SVI ประเมิน 'ทรัมป์' ขึ้นกำแพงภาษีคู่ค้ากระทบบริษัทฯ ไม่มาก หลังตั้งฐานผลิตแห่งใหม่ที่สหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว เชื่อไทยเนื้อหอม รับออเดอร์ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์เพิ่ม
บมจ.เอสวีไอ หรือ SVI ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการแบบครบวงจรในการประกอบผลิตภัณฑ์ประเภทวงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิคส์สำเร็จรูปให้แก่ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม ประเมินสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย 36% กระทบต่อธุรกิจเล็กน้อย หากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่โดนเก็บภาษีสูงกว่า โดยเฉพาะจีน หนุนออเดอร์ยังไหลเข้าไทยต่อเนื่อง แถมเปิดโรงงานที่สหรัฐไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อบริหารความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการค้าโลก
นายกริช ลี้ถาวร ผู้บริหารด้านการเงิน (Vice President Corporate Finance บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการแบบครบวงจรในการประกอบผลิตภัณฑ์ประเภทวงจรไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิคส์สำเร็จรูปให้แก่ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (Original Equipment Manufacturer: OEM) เปิดเผยว่า SVI ได้ประเมินสถานการณ์หลังสหรัฐออกประกาศนโยบายอัตราภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Trade and Tariffs) มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากเปรียบเทียบการขึ้นอัตราภาษีของประเทศไทยที่ 36% ถือว่าต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา 49% เวียดนาม 46% หรือจีน 54% อีกทั้งไทยยังมีความได้เปรียบในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตที่โดดเด่น จึงเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพการผลิตของ SVI จะทำให้มีออเดอร์จีนให้ความสนใจใช้ไทยเป็นฐานผลิตเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้บริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อรองรับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยได้ลงทุนจัดตั้งฐานการผลิตสินค้าประเภทวงจรไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป (EMS) ให้แก่ลูกค้าที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ที่รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ขนาดพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีกำลังการผลิตคิดเป็นมูลค่า 100-110 ล้านเหรียญสหรัฐ สามารถชดเชยความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการค้าโลกภายใต้รัฐบาลของ 'โดนัลด์ ทรัมป์' และฐานการผลิตดังกล่าวสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดสหรัฐที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดีได้อีกด้วย
"รายได้จากออเดอร์ที่ส่งไปยังสหรัฐคิดเป็น 17% ของรายได้รวมในปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 624 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เรามองว่าผลกระทบจากการขึ้นเพดานภาษีครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเราไม่มากนัก เนื่องจากได้บริหารจัดการความเสี่ยงลดผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังมีฐานการผลิตในสหรัฐและเริ่มผลิตสินค้าได้แล้ว จึงเชื่อมั่นว่าทั้งปีจะยังสามารถผลักดันการเติบโตของยอดขายทั้งปีได้ตามแผน" นายกริช กล่าว
อินแทค แปซิฟิค จับมือพันธมิตร BISON/AMETEK ผู้นำมอเตอร์ไฟฟ้าและโบลเวอร์ของโลก ตอบโจทย์ลูกค้าภาคอุตสาหกรรมในไทย
Meranti Green Steel รวมพลังผู้นำอุตสาหกรรมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่เหล็กคาร์บอนต่ำของไทย
บพข.จับมือ เคมีแมน พัฒนา 'รถบรรทุกไร้คนขับ' ต้นแบบคันแรกของไทย
สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี
ต้นแบบแปลงใหญ่ 'ตะไคร้บ้านวงฆ้อง' จ.กำแพงเพชร รวมกลุ่มผลิตมาตรฐาน GAP สร้างรายได้ หนุนเศรษฐกิจชุมชน
วว. ผนึกกำลัง DPU ยกระดับงานวิจัยด้าน Health and Wellness เสริมแกร่งภาคอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน/พัฒนาประเทศสู่ศูนย์กลางด้านสุขภาพนานาชาติ
"โฮมโปร x เมกาโฮม" ทุ่ม 570 ล้าน ปักหมุดโมเดลไฮบริดสโตร์อนาคต "พุทธมณฑลสาย 4" ตอบเทรนด์ดีมานด์บ้าน-ช่าง-โรงงาน รุกโซนเศรษฐกิจฝั่งตะวันตก โตระยะยาว
"ปลุกเศรษฐกิจไทยด้วยนวัตกรรม" INT มหิดล เดินหน้าผลักดันงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์จริง