ส่งออก 4 สตาร์ตอัปร่วมอวดศักยภาพสู่ตลาดกาตาร์ใน "Web Summit Qatar 2025" พร้อมชี้โอกาสนวัตกรรมสายกรีนโตแรงกว่าร้อยละ 25 ในช่วงตลอด 10 ปีนี้
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดพื้นที่แห่งโอกาสนำ 4 สตาร์ตอัปไทย สาขาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม (Climate Tech - Green Tech) เข้าร่วมจัดแสดงนวัตกรรม แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น พร้อมทั้งพบปะสตาร์ตอัป ผู้เชี่ยวชาญ และนักลงทุนจากต่างประเทศใน "งาน Web Summit Qatar 2025" ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เพื่อขยายตลาดธุรกิจนวัตกรรมไทยสู่ตลาดโลก หลังพบตลาดเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 25 ต่อปี ตลอดระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะสามารถผลักดันสตาร์ตอัปสายเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม (Climate Tech - Green Tech) ให้ก้าวสู่การเป็นยูนิคอร์นรายใหม่ของประเทศไทยได้
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า เทรนด์รักษ์โลกเป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสนใจ โดยทั้งกลุ่มเอสเอ็มอี สตาร์ตอัป และภาคอุตสาหกรรมต่างเร่งนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมขึ้นมาขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ทำให้สตาร์ตอัปที่พัฒนานวัตกรรมทั้งในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคและนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเทคโนโลยีเหล่านี้ทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคาดการณ์ว่าระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า จะเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 25 ต่อปี สตาร์ตอัปไทยถือว่ามีความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมไม่แพ้ต่างประเทศ แต่ยังขาดโอกาสและความพร้อมในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างเป็นระบบ จึงทำให้ยังไม่สามารถเติบโตออกสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างเต็มที่
ดังนั้น NIA ในฐานะผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม (Focal Conductor) ของประเทศ จึงเดินหน้าสนับสนุนทั้งเงินทุน โอกาส และองค์ความรู้ เพื่อให้สตาร์ตอัปไทยเติบโตอย่างมีศักยภาพและพร้อมขยายตลาดสู่ระดับโกลบอลมากขึ้น รวมถึงเร่งสร้างให้เกิดสตาร์ตอัปที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในระดับยูนิคอร์น หรือสตาร์ตอัปที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ในประเทศไทยมากขึ้น และจำเป็นต้องกระตุ้นให้เกิดการลงทุนผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา ซึ่ง "โครงการ Unicorn Factory Thailand" เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จะช่วยเพิ่มพูนศักยภาพและปลดล็อกโอกาสสตาร์ตอัปไทยให้พร้อมก้าวสู่ตลาดโลก โดยจะจัดให้มีการเวิร์กช็อปสตาร์ตอัประดับ Series A ขึ้นไป ตั้งแต่การเรียนรู้วิธีสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน การขยายเครือข่ายนักลงทุนและพันธมิตร แนวทางการพาธุรกิจบุกตลาดต่างประเทศ และโอกาสเข้าร่วมนำเสนอแผนธุรกิจในเวทีแสดงผลงานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก
ดร. กริชผกา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมา NIA ได้สร้างโอกาสทางธุรกิจและเชื่อมต่อสตาร์ตอัปไทยระยะเติบโต จำนวน 4 ราย และทีมนักศึกษาที่ชนะเลิศจากโครงการ Startup Thailand League 2024 จำนวน 1 ราย ในการเข้าร่วมนำเสนอแผนธุรกิจในงานสัมมนาและนิทรรศการทางด้านเทคโนโลยีและวิสาหกิจเริ่มต้นระดับโลก (TechCrunch Disrupt 2024) และได้เข้าหารือกับหน่วยงานพันธมิตรที่ส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น ณ สหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วยให้สตาร์ตอัปไทยได้เรียนรู้แนวทางขยายตลาดและโอกาสได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายนักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญ และพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก สำหรับปี 2568 นี้ NIA ยังคงเดินหน้าสร้างโอกาสทางธุรกิจและเชื่อมต่อสตาร์ตอัปไทย ระยะเติบโตออกสู่ตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยได้คัดเลือกสตาร์ตอัปไทยกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม (Climate Tech - Green Tech) ที่มีศักยภาพพร้อมขยายตลาดสู่ต่างประเทศ จำนวน 4 ราย ได้แก่
1. Altotech.AI ผู้พัฒนาระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ 2. ION ENERGY CORPORATION ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับที่อยู่อาศัยชั้นนำของประเทศ พร้อมแพลตฟอร์มจัดการพลังงานและการชำระเงินสำหรับลูกค้า PPA/EPC 3. VEKIN (Thailand) ผู้พัฒนา AI Carbon Editor ช่วยวิเคราะห์และจัดการการปล่อยก๊าซคาร์บอนขององค์กรหรือภาคอุตสาหกรรม และ 4. MUI Robotics ผู้พัฒนาหุ่นยนต์อัจฉริยะและระบบอัตโนมัติเพื่อมาใช้ในอุตสาหกรรม เช่น การผลิต โลจิสติกส์ การดูแลสุขภาพและการเกษตร ให้เข้าร่วมออกบูธและนำเสนอแผนธุรกิจ พร้อมพบนักลงทุนและขยายตลาดในงานประชุมด้านเทคโนโลยีและสตาร์ตอัปที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง "Web Summit Qatar 2025" ณ รัฐกาตาร์ ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมสตาร์ตอัป นักลงทุน บริษัทขนาดใหญ่ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้นำเทคโนโลยีจากหลากหลายอุตสาหกรรมมาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ตอัป เชื่อมโยงธุรกิจนวัตกรรม และการลงทุนระหว่างประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมงานรวมกว่า 25,000 คน สตาร์ตอัป 1,520 บริษัท นักลงทุน 723 ราย และพันธมิตรรวม 167 ราย ทั้งนี้ บูธของสตาร์ตอัปไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนและภาคธุรกิจจากหลากหลายประเทศเข้าร่วมพูดคุยธุรกิจและแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นจำนวนมาก
"NIA มีเป้าหมายในการสร้างยูนิคอร์นสัญชาติไทยรายใหม่ จำนวน 1-2 ราย ภายใน 3 ปี จากตลาดสตาร์ตอัปในกลุ่มของฟู้ดเทคและกรีนเทค เนื่องจากมีตลาดใหญ่รองรับ โดยเฉพาะตลาดกรีนเทคที่มีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะทั้งองค์กรขนาดใหญ่และธุรกิจเอสเอเอ็มอีต้องการโซลูชั่นที่ช่วยแก้ไขปัญหาและนำเสนอทางออกด้านสิ่งแวดล้อม จากการถูกกำหนดเรื่องภาษีที่เก็บจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก (Carbon Tax) ทำให้ตลาดนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมมีความต้องการมากเพียงพอที่จะสนับสนุนสตาร์ตอัปกลุ่มนี้ให้จำนวนเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมูลค่าการลงทุนของเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งประเทศไทยมีหลายปัจจัยที่ทำให้สตาร์ตอัปเหล่านี้สามารถขยายตลาดไปสู่ระดับโกลบอลได้ ทั้งเรื่องพื้นที่ ทรัพยากร และสภาพปัญหาที่เหมาะสมจะพัฒนาเป็น sandbox ให้สตาร์ตอัปที่สร้างเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมมาทดลองใช้นวัตกรรมกับภาคอุตสาหกรรมผ่าน Green Transformation มากขึ้น โดยการใช้พลังงานหมุนเวียน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดการสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ตอนนี้มีเม็ดเงินลงทุนที่เป็นทั้งผู้ใช้ และการลงทุนก็มีเพียงพอ น่าจะเป็นโอกาสที่ทำให้เกิดยูนิคอร์น"
นายพัฒนณัฐฏ์ วงศ์วรรณ ประธานเจ้าหน้าที่เพื่อการเติบโตองค์กร (CGO) บริษัท เอ็มยูไอ โรบอติกส์ จำกัด ระบุว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีในเครือ MUI Robotics สามารถส่งออกให้กับอุตสาหกรรมไทยเป็นจำนวนมากเนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การรักษาสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิตภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การได้รับการสนับสนุนจาก NIA ยิ่งเสริมสร้างให้ MUI Robotics สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในอุตสาหกรรมต่างประเทศ โดยเฉพาะการได้รับโอกาสพบนักลงทุนและขยายตลาด ในงาน Web Summit Qatar 2025 ช่วยให้แบรนด์นวัตกรรมไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับของนักลงทุนในตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยไม่เพียงตอบโจทย์การรักษาสิ่งแวดล้อมและปรับใช้ในบริบทของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถแก้ปัญหาเชิงอุตสาหกรรมในระดับสากลโลกได้เช่นกัน ดังนั้น หากรัฐบาลมีการผลักดันและสนับสนุนธุรกิจสตาร์ตอัปให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้สตาร์ตอัปไทยสาขา Climate Tech และ Green Tech สามารถเติบโตในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
ดร.เอกสิทธิ์ เพิ่มพูนพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การได้รับโอกาสจาก NIA ให้นำเทคโนโลยี GreenTech อย่าง VEKIN ไปออกบูธและนำเสนอแผนธุรกิจเป็นโอกาสดีที่จะเรียนรู้เทรนด์เทคโนโลยีใหม่จากผู้ที่มาร่วมงาน ผ่านการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งจะช่วยให้ได้พบพาร์ทเนอร์ที่จะร่วมต่อยอดโอกาสในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น
นายเปมกิตติ ปุกทะเล AI Development บริษัท อัลโต้เทค โกลบอล จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่อยากเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน ซึ่งความต้องการนี้ทำให้สตาร์ตอัปที่พัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมสามารถเข้าไปเติมเต็มได้ด้วยการสร้างพื้นที่ปลอดคาร์บอน หรือเครื่องมือช่วยทำ ESG เป็นต้น ดังนั้น การที่ NIA สนับสนุน AltoTech ที่พัฒนาเทคโนโลยีแก้ปัญหาด้านความยั่งยืนจากการผนวกรวม AI และ IoT ได้ไปแสดงศักยภาพที่งาน Web Summit Qatar 2025 ถือเป็นการเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปไทยได้เปิดประตูสู่เวทีโลก โดยเฉพาะในตลาดอย่างกาตาร์ที่เน้นความยั่งยืนและโครงสร้างอัจฉริยะ อีกทั้งยังช่วยให้ AltoTech เข้าใจความต้องการของตลาดต่างประเทศผ่านการพูดคุยกับคนภายในงาน เพื่อนำคำแนะนำมาปรับโซลูชั่นให้เข้ากับความหลากหลายและการขยายออกสู่ตลาดโลก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการไทย ซึ่งส่งผลให้ได้รับโอกาสจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น"
NIA ร่วมกับ ซีพี ซีดดิ้ง โซเชียลอิมแพคท์ ผลักดันผู้ประกอบการไทยสู่ธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน
NIA ผนึก TikTok ประกาศ 6 ผู้ชนะ InnovaTok Contest 2025 ดันครีเอเตอร์สายนวัตกรรม จุดกระแสคอนเทนต์วิทย์-เทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
เอ็นไอเอปั้น 80 ผู้นำนวัตกรรมเชิงนโยบายหนุนมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ
NIA เดินหน้าสร้าง "ชาติแห่งนวัตกรรม" เปิดรับสมัคร "รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2568"
จุฬาฯ จับมือ NIA ปั้น "ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย" สร้างเวทีบ่มเพาะนวัตกรรมและธุรกิจ Startup จากงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์
ครั้งแรกในไทย นวัตกรรมสเต็มเซลล์เพื่ออนาคตสุขภาพสัตว์เลี้ยง
เอ็นไอเอ ผนึกพันธมิตร เปิดพื้นที่ให้ "นวัตกรรุ่นใหม่" โชว์นวัตกรรมสร้างโลกยั่งยืนใน "STEAM4INNOVATOR's Day 9.9"
เอ็นไอเอเปิดฟอรั่มโอกาสเฮลท์เทคไทย พร้อมเผยผลการจัดอันดับนวัตกรรมโลก 2025
STA รับประกาศนียบัตร SDGs for Climate X Program ตอกย้ำความมุ่งมั่น ESG และนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมยั่งยืน