รายงานของเคพีเอ็มจี 'Navigating the Future of Seamless Commerce in Asia Pacific' ระบุวิธีที่ผู้ค้าปลีกในเอเชียแปซิฟิกขับเคลื่อนประสบการณ์ของลูกค้าด้วยเทคโนโลยีตลอดจนความยั่งยืน
การเกิดขึ้นของการค้าแบบไร้รอยต่อ ซึ่งมีกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญในธุรกิจค้าปลีก ทำให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางความสนใจอย่างแท้จริง นับเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่ โดยแนวคิดที่เคยแพร่หลาย เช่น "Multichannel" และ "Omnichannel" มีความสำคัญลดลง และการเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
รายงานฉบับใหม่โดยเคพีเอ็มจี เอเชียแปซิฟิกและ GS1 - 'Navigating the Future of Seamless Commerce in Asia Pacific: How Retailers are Driving Experience Customer Experience, From Technology to Sustainability' - สำรวจว่าธุรกิจและผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกปรับใช้กลยุทธ์การค้าแบบไร้รอยต่อนี้อย่างไรในตลาดและภูมิภาคที่แตกต่างกัน
รายงานตั้งข้อสังเกตว่าการค้าปลีกแบบไร้รอยต่อ ซึ่งรวมถึงความสามารถของแบรนด์ในการรับรู้และบูรณาการเส้นทางของผู้บริโภคตั้งแต่ก่อนจะเป็นลูกค้า จนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการ (Customer Journey) ผ่านแพลตฟอร์มและบริการที่หลากหลาย ครั้งหนึ่งเคยเป็นปัจจัยสร้างความแตกต่าง แต่ในปัจจุบันกลายเป็นความคาดหวังพื้นฐานในตลาดส่วนใหญ่ที่ทำการสำรวจ ทำให้กลายเป็นเกณฑ์มาตรฐานใหม่สำหรับผู้ค้าปลีกในอนาคต โดยตลาดคาดหวังให้มีการเชื่อมต่อ โซเชียลมีเดีย นวัตกรรมการจัดส่ง แอป เว็บไซต์ การส่งข้อความอัตโนมัติ และการโต้ตอบทางดิจิทัลอื่นๆ ทั้งหมดนี้เข้ากับร้านค้าที่มีหน้าร้านได้อย่างไร้รอยต่อ
"การให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นอันดับแรกด้วยการใช้ระบบต่างๆ ที่เชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อทั่วทั้งองค์กรไม่ได้เป็นเพียงข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจที่ต้องการเป็นผู้นำตลาด รายงาน 'Navigating the Future of Seamless Commerce in Asia Pacific' ต้องการช่วยธุรกิจค้าปลีกหาโอกาสใหม่ๆ และกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมเพื่อพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าและแผนที่กระบวนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่ประสบความสำเร็จ"
แอนสัน เบลีย์
หัวหน้าฝ่าย Consumer & Retailเคพีเอ็มจี เอเชียแปซิฟิก
"เคพีเอ็มจีเชื่อว่าธุรกิจค้าปลีกกำลังเผชิญกับคลื่นดิจิทัลดิสรัปชั่นระลอกที่ 3 เป็นผลจากการค้าแบบไร้รอยต่อ (Seamless Commerce) ซึ่งก่อนหน้านี้ โดยส่วนใหญ่แล้วร้านค้าออนไลน์และร้านค้าที่มีหน้าร้านจะดำเนินการเป็นอิสระจากกัน แต่การเกิดขึ้นของกลยุทธ์ Omnichannel และการใช้การวิเคราะห์ข้อมูลและ AI ทำให้ผู้ค้าปลีกสามารถเชื่อมช่องทางต่างๆ ให้สัมพันธ์กัน การค้าแบบไร้รอยต่อ (Seamless Commerce) จึงเป็นการเข้าสู่ระยะใหม่ของการพลิกโฉมธุรกิจค้าปลีก ซึ่งเน้นให้ความสำคัญกับเส้นทางของผู้บริโภค (Customer Journey) เป็นอันดับแรก"
ช่อทิพย์ วรุตบางกูร
หัวหน้าฝ่าย Consumer & Retailเคพีเอ็มจี ประเทศไทย
รายงานได้ทำการสำรวจจากผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 7,000 ราย ในตลาด 14 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยรายงานยังรวมข้อมูลการสัมภาษณ์ผู้บริหารอาวุโสระดับ C-suite จากผู้ค้าปลีก แบรนด์ และบริษัทอีคอมเมิร์ซชั้นนำ
ประเด็นสำคัญของรายงานประกอบด้วยแนวโน้มหลัก 6 ประการที่กำลังเปลี่ยนแปลงธุรกิจค้าปลีก โดยผู้ค้าปลีกได้รับความคาดหวังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในการส่งมอบประสบการณ์ค้าปลีกแบบไร้รอยต่อ ผ่านระบบที่เชื่อมโยงและบูรณาการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ผู้ค้าปลีกที่ต้องการสร้างความเป็นเลิศในการค้าแบบไร้รอยต่อ จะต้องผสานความยั่งยืนเข้ากับโมเดลธุรกิจของตนด้วย ในขณะที่เราก้าวผ่านช่วงกลางทศวรรษ 2020 มีความต้องการที่ชัดเจนในด้านความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทาน อันเป็นผลมาจากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มผู้บริโภครุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z สำหรับผู้บริโภคกลุ่มนี้ การลงมือทำจริงสำคัญกว่าคำพูด โดยคาดหวังว่าแบรนด์ที่พวกเขาสนับสนุนจะไม่เพียงแค่กล่าวถึงความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนเท่านั้น แต่จะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาต่อลูกค้าอย่างแท้จริงอีกด้วย
แม้ว่าการเติบโตโดยทั่วไปของเศรษฐกิจการค้าปลีกในเอเชียแปซิฟิกจะอยู่ในระดับที่ค่อยๆ เข้าใกล้ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่การใช้จ่ายของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเริ่มชะลอตัวลงในปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกถึงผลกระทบของต้นทุนที่สูงขึ้น ตลาดบางแห่งจึงเห็นการเติบโตที่ไม่ชัดเจน ในขณะที่ตลาดอื่นๆ กำลังเผชิญกับแนวโน้มขาลง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นมากยิ่งขึ้นที่ผู้ค้าปลีกจะต้องรู้วิธีดึงดูดผู้บริโภคให้ได้มากขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและในอนาคต เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ผู้บริโภคมีการปรับการใช้จ่ายของตนอ่านรายงานฉบับเต็ม: https://kpmg.com/th/en/home/insights/2024/05/navigating-the-future-of-seamless-commerce-in-asia-pacific.html
นายสุธี สมาธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.ให้เป็นผู้ดำเนินการประมูลขายทรัพย์สินประเภทลิฟต์โดยสาร ยี่ห้อ MITSUBISHI ที่รื้อเป็นชิ้นส่วนแล้ว ซึ่งแต่ละตัวสามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 1,600 กิโลกรัม สามารถรองรับการโดยสารได้จำนวน 26 คน เป็นลิฟต์โดยสารมอเตอร์ไฟฟ้าใช้งาน 8 ชั้น ถูกใช้งานมา 15 ปี น้ำหนักรวมชิ้นส่วนตัวละ 10 ตัน จึงเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาลิฟต์โดยสารที่มีคุณภาพและพร้อมใช้งาน ผู้ที่สน
ACDelco เดินหน้ารุกตลาดอาเซียน! ประกาศแต่งตั้ง MAST Vietnam เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเวียดนาม
—
ACDelco แบรนด์อะไหล่รถยนต์ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา เ...
ณสิริ โสภณณสิริ' นำไฮ-ไลค์ เอเจนซี่ ก้าวสู่ปีที่ 15 อย่างแข็งแกร่ง เปิดเกมรุกยุคใหม่ของ Digital PR ด้วยกลยุทธ์ 3i for 2025
—
"ไฮ-ไลค์ เอเจนซี่" (Hi-Like A...
"ห้างเซ็นทรัล" สร้างปรากฏการณ์ใหม่กับอีเว้นต์มิวสิกปาร์ตี้ ธีมชุดนอนครั้งใหญ่แห่งปี
—
ห้างเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล คิกออฟความสนุกครั้งใหญ่ เดินเครื่...
MEDEZE ต้อนรับคณะผู้บริหาร ABRM ร่วมหารือความร่วมมือยกระดับนวัตกรรมทางการแพทย์
—
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำก...
"เอ็มมีเน้นซ์" ดันแบรนด์ FURANO ครองใจกลุ่มรักสุขภาพ กับสโลแกนสุดชิค "ใช้ง่ายโน๊ะ ไวโน๊ะ สะอาดโน๊ะ"
—
บริษัท เอ็มมีเน้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้น...
Influential Brands and its Thailand partner Neo Target celebrate Top Brands, Top Employer and Top CEOs in CEO Summits in Bangkok and Singapore
—
Influential...
PRAPAT เปิดบ้านต้อนรับนักลงทุนเยี่ยมชม "โรงงานผลิตสินค้าทำความสะอาด" อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
—
นายสืบพงศ์ เกตุนุติ ประธานบริษัท พร้อมด้วยนายอรรนพ จุลพันธ์ ปร...
ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว คว้ารางวัล 2025 Thailand's Most Admired Brand ตอกย้ำแบรนด์สตรีทฟู้ดมหาชนของทุกคน
—
"ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว" แฟรนไชส์อาหารชื่อดังภายใต้ "ชา...