"CelloPower : เซลลูโลสเหลือทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม สู่นวัตกรรมวัสดุปิดแผลเส้นใยนาโน"

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ผลงานแนวคิดรางวัลชนะเลิศกิจกรรม Hackathon งานประชุมเครือข่ายบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 TSRI Research and Development Personnel Network Forum 2024 TSRI-RPN 2024: Preparing Today for Tomorrow's Challenges

"CelloPower : เซลลูโลสเหลือทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม สู่นวัตกรรมวัสดุปิดแผลเส้นใยนาโน"

ในโลกยุคปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรที่ลดลง งานวิจัยและนวัตกรรมถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน จากผลงาน "CelloPower" ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเปลี่ยนของเหลือทิ้งให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณค่า จากแนวคิดของ ดร.สาธิตา เที่ยงธรรม และทีมนักวิจัยจาก ศูนย์เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ที่ได้พัฒนานวัตกรรมวัสดุปิดแผลเส้นใยนาโน จากเซลลูโลสเหลือทิ้งในโรงงานอุตสาหกรรม ภายใต้กรอบความคิดของหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อเพิ่มประโยชน์ให้กับทรัพยากร ส่งเสริมความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม "CelloPower : เซลลูโลสเหลือทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม สู่นวัตกรรมวัสดุปิดแผลเส้นใยนาโน"

ดร. สาธิตา เที่ยงธรรม อาจารย์นักวิจัยประจำศูนย์เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมที่ยั่งยืน ได้ฉายภาพการบริหารจัดการของเหลือทิ้งในโรงงานอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมผลิตสีน้ำมัน สีพ่นรถยนต์ แลคเกอร์ สารเคลือบผิวกระดาษ การผลิตน้ำยาทาเล็บ การผลิตกาว การผลิตวัตถุระเบิด เป็นต้น อุตสาหกรรมดังกล่าวนี้ มีวัตถุดิบหลักในการผลิตเรียกว่า ไนโตรเซลลูโลส (Nitrocellulose) ซึ่งในกระบวนการผลิตจะต้องนำเข้าเซลลูโลสคุณภาพสูงจากต่างประเทศ เพื่อนำมาสังเคราะห์โดยเปลี่ยนหมู่ฟังก์ชันให้กลายเป็นไนโตรเซลลูโลส ทั้งนี้ในกระบวนการผลิตจำเป็นต้องมีการตัดขอบทิ้งหรือแม้กระทั่งบางครั้งเกรดที่ส่งมาคุณภาพไม่ตรงตามมาตรฐาน ไม่สามารถนำไปเข้าสู่กระบวนการผลิตขั้นต่อไปได้ จึงต้องทิ้งเป็นของเสียภายในโรงงาน จากข้อมูลที่ได้สืบค้นพบว่า ใน 1 โรงงานอุตสาหกรรมประเภทดังกล่าวจะมีเซลลูโลสเหลือทิ้ง มากกว่า 100 ตันต่อปี ซึ่งวิธีการเดียวที่โรงงานนิยมใช้ในการกำจัดคือการเผาทำลายเพียงอย่างเดียว ซึ่งก่อให้เกิดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศเป็นจำนวนมากกว่า 640 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ดังนั้นเพื่อลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ ทางทีมวิจัยฯจึงมีความพยายามที่จะเปลี่ยนเศษวัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมให้เป็นวัสดุมีมูลค่าสูง สามารถหมุนเวียนนำกลับมาใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ ภายใต้กรอบแนวคิด ขยะจะไม่เป็นขยะ ถ้าเราไม่ทิ้งมันให้เป็นขยะ Waste isn't waste if we don't waste it

"ผลงานแนวคิดการวิจัยครั้งนี้ เราตั้งชื่อว่า CelloPower เกิดขึ้นจากการนำเซลลูโลสเหลือทิ้งในกระบวนการผลิตอุตสาหกรรมจากโรงงานกระดาษ และโรงงานแปรรูปอาหาร มาเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงโครงสร้างระดับนาโน เพื่อให้ได้วัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษ ทั้งความแข็งแรง น้ำหนักเบา และมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพ (biocompatibility) ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการนำไปใช้ในทางการแพทย์ นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะในกระบวนการผลิตอุตสาหกรรม แต่ยังช่วยลดต้นทุนในการผลิตวัสดุปิดแผลชนิดใหม่ที่สามารถช่วยรักษาแผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติพิเศษในการช่วยเร่งกระบวนการสมานแผล ป้องกันการติดเชื้อ และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ" ดร. สาธิตา กล่าว

ดังนั้น ภายใต้แนวความคิดของทีมนักวิจัยจากศูนย์เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ที่ได้ทำการเปลี่ยนเซลลูโลสเหลือทิ้งเหล่านี้แทนการเผาทิ้งทำลาย ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วย การเปลี่ยนหมู่ฟังก์ชัน (functional groups) ให้กลายเป็นเซลลูโลสอะซีเตท (cellulose acetate) กับคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส (Carboxymethyl Cellulose) ขึ้นรูปชิ้นงานเป็นวัสดุปิดแผล ซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานเชื้อแบคทีเรียคุณภาพสูงนั่นเอง

จากแนวความคิดนี้ ทีมนักวิจัยยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาต่อยอดให้เป็นงานวิจัย เพื่อตอบโจทย์ของการเข้าสู่การเป็นสังคมสุขภาวะทางดิจิทัล (Digital wellness) ในอนาคต ด้วยการนำเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครมีความเชี่ยวชาญและมีความร่วมมืออย่างดีกับมหาวิทยาลัย Imperial College London สหราชอาณาจักร ในการจัดตั้ง Joint Integrated Circuit (IC) Design Center ระหว่างสองสถาบัน เพื่อร่วมกันพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงและงานวิจัยล่ำสมัย รวมถึงเป็นหนึ่งในการดำเนินงานภายใต้แผนการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านเซมิคอนดักเตอร์ของประเทศ ดังนั้น การพัฒนาต่อยอดงานวิจัย CelloPower เซลลูโลสเหลือทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม สู่นวัตกรรมวัสดุปิดแผลเส้นใยนาโน จึงเป็นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่นาโนชิพ (NaNoChip) ฝังอยู่ในแผ่นวัสดุปิดแผล มีตัวรับส่งสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบไร้สาย (Wireless) เมื่อมีการกระตุ้นคลื่นสัญญาณด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า จะทำให้เกิดการกระตุ้นการรักษาบาดแผลที่เซลล์ผิวหนังตามหลักการของ Electromagnetic therapy ซึ่งสามารถทำให้บาดแผลผสานตัว และหายเร็วขึ้น อีกทั้งยังสามารถตอบสนองต่อยาที่ใช้ในการรักษาได้โดยตรง ซึ่งช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในยุคปัจจุบันด้วยพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิต ทำให้ผู้คนเป็นโรคกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เป็นแผลหายช้า หรือบางรายไม่ตอบสนองต่อยารักษา ทางทีมนักวิจัยจึงเชื่อมั่นว่าแนวคิดนี้ จะเป็นตัวช่วยให้ผู้ป่วยเหล่านี้ได้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติอีกครั้ง

ดร. สาธิตา กล่าวทิ้งท้ายว่า "เราเชื่อว่า การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดควบคู่ไปกับการสร้างนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน คือหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นการเปลี่ยนงานวิจัยเป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ทางทีมวิจัยของเราก็ยังมุ่งหวังให้เกิดการต่อยอดและได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะในท้ายที่สุด เป้าหมายสำคัญของ งานวิจัยนี้คือ เราต้องการเปลี่ยนสิ่งที่ไร้มูลค่าที่ต้องเผาทิ้งหรือฝังกลบ ให้เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าและมีประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของมวลมนุษยชาติ


ข่าวงานวิจัยและนวัตกรรม+โรงงานอุตสาหกรรมวันนี้

TWPC จับมือ PTT เดินหน้าลดคาร์บอน ลงนาม MOU โครงการ "Decarbonizing Thailand Partnership" ขับเคลื่อนสู่ Net Zero ในปี 2050

บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) ลงนามความร่วมมือ กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) เพื่อศึกษาและการบริหารจัดการลดคาร์บอนในโครงการ Decarbonizing Thailand Partnership ความร่วมมือในครั้งนี้ช่วยสนับสนุนการลดคาร์บอนในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมต่อยอดโครงการในอนาคต เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 นาย พชร เหลืองรุ่งโรจน์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส ฝ่ายธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์

หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสา... บพข.จับมือ เคมีแมน พัฒนา 'รถบรรทุกไร้คนขับ' ต้นแบบคันแรกของไทย — หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ร่วมกับ บริษัท ...