STEC ลุยตั้งโฮลดิ้ง “สเตคอน กรุ๊ป” ดีเดย์ทำเทนเดอร์ฯ แลกหุ้น 19 ส.ค. - 21 ต.ค.นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

STEC ปรับโครงสร้างองค์กร ตั้งบริษัทโฮลดิ้ง ภายใต้ชื่อ “สเตคอน กรุ๊ป” ลุยทำ “เทนเดอร์ ออฟเฟอร์” ในอัตรา 1 หุ้นสามัญของ STEC ต่อ 1 หุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้ง เริ่มตั้งแต่ 19 สิงหาคม ถึง 21 ตุลาคม 2567 พร้อมเดินหน้าปั้น New S-Curve ลงทุนธุรกิจใหม่ที่มีอัตราการเติบโตสูง วางเป้าหมายในช่วง 5 – 10 ปีข้างหน้า ดันรายได้ในธุรกิจใหม่เติบโตอย่างโดดเด่น หวังกระจายความเสี่ยง สร้างรายได้ประจำ เสริมแกร่งธุรกิจรับเหมาก่อสร้างตามที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (“STEC”) ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ และการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (“แผนการปรับโครงสร้างฯ”) โดย STEC ได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด ภายใต้ชื่อ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทโฮลดิ้ง” หรือ “STECON”) เพื่อประกอบธุรกิจในลักษณะบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company)

STEC ลุยตั้งโฮลดิ้ง “สเตคอน กรุ๊ป” ดีเดย์ทำเทนเดอร์ฯ แลกหุ้น 19 ส.ค. - 21 ต.ค.นี้

ทั้งนี้ บริษัทโฮลดิ้ง ได้ยื่นขออนุญาตเบื้องต้นเกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างฯ และการจดทะเบียนให้หลักทรัพย์ของบริษัทโฮลดิ้งเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) แทนหลักทรัพย์ของ STEC และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้ความเห็นชอบเบื้องต้นแล้วเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

นายภาคภูมิ ศรีชำนิ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (“STEC”) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) ได้อนุญาตให้บริษัทโฮลดิ้งหรือ STECON เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่พร้อมทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ STEC แล้ว และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์พร้อมการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 69/247-1) มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ บริษัทโฮลดิ้งจะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ STEC จากผู้ถือหุ้นของ STEC โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับหุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้งในอัตราการแลกหุ้น (Share Swap Ratio) ที่หุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้ง 1 หุ้น ต่อหุ้นสามัญของ STEC 1 หุ้น โดยระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม ถึง 21 ตุลาคม 2567 เป็นระยะเวลา 45 วันทำการผู้ถือหุ้นที่มีความประสงค์แลกหุ้น สามารถดำเนินการยืนยันการใช้สิทธิ์ผ่านทางตัวแทนหลักทรัพย์ของท่าน และผ่านระบบออนไลน์ E Tender Offer ซึ่งเป็นระบบของ Tender Agent โดยผู้ถือหุ้นสามารถศึกษารายละเอียดขั้นตอนการตอบรับคำเสนอซื้อ ผ่านทาง www.stecon.co.thทั้งนี้ ภายหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เสร็จสิ้น STEC จะดำเนินการเพิกถอนหุ้นของตนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทโฮลดิ้งจะเข้าจดทะเบียนแทนที่หุ้นของ STEC ในวันเดียวกัน และบริษัทจะเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์ (Ticker) เป็น STECON โดยคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2567สำหรับประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้น STEC จะได้รับจากการแลกหุ้นในครั้งนี้ ประกอบด้วย

1. ผู้ถือหุ้นถือหุ้นในบริษัทโฮลดิ้งที่มีสภาพคล่องที่ตอบรับคำเสนอซื้อจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทน ทั้งในรูปแบบของเงินปันผล (Dividend Yield) และกำไรจากการขายหลักทรัพย์ (Capital Gain) จากผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทโฮลดิ้ง ที่เป็นผลมาจากการขยายการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ที่เพิ่มขึ้นในอนาคตของบริษัทโฮลดิ้ง

2. ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรจากการขายหลักทรัพย์ (Capital Gain Tax) ในตลาดหลักทรัพย์ และได้รับยกเว้นค่าอากรแสตมป์สำหรับการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้นและ

3. บริษัทโฮลดิ้งจะเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้ผู้ถือหุ้นที่ตอบรับคำเสนอซื้อสามารถซื้อขายหุ้น มีสภาพคล่องในการซื้อขาย และมีราคาอ้างอิงตามราคาตลาดนายภาคภูมิ กล่าวอีกว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจในครั้งนี้ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและเติบโตอย่างต่อเนื่องนอกเหนือจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่น ๆ เพิ่ม อาทิ ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการขนส่ง เพื่อกระจายความเสี่ยงและต่อยอดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจเดิม คือ รับเหมาก่อสร้าง ผ่านการร่วมลงทุนกับพันธมิตร เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการร่วมมือ (Synergy) และสร้างรายได้สม่ำเสมอในระยะยาว (Recurring income)

อีกทั้งยังสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและพันธมิตรทางธุรกิจให้ร่วมลงทุนเฉพาะธุรกิจที่สนใจและมีความชำนาญ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น ตลอดจนสามารถแบ่งแยกและจำกัดความเสี่ยงแต่ละธุรกิจได้ดีกว่าโครงสร้างกิจการในปัจจุบัน เนื่องจากธุรกิจใหม่ที่คาดว่าจะลงทุนในอนาคต อาจมีลักษณะและปัจจัยความเสี่ยงที่แตกต่างจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง จึงสามารถจำกัดความเสี่ยงการลงทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และไม่ส่งผลต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้างซึ่งเป็นธุรกิจหลักในปัจจุบัน เพื่อสร้างการเติบโต และผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาวภายหลังจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้น สามารถแบ่งประเภทการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่ (1) กลุ่มธุรกิจหลัก และ (2) กลุ่มธุรกิจอื่น โดยมีรายละเอียด ดังนี้ โดยกลุ่มธุรกิจหลักแบ่งออกเป็น (1) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (2) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐานและพลังงาน และ (3) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการขนส่ง ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอื่นประกอบด้วยธุรกิจที่มีความสามารถในการเติบโตสูงขณะที่ การดำเนินธุรกิจภายใต้ บริษัทโฮลดิ้ง มีเป้าหมายลงทุนในธุรกิจที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ และรองรับแผนการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน โดยมีแผนลงทุนในธุรกิจที่สร้าง Recurring Income และธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูง (New S-Curve) เพื่อกระจายความเสี่ยง และเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ไปยังธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากธุรกิจวิศวกรรมและก่อสร้างเดิม ซึ่งคาดว่าสัดส่วนรายได้ในธุรกิจใหม่ในช่วง 5 - 10 ปีข้างหน้าจะเห็นการเติบโตอย่างโดดเด่น และมีสัดส่วนอย่างมีนัยสำคัญต่อกลุ่มบริษัท เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่นักลงทุนอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว“การปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างความคล่องตัวในการบริหารและการลงทุน รวมถึงการเติบโตในระยะยาว โดยเรามองเห็นโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีอัตราการเติบโตสูง ช่วยต่อยอดความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัท และธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ผู้ถือหุ้น จะได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันและกำไรจากการขายหลักทรัพย์ (Capital Gain) โดยบริษัทโฮลดิ้ง จะเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้ผู้ถือหุ้นที่ตอบรับคำเสนอซื้อสามารถซื้อขายหุ้น มีสภาพคล่องในการซื้อขาย และมีราคาอ้างอิงตามราคาตลาด” นายภาคภูมิ กล่าว


ข่าวประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น+ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างวันนี้

ITEL ผู้ถือหุ้นอนุมัติเพิ่มทุน 1,011 ล้านบาท ดึง SEAX ร่วมทุน ตั้ง "ITEL Global" มุ่งสู่ผู้นำโครงข่ายระดับภูมิภาค

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 628,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1.61 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 1,011,080,000 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ SEAX Asia ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือ SEAX Global ผู้ให้บริการโครงข่ายและเคเบิลใต้น้ำระดับภูมิภาค SEAX Global เป็นบริษัทโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนักลงทุนระดับภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานและดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียง

ก.ล.ต. เตือนผู้ถือหุ้น STELLA ไปใช้สิทธิออกเสียง กรณีการเข้าซื้อหุ้น WEH โดยชำระเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบ PP ของ STELLA ซึ่งกระทบต่อสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้ผู้ถือหุ้นบริษัท สเตลล่า เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) (STELLA)...

แถลงการณ์ดุสิตธานี กรณีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ร่วมกันปกป้อง "ดุสิตธานี" เพื่อมรดกของคนไทย

ทุกท่านคงจะทราบดีถึงการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งการประชุมได้เสร็จสิ้น...

ที่ประชุมผู้ถือหุ้น 'ดุสิตธานี' ไม่อนุมัติถอดถอน 'ชนินทธ์ โทณวณิก' พ้นกรรมการ พร้อมจัดประชุมวาระเปลี่ยนแปลงบอร์ดครั้งใหม่ 4 ธ.ค.2568

ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น บมจ.ดุสิตธานี ไม่อนุมัติวาระถอดถอน "ชนินทธ์ โทณวณิก" พ้นตำแหน่งกรรมการ แม้จะมีผู้ถือหุ้นเห็นด้วยให้ถอดถอน 42 ราย (รวมถึงบริษัทชนัตถ์และลูก)...

บริษัท เทคลีด เอ็นพีเอ็น จำกัด (มหาชน) หร... TL ก้าวสู่ผู้นำดิจิทัลแพลตฟอร์ม ทุ่มลงทุนใหม่กว่า 2.42 พันล้าน — บริษัท เทคลีด เอ็นพีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ TL จัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2...

นายวิจิตร เตชะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษั... FVC คิกออฟ จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ถึงวันที่ 10 ก.ย. นี้ — นายวิจิตร เตชะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC เปิดเผยว่า ตามมติ...