ในยุคที่การดำเนินชีวิตของทุกคนต้องแข่งกับเวลา โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) ได้กลายมาเป็นเทรนด์ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว โดยโครงการมิกซ์ยูส คือ โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รวมโครงการที่อยู่อาศัยและโครงการเพื่อพาณิชกรรมไว้บนพื้นที่เดียวกัน เน้นการพัฒนาที่ดินให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านการออกแบบที่มุ่งสร้างสรรค์พื้นที่ให้ตอบโจทย์ทั้งด้านที่อยู่อาศัย, แหล่งช็อปปิ้ง/ย่านการค้า, สถานที่ทำงาน และพื้นที่พักผ่อนไว้ครบจบในที่เดียว โดยภายในโครงการจะประกอบไปด้วยคอนโดมิเนียม, โรงแรม, อาคารสำนักงาน, ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ เป็นต้น ส่วนใหญ่โครงการมิกซ์ยูสจะถูกพัฒนาในทำเลศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD) หรือย่านธุรกิจ หรือพื้นที่รอบนอกของเมืองที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจขนาดใหญ่ของทำเลนั้น ๆ จึงทำให้ทำเลที่มีโครงการมิกซ์ยูสนั้นมีศักยภาพในการเติบโต และดึงดูดผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย ชวนมาถอดรหัส 5 จุดเด่นของโครงการมิกซ์ยูสที่ตอบโจทย์คนหาบ้าน มีปัจจัยไหนบ้างที่ส่งเสริมให้โครงการมิกซ์ยูสกลายเป็นเทรนด์ที่อยู่อาศัยที่น่าจับตามองในเวลานี้
- ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน โครงการมิกซ์ยูสได้ผสมผสานอสังหาริมทรัพย์หลายรูปแบบไว้ด้วยกันเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ถือเป็นจุดเด่นอันดับต้น ๆ ที่ดึงดูดผู้บริโภค ภายในโครงการได้รวมทุกอย่างไว้ครบจบในที่เดียว รองรับทั้งการอยู่อาศัย, การทำงาน, การพักผ่อน, การช้อปปิ้ง และการใช้ชีวิตประจำวัน ถือเป็นจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์และตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย
- ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ โครงการมิกซ์ยูสส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ในทำเลศูนย์กลางธุรกิจหรือทำเลที่มีความเจริญในย่านนั้น ๆ เมื่อมีการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสก็จะช่วยส่งเสริมให้ทำเลนั้นกลายเป็นย่านการค้าและแหล่งงานที่น่าสนใจ มีการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะรองรับการเดินทางให้สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อโครงการมิกซ์ยูสได้รับความนิยมมากขึ้นก็จะมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในอนาคต ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและพื้นที่โดยรอบ
- ประหยัดเวลาในการเดินทาง ด้วยจุดเด่นของโครงการมิกซ์ยูสที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ จึงทำให้การใช้ชีวิตของผู้บริโภคง่ายขึ้น สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางออกนอกโครงการ นอกจากจะช่วยลดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับการเดินทางแล้ว ยังช่วยให้ผู้บริโภคมีเวลาในการจัดการเรื่องสำคัญอื่น ๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย
- มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย โครงการมิกซ์ยูสส่วนใหญ่จะมาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย มีการดูแลและจัดการความปลอดภัยที่เข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการนำเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ (Prop Tech) หรือเทคโนโลยี Smart Home มาใช้เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตให้ราบรื่นยิ่งขึ้น เช่น มีล็อบบี้และโซนลิฟต์สำหรับผู้พักอาศัยโดยเฉพาะ, มีระบบลิฟต์แบบล็อกชั้น, มีกล้องวงจรปิดครอบคลุมทั่วทั้งอาคาร, มีเครื่องตรวจจับอัจฉริยะที่คอยตรวจจับความเคลื่อนไหว เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอุ่นใจและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- มูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว ที่พักอาศัยในโครงการมิกซ์ยูสมักจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมักตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจ จึงดึงดูดให้มีความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยเข้ามาสม่ำเสมอ ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว นอกจากจะตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองได้เป็นอย่างดีแล้ว สำหรับนักลงทุนยังมีโอกาสปล่อยเช่าได้ง่าย และได้ราคาดีกว่าทำเลอื่น ๆ อีกด้วย
ด้วยจุดเด่นของโครงการมิกซ์ยูสที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร จึงสามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทั้งวัยทำงาน, ครอบครัว และนักศึกษา หรือชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย ขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสของนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เพราะมูลค่าโครงการมิกซ์ยูสมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีกลุ่มผู้เช่าที่หลากหลายและมีศักยภาพสูง ทำให้โอกาสในการปล่อยเช่าสูงตามไปด้วย อย่างไรก็ดี หากผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยที่เงียบสงบ เน้นความเป็นส่วนตัว และไม่พลุกพล่าน การเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการมิกซ์ยูสอาจไม่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์เท่าที่ควร จึงควรพิจารณาอย่างรอบด้านและเปรียบเทียบกับความสะดวกสบายที่ได้รับก่อนตัดสินใจซื้อ/เช่าอีกครั้ง
เจาะลึก 5 อันดับทำเลที่อยู่อาศัยใกล้โครงการมิกซ์ยูสที่น่าจับตามอง
ปัจจัยราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะในย่านธุรกิจ ส่งผลให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์วางแผนพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความคุ้มค่าในการพัฒนาที่ดินพร้อมทั้งเติมเต็มความต้องการในภาคธุรกิจและมุมผู้บริโภค ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เผยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.DDproperty.com ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2568 พบว่าทำเลใกล้โครงการมิกซ์ยูสในกรุงเทพฯ ยังคงมีความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยเติบโตอย่างน่าสนใจ โดยมีปัจจัยบวกจากการที่กรุงเทพฯ มีประชากรอยู่อาศัยอย่างหนาแน่นและเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ เมื่อมีการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสกระจายไปในทำเลต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ จึงส่งผลให้หลายทำเลมีความต้องการที่อยู่อาศัยเติบโตตามไปด้วย
- "แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา" คว้าแชมป์ทำเลใกล้โครงการมิกซ์ยูสที่ความต้องการซื้อ/เช่าโตสูงสุด ข้อมูลการเข้าชมประกาศอสังหาริมทรัพย์ บนเว็บไซต์ www.DDproperty.com พบว่า ทำเลใกล้โครงการมิกซ์ยูสในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยรวมกันเติบโตมากที่สุดในเดือนที่ผ่านมา ได้แก่ "แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา" เพิ่มขึ้น 13.3% จากเดือนก่อนหน้า (MoM) ด้วยจุดเด่นของเขตวัฒนาที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญและเป็นทำเลที่เชื่อมต่อไปยังย่านธุรกิจชั้นนำ ส่งผลให้ทำเลนี้มีความเจริญ เป็นแหล่งรวมร้านอาหารและสถานบันเทิง มีทั้งสำนักงานให้เช่า, สถานพยาบาล และสถานศึกษา รองรับการอยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี ทำให้ทำเลนี้กลายเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจของผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยที่มีความสะดวกครบครัน เดินทางไปยังใจกลางเมืองได้ง่าย โดยมีโครงการที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยากว่าย่าน CBD ให้เลือก จึงสามารถดึงดูดผู้บริโภคชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี
โดย 5 ทำเลใกล้โครงการมิกซ์ยูสในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยเติบโตมากที่สุดจากเดือนก่อนหน้า (MoM) มีดังนี้
- แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา เพิ่มขึ้น 3% MoM มีโครงการที่น่าสนใจ เช่น The Strand Thonglor และ Marche Thonglor นอกจากนี้ในเขตเดียวกันยังมี APAC Tower อีกด้วย
- แขวงคลองตัน เขตคลองเตย เพิ่มขึ้น 8% MoM ตัวอย่างโครงการในเขตนี้ เช่น THE PARQ และ FYI Center เป็นต้น
- แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา เพิ่มขึ้น 1% MoM ในเขตนี้มีโครงการมิกซ์ยูส เช่น The Strand Thonglor, Marche Thonglor และ APAC Tower เป็นต้น
- แขวงสีลม เขตบางรัก เพิ่มขึ้น 7% MoM ในทำเลนี้มีโครงการคิง เพาเวอร์ มหานคร, Park Silom และ Dusit Central Park เป็นต้น และยังมี Boonmitr Silom ตั้งอยู่ในเขตเดียวกัน
- แขวงจอมพล เขตจตุจักร เพิ่มขึ้น 2% MoM มีโครงการน่าสนใจ เช่น BTS Visionary Park
- "แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน" ยืนหนึ่งในใจผู้ซื้อที่อยู่อาศัยใกล้โครงการมิกซ์ยูส เมื่อพิจารณาทำเลใกล้โครงการมิกซ์ยูสในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเติบโตมากที่สุด ได้แก่ "แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน" เพิ่มขึ้นถึง 28.1% MoM ถือเป็นทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีศักยภาพทั้งทางธุรกิจและการอยู่อาศัย ด้วยจุดเด่นที่เดินทางได้สะดวกทั้งทางรถยนต์ เรือ และรถไฟฟ้าสายสีทอง เมื่อมีโครงการมิกซ์ยูส ศูนย์การค้า และโรงแรมเปิดให้บริการในเขตนี้จึงช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในย่านนี้มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาที่พักอาศัยวิวริมแม่น้ำหรือติดรถไฟฟ้า ถือเป็นทำเลน่าจับตามองและมีศักยภาพเติบโตเป็นศูนย์กลางธุรกิจได้ในอนาคต
โดย 5 ทำเลใกล้โครงการมิกซ์ยูสในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเติบโตมากที่สุดจากเดือนก่อนหน้า (MoM) มีดังนี้
- แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน เพิ่มขึ้น 1% MoM ในเขตนี้มีโครงการที่น่าสนใจ เช่น ICONSIAM และ ICS ตั้งอยู่
- แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร เพิ่มขึ้น 1% MoM มีโครงการน่าสนใจในเขตนี้ เช่น ศุภาลัย ไอคอน สาทร
- แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน เพิ่มขึ้น 5% MoM โครงการในทำเลนี้ เช่น Samyan Mitrtown และยังมี Sindhorn Village ตั้งอยู่ในเขตนี้
- แขวงจอมพล เขตจตุจักร เพิ่มขึ้น 8% MoM มีโครงการน่าสนใจ เช่น BTS Visionary Park
- แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา เพิ่มขึ้น 7% MoM ตัวอย่างโครงการ เช่น The Strand Thonglor และ Marche Thonglor เป็นต้น และในเขตนี้ยังมี APAC Tower อีกด้วย
- "แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา" ยังโดดเด่น ครองใจผู้เช่าใกล้โครงการมิกซ์ยูส ขณะที่ฝั่งตลาดเช่าก็มีการเติบโตที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยทำเลใกล้โครงการมิกซ์ยูสในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยเติบโตมากที่สุด ได้แก่ "แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา" เพิ่มขึ้น 15.2% MoM อีกหนึ่งย่านเศรษฐกิจที่น่าจับตามองและเชื่อมต่อไปยังทำเล CBD ได้ง่าย จึงรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ที่อยู่อาศัยในทำเลนี้จึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับวัยทำงานหรือวัยเรียนที่ต้องการเช่าที่อยู่อาศัยในทำเลไม่ไกลจากใจกลางเมือง เพื่อลดเวลาในการเดินทาง
โดย 5 ทำเลใกล้โครงการมิกซ์ยูสในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยเติบโตมากที่สุดจากเดือนก่อนหน้า (MoM) มีดังนี้
- แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา เพิ่มขึ้น 2% MoM มีโครงการในทำเลนี้ เช่น The Strand Thonglor และ Marche Thonglor นอกจากนี้ยังมี APAC Tower ตั้งอยู่ในเขตเดียวกัน
- แขวงคลองตัน เขตคลองเตย เพิ่มขึ้น 6% MoM เขตนี้มีโครงการที่น่าสนใจ เช่น THE PARQ และ FYI Center เป็นต้น
- แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา เพิ่มขึ้น 2% MoM ตัวอย่างโครงการในเขตนี้ เช่น The Strand Thonglor, Marche Thonglor และ APAC Tower เป็นต้น
- แขวงสีลม เขตบางรัก เพิ่มขึ้น 1% MoM ตัวอย่างเช่น คิง เพาเวอร์ มหานคร, Park Silom และ Dusit Central Park เป็นต้น และมี Boonmitr Silom ตั้งอยู่ในเขตเดียวกัน
- แขวงคลองเตย เขตคลองเตย เพิ่มขึ้น 0% MoM มีโครงการ เช่น THE PARQ และ FYI Center เป็นต้น
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า "แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา" ถือเป็นทำเลที่อยู่อาศัยใกล้โครงการมิกซ์ยูสที่น่าจับตามองในเวลานี้ โดยครองอันดับ 1 ทำเลที่มีความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยรวมกันเติบโตมากที่สุด และยังครองอันดับ 1 ทำเลที่มีความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยเติบโตมากที่สุดเช่นกัน นอกจากนี้ยังติด 1 ใน 5 ทำเลที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเติบโตมากที่สุดอีกด้วย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มเติบโตในย่านใกล้เคียงทำเล CBD ถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคและนักลงทุนที่มองหาที่อยู่อาศัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เดินทางได้สะดวก ใกล้โครงการมิกซ์ยูส ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มตามศักยภาพการเติบโตของทำเลที่พัฒนาต่อเนื่องในอนาคต
โปรใหญ่ส่งท้ายปีมาแล้ว! Krungthai NPA MEGA SALE 2568 กรุงไทย NPA ยกขบวนทรัพย์มือสองคุณภาพดี ร่วมงาน "มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48"
ฮาริสัน ร่วมกับกลุ่มนักลงทุนไทย ดึงพันธมิตร Aurevia Asia Pacific Fangdd Network Group Ltd. จากจีน ลงทุนซื้อเหมาและบริหารงานขาย
ส่องเทคนิคเลือกซื้อ "บ้านมือสอง" อย่างไรให้คุ้มค่า
กสิกรไทย ยก 3 คอนโดแสนสิริ ต้นแบบ 'กรีนโปรเจ็กต์' พร้อมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท
อนันดาฯ เปิดตัวแคมเปญ ลุยไตรมาส 4 #ดีลใหญ่ย้ายด่วน ช่วงเวลาดีที่สุดย้ายเข้าโครงการพร้อมอยู่ ดีลแรงจัดเต็ม!!! ลดสูงสุด 8 ลบ. รับเงินคืนสูงสุด 4 ลบ.
เซ็นทรัลพัฒนา เตรียมเผยโฉม "เซ็นทรัล กระบี่" ศูนย์การค้าต้นแบบความยั่งยืน มุ่งสู่ EDGE Zero Certification มิกซ์ยูสแห่งแรกของจังหวัด ยกระดับเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวไทย 24 ต.ค. นี้
"ปรีดา เรียล เอสเตท" ส่งท้ายความสำเร็จ เปิดขายเฟสสุดท้าย "GRENE PRIME เดอะ ซานโตรินี" การันตีผลตอบแทนผู้ลงทุน 6% ปีแรก ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
"ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้" (TITLE) ฉลองจบงานก่อสร้างชั้นดาดฟ้า และโครงสร้างสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า คอนโด "เดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง" มั่นใจเตรียมส่งมอบในไตรมาส1/2569