กลุ่มวิจัยนวัตกรรมเพื่อสังคมสมานฉันท์และเศรษฐกิจถ้วนถึงแห่งเอเชีย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดตัวนวัตกรรมแพลตฟอร์ม "น้องเคยมาเท่าไหร่" และ "ตามสั่ง-ตามส่ง" ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจสังคมสมานฉันท์ (Social and Sollidarty Economy) เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะทางเศรษฐกิจ (Economic Well-being) ตั้งเป้าสนับสนุนให้อาชีพกลุ่มวินมอเตอร์โชค์รับจ้าง และร้านค้าอาหารรายย่อยในชุมชน เข้าถึงระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มรายได้ และมีศักยภาพในการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภภา รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิชาการและนวัตกรรม สสส. กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในไทย ส่งผลกระทบให้ประชาชนต้องกักตัวอยู่ในบ้านเพื่อลดความเสียงต่อการติดโรค แพลตฟอร์มออนไลน์ให้บริการส่งอาหารและการเดินทางได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้วินมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ได้เข้าร่วมแพลตฟอร์มต้องประสบปัญหารายได้ลดลง ไม่พอเลี้ยงชีพ ผลสำรวจผู้ขับขี่รถจักรยานรับจ้างสาธารณะในกรุงเทพฯ 50 เขต จำนวน 400 คน ปี 2566 พบว่า วินฯ 89.3% ไม่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันเรียกรถ สาเหตุจากการใช้งานที่ไม่สะดวก ขั้นตอนการสมัครแพลตฟอร์มมีความซับซ้อน และถูกเรียกเก็บค่าใช้บริการ ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น 46.5% ไม่มีเงินออม 11% เป็นหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ
"จากสถานการณ์ดังกล่าว สสส. เดินหน้าร่วมกับสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ พัฒนานวัตกรรมแพลตฟอร์ม "น้องเคยมาเท่าไหร่" และแพลตฟอร์ม "ตามสั่ง-ตามส่ง" ด้วยแนวคิด Economic Well-being มุ่งสนับสนุนให้วินฯ ร้านอาหาร และร้านค้าในชุมชน เข้าถึงนวัตกรรมเพื่อใช้เป็นช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ สร้างความมั่นคงด้านอาชีพ ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่มีเครื่องมือในการสั่งอาหารและเรียกใช้บริการวินฯ ในชุมชนที่มีมาตรฐานและราคาที่เป็นธรรม แพลตฟอร์มนำร่องใช้งานจริงแล้วใน 19 พื้นที่ทั่วประเทศ เช่น เขตชุมชนลาดพร้าว 101 เขตชุมชนสามย่าน กรุงเทพฯ, อ.บางกรวย จ.นนทบุรี, อ.เบตง จ.ยะลา ทั้งนี้ ตั้งเป้าขยายผล 10 พื้นที่ ภายในปี 2568 เพื่อพัฒนาโมเดลด้านความมั่นคงทางอาชีพ และมาตรฐานการให้บริการของวินฯ รวมทั้งระบบการจัดการขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับประชาชน" ดร.ณัฐพันธุ์ กล่าว
นายอรรคณัฐ วันทนะสมบัติ นักวิจัยจากกลุ่มวิจัยนวัตกรรมเพื่อสังคมสมานฉันท์และเศรษฐกิจถ้วนถึงแห่งเอเซีย สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาฯ กล่าวว่า นวัตกรรมแพลตฟอร์ม "ตามสั่ง-ตามส่ง" และ "น้องเคยมาเท่าไหร่" พัฒนาจากการออกแบบร่วมกับผู้ใช้งานจริงคือ กลุ่มวินฯ ร้านค้า และร้านอาหารในชุมชน เน้นให้ระบบใช้งานง่าย ตรงไปตรงมา ผู้ใช้งานที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลมากนักสามารถเลือกว่าจะใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน หรือใช้งานผ่านระบบ Line Chat Bot โดยวินฯ ที่เข้าร่วมแพลตฟอร์มน้องเคยมาเท่าไหร่ ไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่น อัลกอริทึมจับคู่งานตามเวลาและลำดับคิว เพื่อให้วินฯ ที่อยู่ใกล้ที่สุดและอยู่ในคิวแรกได้พิจารณารับงานก่อน
สำหรับร้านค้าและร้านอาหารที่เข้าร่วมใช้งานแพลตฟอร์มตามสั่ง-ตามส่งลดภาระต้นทุนการขาย เพราะไม่ต้องเสียค่าตอบแทนที่ผู้ขายได้รับจากการขายสินค้า (Commission) ดังที่แพลตฟอร์มทั่วไปเรียกเก็บ แต่จะใช้ระบบ ร่วมจ่าย Co-Contribution คิดตัดสินใจร่วมกันว่า ร้านอาหาร ไรเดอร์ และผู้บริโภค ซึ่งได้ประโยชน์ร่วมกัน จะแบ่งสัดส่วนจ่ายตามต้นทุนละ 5-6 บาทต่อครั้ง ซึ่งน้อยกว่าที่แพลตฟอร์มทั่วไปเรียกเก็บจากร้านอาหาร 35% ของยอดขาย โดยเมื่อมีผู้สั่งอาหาร ระบบจะส่งคำสั่งซื้อไปยังวินฯ หรือไรเดอร์ในชุมชนที่อยู่ใกล้ร้านที่สุด ต่างจากแพลตฟอร์มทั่วไปที่ส่งงานไปยังไรเดอร์ที่มีคะแนนสูงสุดซึ่งบางครั้งอยู่ไกลจากร้าน
นายเฉลิม ทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงโควิด-19 วินฯ ไม่สามารถรับ-ส่งผู้โดยสารได้ตามปกติ ประชาชนส่วนใหญ่จึงหันไปพึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสั่งอาหารและใช้บริการเดินทาง ส่งผลให้วินฯ ที่ไม่เข้าร่วมแพลตฟอร์มมีรายได้ลดลง จากวันละ 700-800 บาท เหลือเพียงวันละ 400-500 บาท ทำให้เกิดความเครียดสะสม กระทบโดยตรงต่อสุขภาพจิต เพราะรายได้ไม่มีเพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ สมาคมฯ จึงร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่ายออกแบบแพลตฟอร์ม เพื่ออำนวยความสะดวกคนในชุมชนด้านการเดินทาง ช่วยให้วินฯ นำร่องที่เข้าร่วมแพลตฟอร์มฯ ไม่ถูกเอาเปรียบจากการแย่งลูกค้า มีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดมาตรฐานการให้บริการ และมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ขอเชิญชวนวินฯ ร้านค้า และประชาชนร่วมใช้บริการทั้ง 2 แพลตฟอร์ม เพื่อสร้างโอกาสให้วินฯ ที่กระจายตัวอยู่ตามชุมชนได้รับ-ส่งผู้โดยสาร และประชาชนได้ใช้วินฯ ที่มีมาตรฐาน และขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
วินฯ หรือไรเดอร์ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใช้งานแพลฟอร์มได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ Google Play สำหรับระบบ Android และ App Store สำหรับระบบ iOS
ส่วนผู้ที่ใช้บริการสามารถสแกน QR code ที่โปสเตอร์ หรือแอดไลน์ @winapp สำหรับแพลตฟอร์ม "น้องเคยมาเท่าไหร่" และ @tamsang-tamsong สำหรับแพลตฟอร์ม "ตามสั่ง-ตามส่ง"
ละครอักษรฯ ซ้อน "คณะลครเกเรกำดัด" มีตัวลครอย่างบรมโก้ฟรีที่สุด, จะเล่น "ละครล้อ ซ้อนละครร้อง" เรื่อง "ตั้งจิตคิดคลั่ง" 15-25 มกราคม 2569
SCCT ผนึกกำลัง IFSCC จับมือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ NANOTEC จัดสัมมนาพิเศษระดับโลก เปิดมุมมองอนาคต "Skin Longevity and Epigenetics"
ปตท. คว้า 6 รางวัล Thailand Corporate Excellence Awards 2025 สะท้อนบทบาทองค์กรแห่งความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เปิด "พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน" "มองเมืองผ่านเลนส์วิทยาศาสตร์"
"สารัชถ์ รัตนาวะดี แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 รวย 1.89 แสนล้านบาท"
TMA ชี้ทางรอดธุรกิจไทย ปี 69 องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน "เทคโนโลยี คน นวัตกรรม ความยั่งยืน" หัวใจหลักฝ่าคลื่นเศรษฐกิจ
ศูนย์หนังสือจุฬาฯ เปิดตัว "CHULA STORE" The Showcase of Chulaness
SMC จับมือ ทีเส็บ จัดงาน Visionary Leaders' Dialogue ชูอุตสาหกรรมไมซ์ขับเคลื่อนศักยภาพการแข่งขันของไทย