นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่ายทั้งภาคการเมือง ภาคราชการ และภาคประชาชน ที่ผลักดันให้มีการแก้ไขพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ของประเทศไทย โดยการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. …. ขึ้นมาใหม่ ด้วยเหตุผลสำคัญ คือ ในพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของพี่น้องชาวประมง ดังนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันร่างพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ขึ้นมา โดยบทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้มุ่งหมายเพื่อการจัดระเบียบการประมงในประเทศไทยและในน่านน้ำทั่วไป เพื่อป้องกันมิให้มีการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้อยู่ในภาวะที่เป็นแหล่งอาหารของมนุษยชาติอย่างยั่งยืน และรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมให้ดำรงอยู่ในสภาพที่เหมาะสมตามแนวทาง กฎเกณฑ์ และมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในนานาประเทศ รวมทั้ง คุ้มครองสวัสดิภาพของคนประจำเรือ และป้องกันการใช้แรงงานผิดกฎหมายในภาคการประมง ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสนับสนุนชุมชนประมงท้องถิ่น
ทั้งนี้ จากการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. …. ซึ่งใช้ระยะเวลารวมแล้วกว่า 4 ปี (เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2564) ขณะนี้ คณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าวแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 และที่ประชุมวุฒิสภา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 และ วันที่ 17 กันยายน 2568 ตามลำดับ โดยปัจจุบันนี้ อยู่ในกระบวนการของเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการเสนอตามขั้นตอนการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป และจะมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายได้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติ ขณะนี้ กรมประมงได้เตรียมการออกกฎหมายลำดับรอง เพื่อรองรับ พ.ร.บ.ประมงฉบับใหม่นี้ โดยเร่งด่วนที่สุดแล้ว
อธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมถึงสาระสำคัญของร่างพระบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. …. ว่าการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ.ประมงฉบับใหม่นี้ มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายถึง 71 มาตรา กรมประมงเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวประมง ผู้ประกอบอาชีพการประมงโดยสุจริตให้ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงบทกำหนดโทษให้สอดคล้องกับความร้ายแรงของการกระทำความผิด การให้เรือประมงพื้นบ้านมีพื้นที่ทำการประมงมากขึ้น การปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดให้มีสัดส่วนที่เหมาะสม การกำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทำการประมงพื้นบ้านต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น การยกเลิกมาตรา 34 ที่ห้ามเรือประมงพื้นบ้านออกทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง การยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับการควบคุมแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำที่ซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่นที่มีสภาพบังคับอยู่แล้ว การปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตนำเข้า ส่งออก นำผ่านสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ โดยคิดค่าธรรมเนียมในการนำเข้าเพิ่มขึ้นตามปริมาณที่นำเข้า เป็นต้น อีกทั้ง ร่าง พ.ร.บ. ฉบับใหม่นี้ จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการประมงตลอดสายการผลิต ของประเทศฟื้นตัวอย่างเหมาะสม ภายใต้พันธกรณีระหว่างประเทศและเป็นไปตามมาตรฐานสากล ควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้ยั่งยืนเพื่อเป็นแหล่งอาหารของโลกและการเกิดความคุ้มค่าจากการใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วย และประชาชน คือ ผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด สอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่จะฟื้นชีวิตอุตสาหกรรมประมงให้กลับมาเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประชาชน
กรมประมง ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมยานพาหนะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 4 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมสั่งการเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมงทุกพื้นที่เสี่ยงพายุ "วิภา"
กรมประมงโชว์ไอเดียแปรรูป "สาหร่ายผักกาดทะเล" พลิกโฉมสู่แพ็กเกจจิงรักษ์โลกและสารสกัดเพิ่มคุณค่าทางอาหาร ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่
กรมประมง เตือนเกษตรกรเฝ้าระวังโรคสัตว์น้ำที่มาพร้อมกับหน้าฝน พร้อมแนะแนวทางการเลี้ยงและการป้องกัน เพื่อช่วยลดความสูญเสีย
กรมประมง…หนุนเกษตรกรเปลี่ยน "บ่อกุ้งร้าง" เพื่อสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยง "ปูทะเล"
อธิบดีกรมประมงมอบรางวัลงานประกวดปลาคาร์ป เนื่องในงาน "วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35"
กรมประมง…คว้ารางวัล GDCC GOV Cloud 2568 พัฒนาระบบ"การออกใบอนุญาตประมงพื้นบ้าน" ยกระดับบริการเศรษฐกิจสู่ยุคดิจิทัล
กรมประมง…หนุน "เกษตรกรสร้างรายได้เสริมจากการแปรรูปสัตว์น้ำ" ยกระดับการประกอบอาชีพให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืน
กรมประมง ผนึกกำลังสมาคม TABA ลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หนุนการใช้ปัจจัยการผลิตทางการประมงที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ถูกกฎหมาย ปลอดภัยต่อสัตว์น้ำและผู้บริโภค