เปิด 3 แนวทางการปรับสมดุลฮอร์โมนในหญิงวัยทอง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

วัยทองเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของผู้หญิง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อร่างกายหยุดผลิตฮอร์โมนหลัก ได้แก่ เอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมรอบเดือนและระบบสืบพันธุ์ ช่วงวัยทองมักเริ่มต้นเมื่ออายุประมาณ 45-55 ปี และอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจที่หลากหลาย การปรับสมดุลฮอร์โมนในหญิงวัยทอง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยบรรเทาอาการไม่พึงประสงค์และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นบทความให้ความรู้โดย พญ.จารุวรรณ สังข์มาลา แพทย์เฉพาะทางอายุรศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม แผนกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ (Diabetes Thyroid & Endocrine Department) โรงพยาบาลนวเวช ได้อธิบายเกี่ยวกับอาการของหญิงวัยทอง และวิธีการปรับสมดุลฮอร์โมนได้อย่างไรบ้าง เพื่อนำไปสังเกตตนเองหรือคนรอบข้าง นำไปสู่การรักษาช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสุขภาพที่แข็งแรงในระยะยาว

เปิด 3 แนวทางการปรับสมดุลฮอร์โมนในหญิงวัยทอง

อาการของวัยทอง เมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง หญิงวัยทองมักจะประสบกับอาการต่าง ๆ เช่น เปิด 3 แนวทางการปรับสมดุลฮอร์โมนในหญิงวัยทอง

  • อาการร้อนวูบวาบ (Hot Flashes): เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งทำให้รู้สึกร้อนวูบขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ และมักเกิดขึ้นบ่อยครั้งในตอนกลางคืน
  • เหงื่อออกมากในตอนกลางคืน: อาการนี้อาจทำให้การนอนหลับไม่ต่อเนื่องและส่งผลต่อคุณภาพการนอน
  • การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์: อาจเกิดอาการหงุดหงิดง่าย วิตกกังวล หรือมีอารมณ์ซึมเศร้า
  • ช่องคลอดแห้ง: เกิดจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ส่งผลให้เยื่อบุช่องคลอดบางลงและแห้ง ทำให้รู้สึกไม่สบายเมื่อมีเพศสัมพันธ์
  • กระดูกบางลง: ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีบทบาทในการรักษาความแข็งแรงของกระดูก เมื่อระดับฮอร์โมนลดลง กระดูกจึงอาจอ่อนแอและเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน

การปรับสมดุลฮอร์โมน

การปรับสมดุลฮอร์โมนในหญิงวัยทองสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทนและการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ซึ่งแต่ละวิธีจะช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นและส่งเสริมสุขภาพให้ดีขึ้น ดังนี้

  1. การใช้ฮอร์โมนทดแทน (Hormone Replacement Therapy - HRT)

การรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทนเป็นวิธีที่แพทย์มักแนะนำเพื่อช่วยปรับระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ซึ่งมีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ยาเม็ด หรือเจลทาผิว การใช้ฮอร์โมนทดแทนสามารถช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกมากในตอนกลางคืน และอาการช่องคลอดแห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การใช้ฮอร์โมนทดแทนควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรือมะเร็งในผู้ที่มีความเสี่ยง การติดตามการใช้ยาจึงเป็นสิ่งสำคัญ

  1. การปรับเปลี่ยนอาหารและการออกกำลังกาย

การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน

  • อาหารที่เหมาะสม: การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ แคลเซียมจากนมและผลิตภัณฑ์นม เพื่อเสริมสร้างกระดูก และอาหารที่มีไขมันดี เช่น ถั่วและปลา จะช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวม นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาเฟอีน และแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบได้ อาหารบางชนิดเช่น ถั่วเหลือง ที่มีสารไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogens) ซึ่งเป็นสารที่มีโครงสร้างคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย การรับประทานถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ในปริมาณที่พอเหมาะอาจช่วยลดอาการร้อนวูบวาบและบรรเทาอาการวัยทองได้
  • การออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดิน วิ่งเบา ๆ หรือการฝึกโยคะ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน และยังช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น
  1. การจัดการความเครียด

ความเครียดมีผลกระทบโดยตรงต่อฮอร์โมนในร่างกาย การจัดการความเครียดด้วยการทำสมาธิ การฝึกหายใจลึก ๆ หรือการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น การอ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือทำสวน จะช่วยลดความเครียดและส่งเสริมความสมดุลทางอารมณ์

การปรับสมดุลฮอร์โมนในหญิงวัยทองเป็นเรื่องที่สามารถจัดการได้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ตั้งแต่การใช้ฮอร์โมนทดแทน การปรับอาหารและการออกกำลังกาย การจัดการความเครียด การปรึกษาแพทย์และการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้หญิงวัยทองมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสุขภาพที่แข็งแรงในระยะยาว หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดและขอรับคำปรึกษาได้ที่ แผนกเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ (Diabetes Thyroid & Endocrine Department) โรงพยาบาลนวเวช โทร. 1507 Line: @navavej


ข่าวแพทย์เฉพาะทาง+ส่งเสริมวันนี้

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จับมือ วิทยาลัยดุสิตธานี เปิดตัวแคมเปญ "FIT THAI" ส่งเสริมสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนผ่านเมนูอาหารไทยสุขภาพรสเลิศ

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดตัวแคมเปญ "Fit Thai: หลากหลายเมนูเพื่อสุขภาพ" อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างทีมแพทย์เฉพาะทาง นักกำหนดอาหาร จากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ เชฟชั้นนำ จากวิทยาลัยดุสิตธานี เพื่อยกระดับอาหารไทยให้เป็นเมนูสุขภาพที่ผสาน "รสชาติ" อันเป็นเอกลักษณ์เข้ากับ "ประโยชน์" ต่อสุขภาพอย่างลงตัว ตอบโจทย์ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ ผู้ป่วย และบุคคลทั่วไปที่ต้องการเริ่มต้นดูแลตัวเองผ่านอาหารการกิน โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมชีวิตที่ยืนยาว (Longevity) และการป้องกันโรคต่าง ๆ อาทิ โรคหัว

คลินิกเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว และ ผลิตภัณฑ... รอยยิ้ม Kids Star Model @Huachiew 2025 — คลินิกเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว และ ผลิตภัณฑ์ Eucerin ร่วมจัดกิจกรรม Kids Star Model @Huachiew2025 เพื่อส่งเสริม...

ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลหัวเฉียว ... 29 ต.ค. วันโรคหลอดเลือดสมองโลก — ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดกิจกรรมวันโรคหลอดเลือดสมองโลก โดย พญ.มนนภาขุนณรงค์ (ที่ 3 จากซ้าย)...

เนื่องในวันโรคหลอดเลือดสมองโลก โรงพยาบาลห... โรคหลอดเลือดสมอง รู้ไว รักษาได้ — เนื่องในวันโรคหลอดเลือดสมองโลก โรงพยาบาลหัวเฉียวพร้อมดูแลท่านด้วย 3 ชุดตรวจโรคหลอดเลือดสมอง พร้อมให้คำปรึกษาโดยอายุร...

ปี 2569 โรงพยาบาลเอกชล 2 ได้รับโค้วตา เปิ... เตรียมพร้อมเปลี่ยนสิทธิประกันสังคม รพ.เอกชล 2 วันที่ 16 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป — ปี 2569 โรงพยาบาลเอกชล 2 ได้รับโค้วตา เปิดรับผู้ประกันตนจำนวน 150,000 ราย...

มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับห... รู้เท่าทันมะเร็งเต้านม ตรวจเจอเร็ว รักษาเร็ว? ที่นวเวชมีคำตอบ — มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับหนึ่งของมะเร็งในผู้หญิง สถิติปัจจุบันในประเทศไทยพบ...

MICS ผ่าตัดหัวใจแผลเล็ก เจ็บน้อย ปลอดภัย ... MICS ผ่าตัดหัวใจแผลเล็ก เจ็บน้อย ปลอดภัย ฟื้นตัวไวกว่าเดิม — MICS ผ่าตัดหัวใจแผลเล็ก เจ็บน้อย ปลอดภัย ฟื้นตัวไวกว่าเดิม การผ่าตัดหัวใจฟังดูเป็นเรื่องใหญ่ ...