จีเอเบิล ชี้ 3 Mega Trend ไอที เปลี่ยนโฉมธุรกิจองค์กรไทย พร้อมเป็น Tech Enabler ขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ในยุคที่ธุรกิจองค์กรแข่งขันกันด้วยความเร็ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์และผลกำไรที่มากขึ้น การลดต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจรวมถึงผู้บริหารระดับสูงในธุรกิจองค์กรต่างๆ กำลังมองหา เพราะการดำเนินธุรกิจองค์กรในสถานการณ์ปัจจุบัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้าง Competitive Advantage เพื่อเป็นฐานในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งแน่นอนว่าอาวุธที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากการพัฒนาคนในองค์กรให้เรียนรู้ทักษะด้านเทคโนโลยีอยู่เสมอ การเลือกใช้เทคโนโลยีที่ตรงกับกระแสทิศทางเทรนด์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและตอบโจทย์ในการสร้างผลกำไรของแต่ละธุรกิจองค์กรในทุกภาคอุตสาหกรรมก็เป็นหัวใจสำคัญไม่แพ้กัน

จีเอเบิล ชี้ 3 Mega Trend ไอที เปลี่ยนโฉมธุรกิจองค์กรไทย พร้อมเป็น Tech Enabler ขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต

นายอุกฤษฏ์ วงศราวิทย์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการ และ ประธานบริหารสายงานโซลูชันและเทคโนโลยี บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ "G-Able" ได้เผยว่า ภาพของโลกธุรกิจองค์กรไทย ณ วันนี้ กำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วย 3 Mega Trend ด้านเทคโนโลยี ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักขององค์กรในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Cloud, AI รวมถึง Cybersecurity ซึ่งล้วนเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับธุรกิจองค์กรในทุกภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย

ซึ่ง 3 Mega Trend ที่จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตเทคโนโลยีในไทย ได้แก่

เทรนด์ที่ 1: การเข้ามาของ Global Data Center และ Public Cloud

การเข้ามาของ Global Data Center และ Public Cloud จะส่งผลให้ธุรกิจองค์กรไทยมีการย้าย workload เข้าไปยัง Public Cloud กันมากขึ้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและลดต้นทุน ซึ่งการเปลี่ยนผ่านนี้จะช่วยผลักดันให้ Application Modernization มีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาแอปพลิเคชันให้ทันสมัยด้วย Cloud-Native Technology ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจขับเคลื่อนนวัตกรรมได้เร็วขึ้นและปรับตัวต่อโลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทรนด์ที่ 2: AI จากกระแสโลกสู่การใช้งานจริง

ในปี 2568 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ธุรกิจองค์กรจะนำ Generative AI (GenAI) มาใช้งานจริงในเชิงธุรกิจ ทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, การสร้างนวัตกรรม และการเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น การนำ AI มาช่วยงานผ่านระบบอัตโนมัติ, เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI-Powered เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม

เทรนด์ที่ 3: Zero-Trust Security - ปลดล็อกความปลอดภัยสำหรับ Hybrid & Remote Work

เมื่อกระแสการทำงานแบบ Hybrid & Remote Work มีมากขึ้น ทำให้การใช้ Public Cloud เพิ่มขึ้นเทคโนโลยี Zero-Trust Security จึงกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของเทคโนโลยี Cybersecurity บนแนวคิดที่ว่า "ไม่ให้ความไว้วางใจโดยอัตโนมัติ" เป็นเทคโนโลยีที่จะมีการตรวจสอบทุกการเข้าถึงระบบอย่างเข้มงวด ซึ่งช่วยให้องค์กรมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะปลอดภัยจากภัยคุกคามไซเบอร์ และพนักงานสามารถเข้าถึงระบบจากทุกที่ได้อย่างปลอดภัย

ตลอดระยะเวลากว่า 36 ปี จีเอเบิล ในฐานะ Tech Enabler ชั้นนำของประเทศไทย ได้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้แก่ธุรกิจองค์กรไทย ในการคัดสรรและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจองค์กรให้พร้อมรับกับทุกสถานการณ์ในโลกธุรกิจ ผ่านการให้คำปรึกษาและพัฒนาโซลูชันด้านเทคโนโลยี Cloud, AI และ Cybersecurity โดย จีเอเบิล ได้มีส่วนช่วยพัฒนาเทคโนโลยีที่หลากหลายให้แก่ธุรกิจองค์กรในหลายภาคส่วน อาทิ

  • การสนับสนุนภาคธุรกิจโทรคมนาคมผ่าน Application Modernization ตัวช่วยองค์กรในการเปลี่ยนจาก Legacy Applications เป็น Cloud-Native Applications เพื่อให้สามารถพัฒนาบริการใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
  • การ Implement เทคโนโลยี Zero-Trust Security ให้กับในภาคธุรกิจ FinTech เพื่อให้ผู้ใช้งานและพาร์ทเนอร์สามารถเข้าถึงระบบได้อย่างปลอดภัยจากทุกที่ พร้อมระบบป้องกันภัยคุกคามผ่าน API และ Web Applications
  • การพัฒนา GenAI บน Private Cloud ให้กับหน่วยงานราชการ โดยใช้เทคโนโลยี AI ในรูปแบบของการรวมศูนย์และจัดการ Content แบบอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถวิเคราะห์และจัดหมวดหมู่เอกสารได้ง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการจัดเก็บเอกสาร และลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ ฯลฯ

และ จีเอเบิล ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเทคโนโลยีที่ทันสมัยและทันกระแสโลกแก่ธุรกิจองค์กรไทยในทุกภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความพร้อมในการเดินเกมรุกและดำเนินธุรกิจเหนือคู่แข่งในโลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน


ข่าวดำเนินธุรกิจ+ขับเคลื่อนวันนี้

กลุ่มบริษัท "เสนา" ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน "SET ESG Ratings ระดับ A"

ตอกย้ำผู้นำ Sustainable Living ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน กลุ่มบริษัทเสนา โดย บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เซ็น เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำด้านการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน (Sustainable Living Leader) ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งใน "หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings" ระดับ A ประจำปี 2568 กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มองไกลกว่าการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย แต่เชื่อมโยงการสร้างบ้าน

กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ... KKP คว้าผลประเมิน SET ESG Ratings ระดับสูงสุด AAA สะท้อนผลของการสร้างความยั่งยืนที่เป็นรูปธรรม — กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ประกาศความสำเร็จ...

แอกซ่าประกันภัยคว้ารางวัล ACES Green Init... แอกซ่าประกันภัยคว้ารางวัล ACES Green Initiative Award 2025 — แอกซ่าประกันภัยคว้ารางวัล ACES Green Initiative Award 2025 สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำ...

เน็กซัสฯ ขอเชิญเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ "... Unbreakable 2026 with SAP Business Suite พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยพลังของโซลูชัน AI และ Cloud ERP กับ NEXUS — เน็กซัสฯ ขอเชิญเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ "Unb...