สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชนติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง แนะประชาชนกลุ่มเสี่ยงดูแลตนเองเป็นพิเศษ
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่าจากข้อมูลสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่สถานีตรวจวัดเขต 12 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 21 กรกฎาคม 2567 พบว่า คุณภาพอากาศ ทั้ง 6 สถานี ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีมาก ซึ่งประชาชนทุกคนสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม จากปีที่ผ่านมา พบว่า ช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นช่วงที่มีหมอกควันข้ามแดน จากประเทศเพื่อนบ้าน จากการจราจรหรือบรรทุกขนส่งหนาแน่น รวมทั้งการเผาป่าในพื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ หากได้รับมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไป
สำหรับกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และ 4 กลุ่มโรคสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังและดูแลเป็นพิเศษ คือ 1.กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว แน่นหน้าอก 2.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล แสบจมูกและลำคอ 3.กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ เช่น อาการคันตามร่างกาย มีผื่นแดงตามร่างกาย และ 4.กลุ่มโรคตาอักเสบ เช่น อาการแสบหรือคันตา น้ำตาไหล และตาแดง หากสงสัยหรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
สคร.12 สงขลา จึงขอแนะวิธีปฏิบัติให้ปลอดภัยจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 "รู้-ลด-เลี่ยง" รู้ : ตรวจสอบสภาพอากาศทุกครั้งก่อนเดินทางออกจากบ้าน ผ่านการติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในแอปพลิเคชัน Air4thai ของกรมควบคุมมลพิษ หรือติดตามข่าวสารตามช่องทางต่าง ๆ ของหน่วยงานด้านสาธารณสุข ลด : ลดการสร้างมลพิษ ลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง PM2.5 เช่น จุดธูป เผากระดาษ ปิ้งย่างที่ทำให้เกิดควัน การเผาใบไม้ เผาขยะ เผาพืชผลทางการเกษตร เป็นต้น รวมถึงการติดเครื่องยนต์ในบ้านเป็นเวลานาน เลี่ยง : หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีฝุ่นละอองสูง การอยู่กลางแจ้ง หรือทำกิจกรรมนอกอาคารเป็นเวลานาน ในช่วงที่ฝุ่นละออง PM2.5 มีปริมาณมากกว่า 25.1 - 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป โดยปราศจากอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละอองในอากาศ หากจำเป็นควรป้องกันการสัมผัสฝุ่นให้น้อยที่สุด โดยการสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก และดื่มน้ำให้เยอะๆ เพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองคอ แสบคอ ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ที่มา : แนวทางมาตรการการเฝ้าระวังสุขภาพและสื่อสารความเสี่ยง เพื่อสร้างความรอบรู้ ที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5), กองโรคติดต่อจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ReGenMed ขึ้นแท่นบริษัทชั้นนำด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูประจำปี 2025 จากการจัดอันดับของ Medical Tech Outlook
เจอจุดที่ปอดมีโอกาสเป็นมะเร็งกี่เปอร์เซ็นต์
ตากระตุก ใบหน้ากระตุก รักษาได้ด้วย "โบทูลินั่ม ท็อกซิน"
สมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์ฯ (TCAS) จัดการการประชุม WCAM 2025
ซีสต์ที่รังไข่
ชีวาสุขวิทยาลัย พีไอเอ็ม ชวนร่วมสัมมนา "2026 Thailand Health and Wellness Trends By PIM" พลิกโฉมอนาคตบริการสุขภาพไร้ขีดจำกัด
MEDEZE เข้าตามหลักเกณฑ์รับรองมาตรฐาน "ธนาคารเซลล์"ขานรับประกาศ "ราชกิจจาฯ" เดินหน้าสู่ผู้นำธุรกิจสุขภาพแห่งอนาคต
สธ.ตั้งเป้า 3 กลุ่มวัยฟันดี "เด็ก-วัยทำงาน-ผู้สูงวัย" มุ่งสู่ 80 ปี มีฟันใช้งาน 20 ซี่ ลุยคัดกรองสุขภาพช่องปากให้ครบ 10 ล้านคน