นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานเปิดการประชุมคณะกรรมการสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ (IFPI) แห่งภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (IFPI Asia-Pacific Regional Board Meeting) ณ โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท โดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ (IFPI) ได้หารือเพื่อวางเป้าหมายในการผลักดันอุตสาหกรรมเพลงไทยให้เติบโตและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก โชว์ศักยภาพเพลงไทยสร้างรายได้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ร่วมมือกับภาคเอกชนดึงกลยุทธ์ สร้างคอนเทนต์ครอบคลุมรอบด้าน ปลุกกระแสเพลงไทยดันศิลปินสร้างเอกลักษณ์สู่เวทีโลก นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "อุตสาหกรรมเพลงไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีผลงานเพลงไทยได้รับความนิยมทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากการที่วงการดนตรีของไทยเริ่มเป็นที่รู้จักและสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ แสดงให้เห็นศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของอุตสาหกรรมเพลงไทยในตลาดระดับโลก กระทรวงพาณิชย์มอบหมายกรมทรัพย์สินทางปัญญาในฐานะองค์กรหลักในการขับเคลื่อนทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศเดินหน้าเป็นฟันเฟืองหลักสนับสนุนศิลปินและธุรกิจเพลงไทย เพื่อยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมเพลงไทย ให้เป็นหนึ่งใน hidden gem ที่พร้อมส่องประกายบนเวทีโลก"
นายนภินทร กล่าวเพิ่มเติมว่า "ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เพลงไทยเติบโตในยุคดิจิทัล คือ ทรัพย์สินทางดนตรี (Music IP) ซึ่งหมายถึงสิทธิหรือลิขสิทธิ์เพลงที่เป็นจุดแข็งเชิงกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ค่ายเพลงมีรายได้ต่อเนื่องและยาวนานหลายสิบปี ในขณะเดียวกันเทคโนโลยี AI กำลังเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญ และกลายเป็นหนึ่งในความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมเพลงทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ในวันนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่กระทรวงพาณิชย์จะได้ร่วมหารือกับ CEO ของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ เช่น Sony Music Entertainment Universal Music Group และ Warner Music Group ซึ่งเป็นคณะกรรมการบริหาร (Executive Committee) ของสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ (IFPI)ซึ่งเป็นองค์กรมีสมาชิกกว่า 8,000 บริษัทจากกว่า 70 ประเทศ เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในการส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมเพลงไทย สร้างเครือข่ายที่ทรงพลัง เพื่อช่วยส่งเสริมให้ศิลปินไทยสามารถสร้างรายได้จากผลงานเพลงของตนอย่างเต็มศักยภาพและขยายไปสู่ตลาดสากลได้อย่างมั่นคง"
นายนภินทร กล่าวทิ้งท้ายว่า "แม้ไทยจะเป็นตลาดขนาดเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศยักษ์ใหญ่อื่นๆ ในเอเชีย แต่กลับแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าทึ่ง โดยในปี 2023 ตลาดเพลงในไทย มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 5 ของเอเชีย ผ่านเม็ดเงิน 107.7 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3,600 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้สูงสุดในอาเซียน และมากกว่าจีนฮ่องกง รวมถึงจีนไทเป โดยมูลค่าดังกล่าวเติบโต 6.3% จากปี 2022 ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมเพลงในฐานะเครื่องมือสำคัญภายใต้กลยุทธ์ซอฟต์พาวเวอร์เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่เวทีโลก โดยกระทรวงพาณิชย์มีแผนเดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเพลงไทยให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศอย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างการจัดทำร่างกฎหมายเพื่อกำกับดูแลการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในประเทศไทยให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรม เป็นประโยชน์แก่ทั้งเจ้าของลิขสิทธิ์และผู้ใช้งาน เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ดีให้อุตสาหกรรมเพลงไทยสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน"
ขึ้นทะเบียน "มังคุดในสายหมอกเบตง" สินค้า GI รายการใหม่จังหวัดยะลา ผลกลมโต เนื้อสีขาวนวลปุยฝ้าย รสชาติหวานนำเปรี้ยว สร้างรายได้กว่า 62 ล้านบาท
"นภินทร" เดินหน้าขึ้นทะเบียน GI "เตยหอมปทุม" ส่งเสริมปลูกเพื่อการค้า สร้างรายได้สู่เกษตรกรในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ม.อ.จุดพลังฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้ ผ่านกลไก "เอสเส็บ" ปั้นเวทีโลก SITE 2026
MTC ร่วมเสวนา "Thailand's Investment Horizon : Seizing Sustainable Opportunities and Unlocking Private Capital in 2026
กรุงไทยคว้า 4 รางวัลความเป็นเลิศ จากเวที TMA Excellence Awards 2025 ตอกย้ำผู้นำนวัตกรรมทางการเงิน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยยั่งยืน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ในการยกระดับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการรายย่อย ผ่านกลยุทธ์สินเชื่อเฉพาะทางและนวัตกรรมดิจิทัล
กพร. ผนึกกำลัง สวทช. เปิดตัวครั้งแรก "Mining 4.0 Index" ดัชนีชี้วัดเหมืองแร่อัจฉริยะของไทย ชู 6 บริษัทต้นแบบขับเคลื่อนเศรษฐกิจนำร่องสู่เหมืองแร่ยุคดิจิทัล
Overcoat Music Festival ครั้งที่ 15 ส่งท้ายปีสวยงาม! ดันเศรษฐกิจเพชรบูรณ์-ภาคเหนือตอนล่าง กระตุ้นท่องเที่ยวไทยรับฤดูหนาว
ดีป้า ปิดฉากความสำเร็จ ODOS Summer Camp รุ่นที่ 1 สร้างปรากฏการณ์ปั้นดิจิทัลทาเลนต์เลือดใหม่ เชื่อมองค์ความรู้ระดับโลกสู่การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลไทยอย่างยั่งยืน