แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก ระบุว่าสามารถบล็อกการโจมตีแบบ bruteforce ที่พยายามโจมตีธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มากกว่า 23 ล้านครั้ง ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2024
การโจมตีแบบบรูทฟอร์ซ (bruteforce attack) เป็นวิธีการที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ในการคาดเดาข้อมูลการเข้าสู่ระบบ (login info) คีย์การเข้ารหัส (encryption key) หรือค้นหาเว็บเพจที่ซ่อนอยู่ โดยพยายามใช้ชุดอักขระที่เป็นไปได้ทั้งหมดอย่างเป็นระบบจนกว่าจะพบชุดอักขระที่ถูกต้อง การโจมตีแบบบรูทฟอร์ซที่ประสบความสำเร็จ ผู้โจมตีจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่มีค่า สามารถติดตั้งและแพร่กระจายมัลแวร์ และแฮ็กระบบเพื่อดำเนินการที่เป็นอันตรายต่างๆ
ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2567 ผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรธุรกิจของแคสเปอร์สกี้ที่ติดตั้งในบริษัทขนาดต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตรวจพบและบล็อก Bruteforce.Generic.RDP ได้ทั้งหมดจำนวน 23,491,775 รายการ
โปรโตคอล Remote Desktop Protocol หรือ RDP คือโปรโตคอลของ Microsoft เป็นอินเทอร์เฟซแบบกราฟิกให้ผู้ใช้เพื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่านเครือข่าย โปรโตคอล RDP ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อควบคุมเซิร์ฟเวอร์และพีซีเครื่องอื่นๆ จากระยะไกล โดยผู้ดูแลระบบรวมถึงผู้ใช้ที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านเทคนิคก็สามารถใช้ได้
การโจมตี Bruteforce.Generic.RDP จะพยายามค้นหาคู่ล็อกอินและรหัสผ่าน RDP ที่ถูกต้อง โดยตรวจสอบรหัสผ่านที่เป็นไปได้ทั้งหมดอย่างเป็นระบบจนกว่าจะพบรหัสผ่านที่ถูกต้อง เมื่อประสบความสำเร็จ ผู้โจมตีจะสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์โฮสต์เป้าหมายจากระยะไกลได้
ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย มีจำนวนการโจมตี RDP มากที่สุดสามลำดับแรกในภูมิภาค โดยพบความพยายามโจมตีมากกว่า 8.4 ล้านรายการ 5.7 ล้านรายการ และ 4.2 ล้านรายการ ตามลำดับ สิงคโปร์พบการโจมตีมากกว่า 1.7 ล้านรายการ ฟิลิปปินส์มากกว่า 2.2 ล้านรายการ และมาเลเซียน้อยที่สุดเพียงกว่า 1 ล้านรายการ
นายเซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า "แม้ว่าการโจมตีแบบบรูทฟอร์ซจะเป็นวิธีเก่า แต่องค์กรต่างๆ ก็ไม่ควรประมาทการโจมตีรูปแบบนี้ ภัยคุกคามนี้ยังอันตรายต่อองค์กรธุรกิจในภูมิภาคนี้ เนื่องจากองค์กรธุรกิจจำนวนมากใช้รหัสผ่านที่อ่อนแอ ทำให้ผู้โจมตีประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์หลายปัจจัย (MFA) บนการเชื่อมต่อ RDP รวมถึงการตั้งค่า RDP ที่ไม่ถูกต้องยังเพิ่มโอกาสในการโจมตีแบบบรูทฟอร์ซสำเร็จอีกด้วย"
นายโยวกล่าวเสริมว่า "อาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อเพิ่มศักยภาพการโจมตีแบบบรูทฟอร์ซ ด้วยการสร้างและทดสอบรหัสผ่านแบบอัตโนมัติ เพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพมากขึ้น ผลกระทบจากการละเมิดเครือข่ายองค์กรนั้นร้ายแรงกว่ามาก องค์กรอาจประสบปัญหาการละเมิดข้อมูล หรือหากระบบถูกบุกรุก การดำเนินงานก็จะหยุดชะงัก เกิดผลกระทบทางการเงินอย่างมาก เนื่องจากองค์กรต้องเผชิญกับต้นทุนจากการหยุดดำเนินงาน ความพยายามในการกู้คืนข้อมูล และค่าปรับจากหน่วยงานกำกับดูแล"
แคสเปอร์สกี้ขอแนะนำมาตรการเพื่อปกป้ององค์กรอย่างเหมาะสมดังนี้
- ใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งและไม่ซ้ำกัน อย่าใช้รหัสผ่านซ้ำในการเข้าเว็บไซต์ บัญชีโซเชียลมีเดีย หรือบัญชีการเงินหลายๆ แห่ง ควรเลือกใช้แอปช่วยจัดการรหัสผ่าน (password manager) ช่วยสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่งและไม่ซ้ำกัน
- ใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย (2FA) และพิจารณาใช้เครื่องมืออย่างเช่น แอปตรวจสอบสิทธิ์ (authenticator app)
- ไม่เปิดเผยบริการเดสก์ท็อป / การจัดการระยะไกล (เช่น RDP, MSSQL เป็นต้น) ให้กับเครือข่ายสาธารณะ เว้นแต่จำเป็นจริงๆ และควรใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย และกฎไฟร์วอลล์สำหรับบริการต่างๆ เสมอ
- ตรวจสอบการเข้าถึงและกิจกรรมในเครือข่ายเพื่อค้นหาสิ่งผิดปกติ ควบคุมการเข้าถึงของผู้ใช้ตามความจำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงของการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตและข้อมูลรั่วไหล
- จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย (SOC) โดยใช้เครื่องมือ SIEM (security information and event management) สำหรับตรวจสอบและวิเคราะห์เหตุการณ์ด้านความปลอดภัยของข้อมูล และโซลูชัน XDR ซึ่งเป็นโซลูชันที่ป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ที่ซับซ้อนได้
- ใช้ข้อมูลภัยคุกคามล่าสุด (Threat Intelligence) เพื่อรู้จักภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่กำหนดเป้าหมายโจมตีองค์กรได้อย่างเจาะลึก และให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน InfoSec ใช้ข้อมูลภัยคุกคามเชิงลึก เพื่อจับตาดูภัยคุกคามไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปที่องค์กร และแสดงข้อมูลที่ครอบคลุมและอัปเดตเป็นปัจจุบันที่สุดเกี่ยวกับผู้ประสงค์ร้ายและ TTP
- หากบริษัทไม่มีฟังก์ชันความปลอดภัยไอทีโดยเฉพาะ และมีเฉพาะผู้ดูแลระบบไอทีทั่วไปที่อาจขาดทักษะเฉพาะทางที่จำเป็นในการตรวจจับและการตอบสนองระดับผู้เชี่ยวชาญ ให้พิจารณาใช้บริการที่มีผู้เชียวชาญจัดการให้ (Managed Detection and Response) ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านความปลอดภัยได้ทันทีในระดับที่สูงขึ้น และช่วยให้องค์กรธุรกิจมุ่งเน้นการสร้างความเชี่ยวชาญภายในองค์กรได้
- สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก แนะนำให้ใช้โซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยจัดการความปลอดภัยไซเบอร์แม้ว่าจะไม่มีผู้ดูแลระบบไอทีก็ตาม อีกทั้งยังช่วยองค์กรธุรกิจประหยัดงบประมาณ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาธุรกิจ
แคสเปอร์สกี้ระบุ แคมเปญใหม่ของ Lazarus เล็งใช้ช่องโหว่จากซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์
ธุรกิจ SMB ในอาเซียน 66% ขาดความสามารถต้านภัยคุกคามซับซ้อน Kaspersky เสนอโปรโมชั่น KEDR Optimum ช่วยธุรกิจผ่านพ้นวิกฤต
การโจรกรรมเทเลเมติกส์ครั้งใหญ่ แคสเปอร์สกี้พบช่องโหว่คุกคามความปลอดภัยของรถยนต์
Kaspersky คว้ารางวัลซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยยอดเยี่ยมปี 2025 จากงาน Commart Awards
'ยานน์ มาร์เดนโบโร' นักแข่งรถมืออาชีพ และ INTERPOL ร่วมงาน Kaspersky SAS 2025
Kaspersky เปิดตัวหลักสูตรออนไลน์ฟรีสำหรับมหาวิทยาลัย บูรณาการความรู้ความปลอดภัยไซเบอร์
แคสเปอร์สกี้เผย คอมพิวเตอร์มากกว่าครึ่งยังใช้ Windows 10
เอเชียแปซิฟิกเป็นศูนย์กลางควอนตัม แคสเปอร์สกี้ชี้พบความเสี่ยงไซเบอร์ที่สำคัญ