ราช กรุ๊ป - เอไอเอฟ กรุ๊ป - โรนิตรอน จับมือศึกษาและพัฒนาโครงการผลิตกรีนไฮโดรเจน - กรีนแอมโมเนีย จากพลังงานสะอาดใน สปป.ลาว

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (กลาง) ร่วมด้วย ดร. ลิดทิกอน พูมมะสัก ประธานบริษัท บริษัท เอไอเอฟ กรุ๊ป จำกัด (ซ้าย) และนายสุภกิณห์ สมศรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรนิตรอน จำกัด (ขวา) ลงนามบันทึกความร่วมมือศึกษาและแสวงหาโอกาสในการพัฒนาโครงการกรีนไฮโดรเจนและกรีนแอมโมเนียจากพลังงานหมุนเวียนใน สปป. ลาว เพื่อรองรับความต้องการพลังงานสะอาดของภาคอุตสาหกรรม ภาคขนส่งและการผลิตไฟฟ้าในอนาคต พร้อมสนับสนุนความมุ่งมั่นของนานาชาติสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

ราช กรุ๊ป - เอไอเอฟ กรุ๊ป - โรนิตรอน จับมือศึกษาและพัฒนาโครงการผลิตกรีนไฮโดรเจน - กรีนแอมโมเนีย จากพลังงานสะอาดใน สปป.ลาว

การลงนามครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของพันธมิตรธุรกิจ 3 บริษัท ทั้ง ราช กรุ๊ป ที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าชั้นนำที่มีความรู้และประสบการณ์อย่างยาวนานในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนโดยมีฐานการผลิตในประเทศไทย สปป.ลาว ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนเอไอเอฟ กรุ๊ป เป็นกลุ่มธุรกิจชั้นนำของ สปป.ลาว ซึ่งมีฐานธุรกิจที่มั่นคงและลงทุนในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทั้งภาคการเงิน พลังงานและสาธารณูปโภค โลจิสติกส์ ฯลฯ และโรนิตรอน มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี การจำหน่ายและการจัดการโลจิสติกส์ด้านเชื้อเพลิงสะอาด ความร่วมมือของทั้ง 3 ฝ่ายในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างธุรกิจกรีนไฮโดรเจนและกรีนแอมโมเนีย ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงแห่งอนาคตที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน และเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ในการสร้างมูลค่าและคุณค่าในระยะยาวต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมในอนาคต

สำหรับ สปป.ลาว นับว่ามีศักยภาพและเหมาะสมสำหรับที่ตั้งดำเนินโครงการ เนื่องจากมีความพร้อมของปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นใช้ในกระบวนการผลิตเชื้อเพลิงกรีนไฮโดรเจน โดยมีแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่มีความหลากหลาย อาทิ พลังงานน้ำ พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ มีโครงสร้างสายส่งไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าย่อย มีปริมาณแหล่งน้ำดิบที่เพียงพอใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต รวมทั้งมีระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งจะรองรับกระบวนการผลิตเป็นเชื้อเพลิงกรีนไฮโดรเจนและกรีนแอมโมเนียได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งระบบโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย ทั้งนี้ ตลาดเป้าหมายรองรับความต้องการใช้กรีนไฮโดรเจนและกรีนแอมโมเนีย ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ เป็นต้น


ข่าวความเป็นกลางทางคาร์บอน+พลังงานหมุนเวียนวันนี้

ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย สู่ Net Zero

ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ ( Hitachi Energy) ชี้ดิจิทัลคือขุมพลังหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของประเทศไทย มองว่า Digitalization คือกุญแจสำคัญที่เชื่อมโยง ' พลังงานหมุนเวียน ' ให้เข้ากับ ' ความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ' เพื่อสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ( Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ( Net Zero ) โดยบริษัทพร้อมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าของประเทศด้วยนวัตกรรมครอบคลุมนโยบายด้านพลังงานของประเทศแบบครบวงจร เพื่อพลังงานสะอาดของไทยที่มีเสถียรภาพ

รายงานใหม่จาก CASE ชี้ ไทยต้องลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ - ขยายพลังงานหมุนเวียน เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนปี พ.ศ. 2593

ผลการศึกษาล่าสุดจากสถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ Agora Energiewende นำเสนอแนวทางลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน เพื่อ...

ชูโมเดลมหาวิทยาลัยสีเขียวต้นแบบ สอดรับนโย... ม.วลัยลักษณ์ ประกาศเจตนารมณ์ "มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน" ภายในปี 2030 — ชูโมเดลมหาวิทยาลัยสีเขียวต้นแบบ สอดรับนโยบาย Net Zero ระดับประเทศและการพัฒนาที...