กรมประมงโชว์ไอเดียแปรรูป "สาหร่ายผักกาดทะเล" พลิกโฉมสู่แพ็กเกจจิงรักษ์โลกและสารสกัดเพิ่มคุณค่าทางอาหาร ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรมประมงพลิกโฉม "สาหร่ายผักกาดทะเล" สู่บรรจุภัณฑ์ชีวภาพและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เดินหน้ายกระดับงานวิจัยพร้อมต่อยอดและขยายผลในวงกว้าง มุ่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของเกษตรกรและผู้ประกอบการ โดยคำนึงถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน ภายใต้แนวทาง "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้" ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมประมงโชว์ไอเดียแปรรูป "สาหร่ายผักกาดทะเล" พลิกโฉมสู่แพ็กเกจจิงรักษ์โลกและสารสกัดเพิ่มคุณค่าทางอาหาร ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงได้มีการศึกษาวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเลมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของความเค็มได้ดี เจริญเติบโตเร็ว สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในระยะเวลาอันสั้นและตลอดทั้งปี ประกอบกับมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีราคาจำหน่ายสูง จึงมีความเหมาะสมที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรมีการเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์และแปรรูปอย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและตอบโจทย์ผู้บริโภคสายรักสุขภาพที่มีแนวโน้มความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยกรมประมงได้สนับสนุนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ทั้งการเพาะเลี้ยง การเก็บรักษา การแปรรูปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงการขยายช่องทางการตลาด สามารถขยายผลไปยังกลุ่มเกษตรกรจนประสบความสำเร็จในหลายพื้นที่ ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา มีปริมาณผลผลิตสาหร่ายทะเลสูงถึง 1,031.31 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 43,335,000 บาท

ด้าน นางสาวพิชญา ชัยนาค ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ กล่าวเสริมในรายละเอียดว่า "สาหร่ายผักกาดทะเล" จัดว่าเป็นวัตถุดิบที่มีศักยภาพสูงสำหรับแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และนำมาสกัดสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพเพื่อใช้ประโยชน์ด้านอาหารฟังก์ชัน หรือ Functional Foods ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารและส่งเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภครักสุขภาพ กรมประมง โดยกองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ จึงได้ทำการศึกษา ค้นคว้า วิจัย นำสาหร่ายผักกาดทะเลมาเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารหลากหลายเมนู ได้แก่ บะหมี่สาหร่ายผักกาดทะเล ที่มีโปรตีนและใยอาหารสูงขึ้น กัมมี่เยลลี่สาหร่ายผักกาดทะเล เพิ่มคุณประโยชน์ให้กับขนมขบเคี้ยว โดยการเติมสาหร่ายผักกาดทะเลพร้อมเสริมคุณค่าทางอาหารด้วยอินนูลิน วิตามินซี และคอลลาเจน เยลลี่พร้อมดื่ม (Jelly Drink) ผสมสาหร่ายผักกาดทะเล รสมะนาว ผลิตภัณฑ์ที่เสริมใยอาหารและโปรตีนจากสาหร่ายผักกาดทะเล และวิตามินซีถึงร้อยละ 180 และ เจลลีสติป (Jelly Strip) ผสมสาหร่ายผักกาดทะเล รสองุ่น เพิ่มคุณค่าทางอาหารจากสาหร่ายผักกาดทะเล คอลลาเจนไตรเปปไทด์ และวิตามินซี

สำหรับสาหร่ายส่วนที่เหลือจากการคัดแยก เนื่องจากเกินอายุการเลี้ยงหรือมีความไม่สมบูรณ์จะถูกนำไปสกัดสารอาหารเพื่อเพิ่มคุณค่าและลดการเกิดขยะ (Zero waste) โดยใช้เอนไซม์โบรมิเลนสกัดโปรตีนไฮโดรไลเซทจากสาหร่ายผักกาดทะเล ทำให้โปรตีนมีขนาดเล็กลง ร่างกายสามารถดูดซึมและใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น เพื่อผสมลงในเมนูต่าง ๆ ได้แก่ เมอแรงค์สูตรลดน้ำตาลผสมโปรตีนไฮโดรไลเซทจากสาหร่ายผักกาดทะเล ซึ่งช่วยให้เนื้อสัมผัสแน่นคงตัวและมีกลิ่นรสเฉพาะของสาหร่ายผักกาดทะเล ซอสทสึยุผสมโปรตีนไฮโดรไลเซทจากสาหร่ายผักกาดทะเล โดยใช้แทนดาชิที่เป็นส่วนผสมหลัก ปราศจากสารปรุงแต่งอื่น ๆ และใยอาหารจากสาหร่ายผักกาดทะเล นำมาผลิตเป็น Jelly Strip เสริมสารสกัดใยอาหารจากสาหร่ายผักกาดทะเล ที่มีใยอาหารสูงถึง 8 กรัม ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค คิดเป็นร้อยละ 32 ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน (Thai Recommended Daily Intakes หรือ Thai RDI) ซึ่งช่วยให้ระบบขับถ่ายมีการทำงานดีขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปผลิตเป็น บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ทดแทนการใช้พลาสติกสังเคราะห์และโฟมในอุตสาหกรรมอาหาร โดยสกัดและฟอกสีสาหร่ายผักกาดทะเลผสมกับเยื่อทางใบปาล์มแล้วนำไปขึ้นรูปด้วยเครื่องกดอัด (Compression Molding) จนได้บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารที่มีความแข็งแรง ทนต่อการดูดซึมน้ำ และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับใช้เป็นบรรจุภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้ง พร้อมผลักดันให้เป็นวัสดุทางเลือกใหม่สำหรับผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร ที่ใช้เวลาในการเพาะปลูกหมุนเวียนสั้น ย่อยสลายได้ง่าย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

โดยในอนาคตทางกองฯ มีแผนที่จะต่อยอดและขยายผลงานวิจัยดังกล่าวไปยังกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและจันทบุรี เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายผักกาดทะเลและ
ส่วนที่เหลือจากการคัดแยก สำหรับเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรต่อไป ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจ
นำงานวิจัยไปต่อยอดสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ
กรมประมง เบอร์โทรศัพท์ 0 2940 6130 ต่อ 45


ข่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์+เกษตรและสหกรณ์วันนี้

โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลการติดตามโครงการจัดรูปที่ดินและจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรม งานปรับปรุงพื้นที่จัดรูปที่ดินโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่ามะกา (ระยะที่ 5) ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำจากคลองส่งน้ำชลประทานให้สามารถแพร่กระจายน้ำในไร่นาได้ทั่วถึงทุกแปลงเพาะปลูก ทำให้เกษตรกรได้รับน้ำตามปริมาณและช่วงเวลาที่ต้องการอย่างเป็นระบบ และลดความขัดแย้งเรื่องการใช้น้ำ โดยมีสำนักงานจัดรูปที่ดินและจัดระบบน้ำเพื่อ

มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น ใช้... มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น — มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น ใช้เครื่องหมาย Q ผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน พร้อมต่อยอด...

แนะเกษตรกรผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียนเกษตรกรรอ... "รมช.อัครา" ลุยพะเยาต่อเนื่อง! มอบนโยบายจัดทำการเกษตรแบบเป็นระบบ — แนะเกษตรกรผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียนเกษตรกรรอมาตรการช่วยเหลือไร่ละ 1,400 บาท พร้อมเตรียมสร้...

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกร... กระทรวงเกษตรฯ ตั้ง "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา" — นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ค...