุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ทำให้เราป่วยง่ายและบ่อยกว่าเดิม โดยเฉพาะอยู่ในพื้นที่ที่คาร์บอนจับตัวกับอนุภาคต่าง ๆ และกลายมาเป็นมลพิษทางอากาศ (PM)
 - ค่าครองชีพสูงขึ้น: แม้ว่าจะไม่ใช่ผลกระทบโดยตรง แต่ดูดี ๆ จะเห็นว่าคาร์บอนมีส่วนเพิ่มค่าใช้จ่ายหลาย ๆ อย่างให้เราแบบที่ไม่รู้ตัว เช่น ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นจากการป่วยบ่อยขึ้น และราคาพืชผลทางการเกษตรแพงขึ้น เนื่องจากผลผลิตลดลง อันเป็นผลที่เกิดจากความแปรปรวนของฤดูกาล
 
ลดคาร์บอนยังไงดี?
การลดคาร์บอน พูดง่าย ๆ ก็คือการลดโลกร้อน ซึ่งวิธีการที่สามารถทำง่าย ๆ ที่หลายคนรู้และอาจทำอยู่แล้ว เช่น ปลูกต้นไม้ แยกขยะ เพื่อจะได้นำไปรีไซเคิล (Recycle) หรือนำกลับไปใช้ใหม่ได้ (Reuse) ใช้ถุงผ้าแทนการใช้ถุงพลาสติก ปิดไฟ ถอดปลั๊ก เมื่อไม่ใช้ ช่วยประหยัดไฟขึ้นอีกนิด จะได้ไม่ต้องผลิตมากขึ้น (การผลิตไฟฟ้าทำให้เกิดคาร์บอนหนักมาก) หรือบางคนอาจติดโซลาร์เซลล์ เป็นต้น แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า สีทาบ้านก็มีส่วนช่วยลดโลกร้อนได้มากกว่าที่คิด
สีทาบ้าน ช่วยลดคาร์บอนยังไง?
ไม่ใช่สีทาบ้านทุกรุ่น จะช่วยลดคาร์บอนได้ เพราะต้องเป็นสีที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบจากสถาบันด้านสิ่งแวดล้อม อย่างองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เช่น สีเบเยอร์คูล ไดมอนด์ชิลด์ 15 (BegerCool DiamondShield 15) ที่ได้รับฉลากลดโลกร้อน หรือที่เรียกว่าฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จึงมั่นใจได้ว่าถ้าเลือกใช้สีเบเยอร์คูลรุ่นนี้ ก็จะถือว่าช่วยลดคาร์บอนได้จริง ๆ
รู้จักสีทาหลังคากันร้อน ตัวช่วยเร่งให้บ้านเย็นเร็ว
รู้หรือไม่? สาเหตุหลักที่ทำให้บ้านร้อนคือ หลังคา (Roof) โดยปัญหาที่หลายบ้านเจอบ่อย ๆ คงไม่พ้นบ้านชั้น 2 ร้อนกว่าชั้น 1 หลายคนจึงเลือกที่จะติดฉนวนกันร้อนซึ่งก็พอช่วยได้ แต่จริง ๆ มีอีกหนึ่ง Solution ที่หลายคนอาจจะไม่รู้นั่นก็คือ การทาสีหลังคากันร้อน แต่ไม่ใช่สีทาหลังคาอะไรก็ได้ ต้องเป็นสีทาหลังคาที่สามารถกันความร้อนได้สูงตัวจริงเสียงจริงอย่าง เบเยอร์คูล รูฟ (BegerCool Roof) ช่วยลดปัญหาการอมความร้อนของหลังคา อุณภูมิในบ้านเย็นลง ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องปรับอากาศทำงานหนักน้อยลง ค่าไฟฟ้าปลายเดือนก็จะจ่ายถูกลงตามไปด้วย
สีทาหลังคากันร้อน เบเยอร์คูล รูฟ (BegerCool Roof) ยังมีคุณสมบัติพิเศษกว่าสีทาหลังคาอื่น ๆ ดังนี้
- เป็นฉนวนกันร้อน สะท้อนความร้อนและรังสีUVดีเยี่ยมกว่า 96% ด้วยไมโครสเฟียร์เซรามิก (Insulating Microsphere Ceramic) เทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่พัฒนามาจากฉนวนกันความร้อนของกระสวยอวกาศ
 - ฟิล์มสีทนทาน ไม่จับฝุ่นง่าย (Low Dirt Pick Up) ทาง่ายและได้พื้นที่มาก ปกปิดผิวได้ดี ทำให้หลังคาแลดูสวยสะอาดตาอยู่เสมอ
 - ยึดเกาะดีเยี่ยม ทนทุกสภาพดินฟ้าอากาศ จะฝนตก แดดออก ก็สู้ได้
 - ป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายมากกว่า 95%
 - ช่วยลดเสียงที่กระทบจากฝนตก จะหลังคาเหล็กหรือเมทัลชีทก็เอาอยู่
 
สีทาหลังคากันร้อน ทาอะไรได้บ้าง
เนื่องจากพลังการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมของ เบเยอร์คูล รูฟ (BegerCool Roof) จึงสามารถทาได้หลายพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นหลังคากระเบื้องใยหิน กระเบื้องโมเนีย กระเบื้องแผ่นเรียบ กระเบื้องลอนเล็ก พื้นดาดฟ้า ปูนซีเมนต์ หลังคาเหล็ก หรือแม้กระทั่งหลังคาเมทัลชีท ซึ่งหากเราเตรียมพื้นผิวได้ดี และทาครบทุกระบบสีกันร้อนก็จะช่วยให้บ้านเย็นทวีคูณ และยังสวยทนนานอีกด้วย
รู้หรือไม่? ปัจจุบันผู้ผลิตสีเบเยอร์พัฒนาสีทาบ้านให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปล่อยคาร์บอนต่ำ เช่น สีเย็น นวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อลดอุณหภูมิบนพื้นผิว ลดความร้อนที่ถูกส่งเข้ามาสู่ภายในบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและการปล่อยคาร์บอนได้โดยตรง อย่ารอช้า! มาเปลี่ยนบ้านให้สวย และช่วยโลกให้เย็นลงไปพร้อมกัน
                            
                            "ทานตะวันอุตสาหกรรม" พลิกโฉมหลังคา สู่แหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยกำลังผลิต 3.45 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี ดันอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
                        
                            กรุงไทยเดินหน้าสู่ Net Zero เปลี่ยนรถยนต์ธนาคารทั้งหมดเป็นรถ EV ภายในปี 2573
                        
                            SMART มุ่งยกระดับผลิตภัณฑ์ Green Product เสริมแกร่งลุยตลาดอสังหาฯ เผยงบ Q1/68 รายได้รวม 119.21 ล้านบาท กำไร 12.20 ล้านบาท
                        
                            STA เร่งเครื่องสู่ Net Zero ลงทุนขยายการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน
                        
                            เซ็นทรัล ทำ สานต่อพลังรักษ์โลก ในงาน "Melody of Life 16" ชวนคนรุ่นใหม่ร่วมเปลี่ยนโลกด้วยการแยกขยะ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
                        
                            ทีทีบี ผนึก แสนสิริ ออก "สินเชื่อบ้านรักษ์โลก" ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 2.75% ต่อปี เดินหน้าสร้างสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
                        
                            ปตท.สผ. รายงานผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือน ปี 2568
                        
                            Copeland เปิดตัวปั๊มความร้อน Sensi Hydro ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านพลังงานด้วยโซลูชันทำความร้อนที่ยั่งยืน
                        
                            กสิกรไทย ผนึกกำลัง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ อบก. Kubix และ Orbix Technology เปิดตัวโครงการนำร่องทดสอบการแปลงคาร์บอนเครดิตเป็นโทเคนดิจิทัล ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้กรอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย