เข้าใจความปลอดภัยของคริปโตเคอร์เรนซี: ทำไมการตรวจสอบย้อนกลับจึงสำคัญสำหรับทุกคน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

โดย ดร. กร พูนศิริวงศ์

เข้าใจความปลอดภัยของคริปโตเคอร์เรนซี: ทำไมการตรวจสอบย้อนกลับจึงสำคัญสำหรับทุกคน

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และผู้อำนวยการโครงการ Binance TH Academy บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด

"คริปโตฯ เอาไว้ฟอกเงิน" "เงินดิจิทัลติดตามไม่ได้" เป็นคำพูดที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ในสังคมไทย แต่ความจริงแล้วเป็นอย่างไร? ในฐานะผู้ที่ทำงานทั้งด้านการศึกษาและกลยุทธ์ในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรงในประเทศไทย ผมพบเจอความเชื่อผิด ๆ นี้อยู่บ่อยครั้ง ตรงกันข้าม ธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีไม่เพียงสามารถติดตามได้ แต่ยังมีความโปร่งใสมากกว่าระบบการเงินแบบดั้งเดิมเสียอีก

ทำความเข้าใจง่าย ๆ เรื่องการตรวจสอบในบล็อกเชน

ลองเปรียบเทียบง่าย ๆ นะครับ ถ้าเราจ่ายเงินสดซื้อของในตลาด เราจะติดตามเงินนั้นได้ยากมาก แต่การใช้คริปโตฯ เหมือนกับการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ที่มีการเก็บประวัติทุกรายการ แต่เพิ่มความพิเศษตรงที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ เหมือนกับมีสำเนาสมุดบัญชีที่โปร่งใสและแก้ไขไม่ได้ ที่ Binance TH ระบบนี้ช่วยป้องกันการทุจริตได้ดีกว่าระบบเดิม ๆ เสียอีก เทคโนโลยีบล็อกเชนจึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ปลอดภัยและโปร่งใสมากขึ้น

ความปลอดภัยในบริบทประเทศไทยที่เห็นชัดเจน

ความโปร่งใสของบล็อกเชนตอบโจทย์อีกหนึ่งความกังวลที่พบบ่อย นั่นคือเรื่องความปลอดภัย ทุกธุรกรรมบนเครือข่ายคริปโตเคอร์เรนซี เหรียญยอดนิยมอย่าง Bitcoin และ Ethereum ถูกบันทึกถาวร สามารถตรวจสอบได้โดยสาธารณะ และไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้ กลไกนี้สร้างความสามารถในการติดตามบน Chain ที่ไม่มีวันถูกทำลาย ซึ่งเหนือชั้นกว่าระบบการเงินทั่วไป

รายงานอาชญากรรมคริปโตล่าสุดจาก Chainalysis (2024) เผยว่าธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีที่ผิดกฎหมายมีเพียง 0.24% ของปริมาณธุรกรรมคริปโตทั้งหมด การวิเคราะห์บล็อกเชนสมัยใหม่สามารถติดตามรูปแบบการทำธุรกรรมได้อย่างแม่นยำ ทำให้คริปโตเคอร์เรนซีกลายเป็นตัวเลือกที่ไม่เข้าท่าสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการตรวจจับ

ประเทศไทยกับการพัฒนาไปข้างหน้า

ประเทศไทยถือว่าเป็นผู้นำในภูมิภาคเรื่องการกำกับดูแลคริปโตฯ ก.ล.ต. ของเราออกกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน ทำให้ผู้ลงทุนไทยได้รับการคุ้มครองที่ดี เทียบเท่าการลงทุนในตลาดหุ้น จากรายงานการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลล่าสุดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยว่าปี 2566 ที่ผ่านมา ตลาดคริปโตฯ ไทยมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 100,000 ล้านบาท โดยทุกธุรกรรมต้องผ่านการตรวจสอบตัวตน (KYC) เหมือนกับการเปิดบัญชีธนาคาร ทำให้ปลอดภัยกว่าการซื้อขายในตลาดต่างประเทศที่ไม่มีใบอนุญาต ทำให้สามารถติดตามธุรกรรมได้ 100%

แนวทางและข้อกำหนดในการขอใบอนุญาตที่ชัดเจนของ ก.ล.ต. ไทย ส่งผลให้ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนบนกระดานเทรดในประเทศต้องรักษามาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รายงานว่าปีที่ผ่านมา สามารถติดตามธุรกรรมต้องสงสัยได้ถึง 95% นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าระบบคริปโตฯ ไม่ได้เอื้อต่อการทำผิดกฎหมายอย่างที่หลายคนเข้าใจ

มองไปข้างหน้า

เทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว รายงานสินทรัพย์ดิจิทัลปี 2567 ของ World Economic Forum คาดว่าภายในปี 2569 ประสิทธิภาพการตรวจจับธุรกรรมผิดปกติจะพัฒนาขึ้นอีก 300% เมื่อเครื่องมือเหล่านี้พัฒนาขึ้น เราเห็นการเพิ่มขีดความสามารถในการจดจำรูปแบบ การติดตามแบบเรียลไทม์ และโมเดลการประเมินความเสี่ยงขั้นสูง

การศึกษาคือกุญแจสำคัญของคนไทย

จากการสำรวจล่าสุดของสมาคมฟินเทคประเทศไทย พบว่า 73% ของนักลงทุนคริปโตชาวไทยระบุว่า ความปลอดภัยและความสามารถในการติดตามตรวจสอบเป็นปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งในการเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขาย สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้นในผู้ใช้งานในตลาดของเรา ที่ Binance TH Academy เราจึงเน้นการให้ความรู้แบบเข้าใจง่าย ใช้ตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนไทย

สรุป

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยนมุมมองเรื่องคริปโตฯ จากความกลัวและความไม่เข้าใจ มาสู่การเรียนรู้และใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง ด้วยกฎระเบียบที่รัดกุมและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ประเทศไทยมีโอกาสที่จะเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลของภูมิภาค

สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติม Binance TH Academy มีคอร์สออนไลน์ฟรี ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับคนไทย เน้นการประยุกต์ใช้จริงและการลงทุนอย่างปลอดภัย ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับมืออาชีพ


ข่าวสินทรัพย์ดิจิทัล+ความปลอดภัยวันนี้

สร้างอนาคตดิจิทัลที่ปลอดภัย: ร่วมสู้ภัยไซเบอร์ที่พัฒนาการขึ้นทุกวัน

เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ ภายใต้แรงขับเคลื่อนของเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ประเทศไทยในฐานะหนึ่งในผู้นำเศรษฐกิจของภูมิภาค กำลังอยู่บนทางแยกสำคัญที่ต้องตัดสินใจว่าจะเดินต่ออย่างไร แม้การยอมรับและใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นจะสร้างโอกาสการเติบโตมหาศาล แต่ในอีกด้านหนึ่งก็กลายเป็นช่องทางให้กลุ่มมิจฉาชีพที่มีความซับซ้อนเข้ามาแฝงตัว เราเห็นได้จากปัญหาบัญชีม้าและการหลอกลวงข้ามชาติที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนไทยและผู้คนในภูมิภาคอย่างชัดเจน สะท้อนให้

Merkle Capital แต่งตั้ง ธนลภย์ ปรีดามาโนช... Merkle Capital แต่งตั้ง ธนลภย์ ปรีดามาโนช นั่งเก้าอี้ ผู้จัดการเงินทุน — Merkle Capital แต่งตั้ง ธนลภย์ ปรีดามาโนช ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการเงินทุน เสริมความแ...

บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ ... Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศจับมือ Cetus โปรเจกต์ DEX ใหญ่สุดบน Sui — บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ Bitkub Exchange ศูนย์ซื้อขายสิ...

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ Tokenized Carbon Credit

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ Tokenized Carbon Credit และผลิตภัณฑ์อื่นที่สนับสนุนการลดการปล่อยคาร์บอน สามารถซื้อขายผ่านศูนย์ซื้อขาย นายหน้า และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์...

บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ ... Bitkub ผนึกกำลัง Plume Network ขับเคลื่อนการเรียนรู้ เปิดประตูสู่โลก Real World Assets สำหรับคนไทย — บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ Bitkub Excha...

บริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด ("ERX") ซึ่งเป็... "KuCoin Thailand" เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หลัง ERX รีแบรนด์ พร้อมพลิกโฉมวงการสินทรัพย์ดิจิทัลไทย — บริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด ("ERX") ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อข...

เมื่อวานนี้ (วันที่ 8 เมษายน 2568) บริษัท... Bitkub Exchange ผุดแคมเปญ #บิทคับไม่มีมอม้า เพิ่มความมั่นใจมาตรการสกัดกั้นบัญชีม้า — เมื่อวานนี้ (วันที่ 8 เมษายน 2568) บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (บริษั...