ม.ธรรมศาสตร์ มอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคลากร 7 สาขา ตอกย้ำความก้าวหน้าทางวิชาการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กองบริหารการวิจัย ร่วมกับสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU RAC) จัดงาน วันเชิดชูเกียรตินักวิจัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2567 เพื่อยกย่อง สร้างขวัญและกำลังใจ ให้กับคณาจารย์และนักวิจัย ที่สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยและสร้างผลงานเป็นประโยชน์ต่อสังคม

ม.ธรรมศาสตร์ มอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคลากร 7 สาขา ตอกย้ำความก้าวหน้าทางวิชาการ

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่าการจัดงานในครั้งนี้ได้มีการมอบรางวัลให้กับนักวิจัยใน 7 สาขา จำนวน 106 คน ประกอบด้วย ผู้ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์, ผู้ได้รับโล่รางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมธีวิจัยอาวุโส และนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ, ผู้ได้รับการกำหนดตำแหน่งศาสตราจารย์ ได้รับเงินเดือนขั้นสูง, ผู้ได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่น มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์, ผู้ได้รับทุนวิจัยโครงการขนาดใหญ่ผ่าน TURAC, ผู้ได้รับรางวัลนักวิจัยรุ่นใหม่ดีเด่นระดับส่วนงาน และผู้ได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณทางด้านการวิจัยจากหน่วยงานภายนอก รวมทั้ง สิ้น 94 รางวัล ทั้งนี้ในส่วนของผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ เกิดจากกระบวนการสรรหาคณาจารย์หรือนักวิจัยที่ดี จากคณะหรือสาขาวิชาต่างๆ อย่างเข้มข้น และมีแหล่งข้อมูลที่ทันสมัย ม.ธรรมศาสตร์ มอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคลากร 7 สาขา ตอกย้ำความก้าวหน้าทางวิชาการ

"มหาวิทยาลัยเน้นการทำงานเพื่อตอบโจทย์สังคม ทำให้ประเด็นการมองโจทย์การทำงานวิจัยทั้งสายสังคมและวิทยาศาสตร์ เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับประเด็นที่เป็นปัญหาของสังคม งานวิจัยจึงมีคุณภาพและตอบโจทย์สังคมได้ เท่าทันกับสถานการณ์ เพราะในปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก นักวิจัยของเราก็ได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการทำงาน นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการทำงานวิจัยต่างๆ มาโดยตลอด"

ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ บริพัตร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย และนวัตกรรม กล่าวถึงแนวทางสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อสังคมว่า "ในปัจจุบันได้มีการนำเอาผลงานวิจัยของ ม.ธรรมศาสตร์ ไปต่อยอดทั้งในด้านการแพทย์ และสังคม เช่น สร้างความร่วมมือกับกทม. โดยนำผลการวิจัยไปต่อยอดด้านการฟื้นฟูศักยภาพของผู้สูงอายุ ซึ่งงานวิจัยจะก้าวสู่เวทีโลกได้นั้น จะต้องตอบโจทย์ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมทั้งในและต่างประเทศ ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ เป็นผลงานที่พูดถึงปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ รวมถึงนวัตกรรมต่างๆ ทั้งในด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม"

โดยการจัดงานครั้งนี้ มีการประกาศเกียรติคุณพร้อมมอบโล่รางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ให้กับนักวิจัย 2 ท่าน ได้แก่ ศ.ดร.เกศรา ณ บางช้าง เมธีวิจัยอาวุโส ประจำปี 2567 สาขาวิทยาศาสตร์เคมีและเภสัช ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัยที่บูรณาการองค์ความรู้ด้านเภสัชวิทยาเข้ากับวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างเป็นระบบ เพื่อต่อสู้กับโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะโรคมาลาเรียและมะเร็งท่อน้ำดี

"ปัจจุบันนักวิจัยต้องปรับตัวมาก เพื่อเข้าถึงปัญหา ที่พร้อมเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งต้องเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำไปบูรณาการเข้ากับงานวิจัยในศาสตร์ของตัวเอง นอกจากนี้ต้องทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ร่วมมือกับผู้มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อผลักดันให้ผลงานประสบความสำเร็จ ซึ่งต้องได้รับการสนับสนุนตั้งแต่มหาวิทยาลัย รัฐบาลหรือองค์กรต่างๆ ขณะนี้เริ่มมีการจัดระบบการให้ทุนวิจัยที่เป็นกลุ่มหรือคณะ มากกว่าแบบรายบุคคล" ศ.ดร.เกศรา กล่าว

นักวิจัยที่ได้รับโล่รางวัลพระราชทาน กรมสมเด็จพระเทพฯ อีกท่านคือ รศ.ดร.นาถนิรันดร์ จันทร์งาม นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขานิติศาสตร์ ซึ่งได้ศึกษาวิจัยด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ตัวอย่างงานวิจัย อาทิ 1.ความสัมพันธ์ระหว่างการแบ่งแยกดินแดน การกำหนดเจตจำนงด้วยตนเองของประชาชน และการรับรองในกฎหมายระหว่างประเทศ โดยพิจารณาร่วมกับกรณีของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย และ 2.บทเรียนและข้อเสนอแนะจากคดีอนุญาโตตุลาการ ภายใต้สนธิสัญญาการลงทุนคดีแรกของประเทศไทย (คดี Walter Bau v. Thailand)

"งานวิจัยที่ทำจะมีประโยชน์ชั้นต้นในทางวิชาการ ขณะนี้มีนักศึกษาในระดับปริญญาโทและเอกจากสถาบันต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร รัสเซีย บราซิล ได้นำเอาผลงานวิจัยไปใช้ในตำราวิชาการ หรือเอกสารประกอบหลักสูตร ในทางปฎิบัติเมื่อมีข้อพิพาทคดีจริงขึ้นมา หลายคดีได้นำเอาบทความวิจัยไปสู้กัน บางคดีที่เกิดขึ้นภายใต้บริบทของธนาคารโลก ก็ต้องไประงับข้อพิพาทกันที่ธนาคารโลก ซึ่งมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่เป็นภาพของความเป็นจริงที่นำไปใช้ที่ไม่ ใช่อยู่แค่ในห้องสมุด นอกจากนี้เมื่อมีการจัดศาลจำลองระหว่างประเทศ นักศึกษาฝึกหัดที่ทำหน้าที่เป็นนักกฎหมายในคดีจะนำผลงานวิจัยเหล่านี้ไปใช้ เป็นประโยชน์ในการสู้คดี ทำคำร้องหรือคำให้ การต่างๆ"


ข่าวมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์+มหาวิทยาลัยธรรมศาสวันนี้

ไทยพีบีเอส ชวนร่วมงาน "Talk for Truth" สู้ศึกเลือกตั้ง 2569 เปิดผลรางวัล Fact-Check Thailand Award 2026

สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไทยพีบีเอส และ Cofact Thailand ชวนประชาชนร่วมงาน "Talk for Truth และพิธีประกาศผล Fact-Check Thailand Award 2026" เปิดมุมมองสังคมไทยสู้ศึกข่าวลวงก่อนเลือกตั้งปี 2569 วันที่ 18 ธ.ค.นี้ ที่ไทยพีบีเอส ระบุความร่วมมือ 4 ฝ่าย และ 3 แกนตรวจสอบ คือหัวใจสู่การเลือกตั้งโปร่งใส รศ. ดร.วิไลวรรณ จงวิไลเกษม หัวหน้าสาขาวิทยุโทรทัศน์และดิจิทัล คณะวารสารศาสตร์และสื่อมวลชนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวหน้าโครงการ Fact-Check Thailand 2026 :

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งปร... เริ่มแล้ว ! ค่ายอบรม Fact-Check Thailand 2026 เสริมพลังสังคมสู้ข่าวลวงรายงานข่าวเลือกตั้ง — องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ...

ผนึกกำลังวิจัยครั้งสำคัญ โรงพยาบาลธรรมศาส... โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ร่วมกับ โนโว นอร์ดิสค์ ลงนาม MOU ขยายงานวิจัยทางคลินิก — ผนึกกำลังวิจัยครั้งสำคัญ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณ...

บริษัท หลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด หรือ... Liberator x ธรรมศาสตร์ จัด Workshop "Pitch หุ้นอย่างไร ให้โดนใจ" จุดไฟนักลงทุนรุ่นใหม่ — บริษัท หลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด หรือ Liberator ร่วมกับคณะพาณ...