บมจ. ผลธัญญะ (PHOL) เดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่องในปี 2568 นี้ โดยวางกลยุทธ์ 3M เติบโตทั้งจากกลุ่มธุรกิจหลักสินค้า SAFETY ในภาคอุตสาหกรรมและเสริมทัพด้วยการขยายกลุ่มสินค้าทางการแพทย์และสุขภาพ เจาะกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป หน่วยงานภาครัฐ และช่องทางออนไลน์ ล่าสุดประกาศผลงาน Q1/68 บุ๊คกำไร 16.18 ลบ. โต 4.07% จากงวดเดียวกันของปีก่อน รายได้อยู่ที่ 246.31 ลบ.
นายธันยา หวังธำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมครบวงจร รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึงกลยุทธ์การเติบโตในปี 2568 นี้ เร่งการขยายตัวต่อยอดจากธุรกิจเดิมเป็นหลัก หรือ RAPID ORGANIC GROWTH โดยชูกลยุทธ์ 3M ได้แก่ More Penetrate เพิ่มการเข้าถึงลูกค้า ด้วยระบบ CRM, ทีมขายและ Tele Sale, ระบบติดตามการขาย และ Omni-Channel เพื่อกระจายสินค้าได้ครอบคลุมในหลายๆกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น More Products ขยายไลน์สินค้าทั้งในกลุ่มเทรนด์สุขภาพ ผู้สูงอายุ สินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อม และสินค้าคาร์บอนต่ำ และ More Efficiency ยกระดับการทำงานด้วยเทคโนโลยีเชื่อมโยงข้อมูลการขาย สต๊อก และบริการหลังการขาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ วางเป้าหมายการเติบโตทั้งจากลูกค้าภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ และตลาดคอนซูเมอร์
"ประเมินภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ยังมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งภาพรวมภาคการผลิตของลูกค้าอุตสาหกรรมคาดว่าจะไม่ต่ำไปกว่าช่วงที่ผ่านมาแล้ว โดยบริษัทได้มีการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆให้ตอบโจทย์ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการปรับปรุงช่องขาย Telesales และออนไลน์ในการขยายลูกค้ากลุ่ม SMEs และลูกค้ารายบุคคล นอกจากนี้ บริษัทยังมีการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มสินค้าทางการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งมีการทำตลาดสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์ ที่มีรายได้เติบโตขึ้นทั้งจากสินค้าที่เป็น Lifestyle Safety สินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพในกลุ่มผู้สูงอายุ และสินค้า Ergonomic โดยบริษัทตั้งเป้าเติบโตมากกว่า 100% ในตลาดกลุ่มนี้ ซึ่งมองว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ และมีอัตรากำไรที่ดี บริษัทยังมีช่องทางขยายอีกมาก รวมถึงการเพิ่มสินค้าทางการแพทย์เพื่อเพิ่มสัดส่วนการขายให้กับหน่วยงานภาครัฐและโรงพยาบาลต่างๆ" นายธันยากล่าว
ด้านผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 16.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไร 15.55 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.97% ขณะที่รายได้รวมจากการขายและบริการอยู่ที่ 246.31 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยราว 5.02% โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากกลุ่ม SAFETY 76.54%, กลุ่มควบคุมสภาพแวดล้อม (CE) 16.46%, กลุ่มระบบบำบัดน้ำ (WATER) 1.99% และกลุ่มสินค้าทางการแพทย์และสุขภาพ 5% ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่บริษัทเตรียมปั้นให้โตแบบก้าวกระโดดในปีนี้
"แม้ปีนี้จะเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าบางกลุ่ม แต่กลุ่มสินค้าหลักของบริษัทถือเป็นสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่าสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป เพราะเป็นสินค้าที่จำเป็นและอยู่ภายใต้ข้อกำหนดตามกฎหมายซึ่งยังคงบังคับใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมสูง นอกจากนี้ แนวโน้มการให้ความสำคัญด้าน ESG เน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นในการลงทุนด้านสุขภาพความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตในระยะยาว และเรายังคงเดินหน้าต่อยอดไปยังโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่สอดรับกับเทรนด์การเติบโตของอนาคต" นายธันยา กล่าว
WHA Group ย้ำรายได้ปีนี้ สร้าง All Time High ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 มั่นใจรายได้แตะ 20,000 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้
AMR ขานรับนวัตกรรม มุ่งสู่อุตสาหกรรม 5.0 ร่วมโชว์ศักยภาพ การเป็นผู้นำด้านวิศวกรรมระบบ และโซลูชันอัจฉริยะครบวงจร
Meranti Green Steel รวมพลังผู้นำอุตสาหกรรมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่เหล็กคาร์บอนต่ำของไทย
บพข.จับมือ เคมีแมน พัฒนา 'รถบรรทุกไร้คนขับ' ต้นแบบคันแรกของไทย
สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี
ต้นแบบแปลงใหญ่ 'ตะไคร้บ้านวงฆ้อง' จ.กำแพงเพชร รวมกลุ่มผลิตมาตรฐาน GAP สร้างรายได้ หนุนเศรษฐกิจชุมชน
วว. ผนึกกำลัง DPU ยกระดับงานวิจัยด้าน Health and Wellness เสริมแกร่งภาคอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน/พัฒนาประเทศสู่ศูนย์กลางด้านสุขภาพนานาชาติ
"โฮมโปร x เมกาโฮม" ทุ่ม 570 ล้าน ปักหมุดโมเดลไฮบริดสโตร์อนาคต "พุทธมณฑลสาย 4" ตอบเทรนด์ดีมานด์บ้าน-ช่าง-โรงงาน รุกโซนเศรษฐกิจฝั่งตะวันตก โตระยะยาว