วว. / วช. ขับเคลื่อนโครงการนวัตกรรมผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เพื่อแก้ปัญหา PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

สถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อม "ฝุ่น PM2.5" ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญรวมทั้งประเทศไทย ได้นำไปสู่การดำเนินงานของทุกภาคส่วนเพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบต่อสุขอนามัย การดำเนินชีวิต ตลอดจนการประกอบอาชีพให้ปลอดภัย

วว. / วช. ขับเคลื่อนโครงการนวัตกรรมผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เพื่อแก้ปัญหา PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างยั่งยืน

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ (ศนว.) และศูนย์เชี่ยวชาญหุ่นยนต์และเครื่องจักรกลอัตโนมัติ (ศนย.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัย โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้พัฒนา"โครงการนวัตกรรมผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงเพื่อแก้ปัญหา PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างยั่งยืน" โดยเป็นโครงการวิจัยที่มุ่งเน้นการลดการเผาในพื้นที่การเกษตร โดยนำนวัตกรรมพร้อมใช้มาช่วยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกษตรกรและมุ่งเป้าแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยา เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรและสร้างอาชีพผ่านผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โครงการวิจัยนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบแอปพลิเคชันรวบรวมวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรภายในจังหวัดทางภาคเหนือให้สามารถเชื่อมต่อระหว่างเกษตรกรที่ต้องการกำจัดผนวกกับภาคเอกชนที่มีความต้องการใช้งาน และพัฒนานวัตกรรมจากของเหลือทิ้งทางการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งเป็นการลดการเผาพื้นที่ทางการเกษตรกลางแจ้ง แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งซึ่งเกิดจากไฟป่าและการเผาวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรในพื้นที่ทางการเกษตรหรือพื้นที่ป่า โดยปัญหา PM2.5 ที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชน และเศรษฐกิจ แม้จะมีกฎหมายและมาตรการห้ามเผา แต่การบังคับใช้ยังไม่ทั่วถึงและขาดกลไกการจัดการวัสดุเหลือทิ้งอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

การดำเนินงานของ วว. ภายใต้โครงการใช้แนวทางแบบบูรณาการ ผ่านความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย และชุมชนในพื้นที่ ๆ โดย วว. ถ่ายทอดนวัตกรรมพร้อมใช้ เพื่อให้เกิดการสร้างแรงจูงใจให้เกิดรายได้และการใช้งานเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้เป็นไปอย่างยั่งยืนและลดการเกิดผลกระทบในวงกว้าง มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สามารถใช้งานได้จริง ซึ่งจะช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศในภาคเหนือได้อย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งเสริมสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาวอย่างยั่งยืน

มีแนวทางหลักในการดำเนินงาน เริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบการรวบรวมของเหลือทิ้ง เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานของเกษตรกร โดยใช้แอปพลิเคชันเชื่อมต่อกับความต้องการภาคเอกชน การพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต่าง ๆ ที่มุ่งส่งเสริมอาชีพเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรลดการเผาในพื้นที่ทางการเกษตร และปรับพฤติกรรมให้เกิดการรวบรวมวัตถุดิบจากของเหลือทิ้งภาคการเกษตร มาใช้เป็นวัตถุดิบเริ่มต้นในการผลิตผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต่าง ๆ นำไปสู่การสร้างรายได้ ลดการเผาในพื้นที่ทางการเกษตร เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพ สร้างรายได้และประโยชน์ในพื้นที่ต้นแบบ อาทิเช่น

การผลิตกระถางจากของเหลือทิ้งทางการเกษตร ได้แก่ ใยมะพร้าว แกลบ เปลือกข้าวโพด ฟางข้าว หญ้าเนเปีย เยื่อกล้วย ชานอ้อย ผักตบชวา และไผ่ เป็นต้น โดยนำมาวิจัยและพัฒนาขึ้นรูปเป็นกระถางเพาะชำที่สามารถย่อยสลายได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผลิตภัณฑ์มีความแข็งแรงและทนทาน มีความยืดหยุ่นที่ดี เพื่อให้รากสามารถชอนไชออกจากก้นกระถางและด้านข้างของกระถางได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีความสามารถในการอุ้มน้ำ และระบายความร้อนได้ดี ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช

ภาชนะรักษ์โลก ผลิตจากเยื่อธรรมชาติที่ได้จากสิ่งเหลือทิ้งทางการเกษตรจากกล้วย สำหรับใช้เป็นภาชนะทดแทนภาชนะประเภทโฟม

ถ่านไบโอชาร์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ผลิตจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร มีประสิทธิภาพเผาไหม้ต่อเนื่องและสมบูรณ์ ให้ความร้อนสูงและเกิดการสูญเสียต่ำ

บล็อกประสานจากไบโอชาร์ วัสดุก่อสร้างที่ผลิตจากไบโอซาร์ (ถ่านชีวภาพ) เป็นวัสดุก่อสร้างที่มีความแข็งแรง ช่วยในการลดโลกร้อน เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความพรุนตัวสูง ซึ่งสามารถกักเก็บคาร์บอนในเนื้อวัสดุ และยังช่วยเพิ่มมูลค่าของเหลือทิ้งทางการเกษตร

นอกจากนี้ในการดำเนินโครงการยังพัฒนานวัตกรรมเพื่อลดความเสี่ยงของผู้ป่วยจากฝุ่นและมิติการลดปริมาณไอเสียจากการคมนาคมและอุตสาหกรรม ได้แก่

นวัตกรรมวัสดุกรองอากาศ ซึ่งสามารถลดฝุ่นได้จากการนำไปใช้งานในด้านต่างๆ เช่น อุตสาหกรรม หรือ การคมนาคม ประสิทธิภาพลด PM2.5 และ PM10 ได้ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 85-98 และสามารถใช้กับการลาดถนนยางมะตอยที่สามารถกำจัดได้ทั้งฝุ่น PM2.5 แล้ว ยังสามารถลดก๊าซ CO, CO2, Sox และ PAH ได้

รวมถึงการพัฒนาวัสดุนวัตกรรมในมิติการลดการเผาและจัดการไฟป่าในพื้นที่ป่า ได้แก่

การพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเจลหน่วงการติดไฟ ซึ่งเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อม พัฒนาจากจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร มีประสิทธิภาพชะลอการลุกลามของไฟ โดยใช้เป็นอุปกรณ์ดับไฟระยะสั้นสำหรับภาคพื้นดิน เพื่อสร้างแนวป้องกันไฟโดยการคายน้ำออกมาเมื่อสัมผัสความร้อน ช่วยลดอุณหภูมิและยับยั้งการลุกลามของไฟป่า หรือใช้ในการป้องกันโครงสร้างอาคารและอุปกรณ์ปฏิบัติงาน

ความสำเร็จจากการดำเนิน "โครงการนวัตกรรมผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงเพื่อแก้ปัญหา PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างยั่งยืน"ดังกล่าว จะเป็นโมเดลเพื่อนำไปขยายผลในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่นให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค พร้อมสร้างความตระหนักถึงปัญหา/ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและรับบริการจาก ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ วว. ติดต่อได้ที่ call center โทร. 0 2577 9048 หรือที่ระบบบริการลูกค้า "วว. JUMP


ข่าวสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย+วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีวันนี้

วว. โชว์ศักยภาพงานบริการ วทน. @ Thailand LAB INTERNATIONAL 2025

นางศิรินันท์ ทับทิมเทศ นักบริหารพิเศษ ในฐานะผู้แทน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวง อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมคณะนักวิจัยและบุคลากร วว. ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน Thailand LAB INTERNATIONAL 2025 โดยในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 15 พร้อมการจัดร่วมกับงาน BioAP INTERNATIONAL, FutureCHEM INTERNATIONAL และ Health & Innovation Asia ภายใต้แนวคิด "Sustainable Health & Well-Being Week" โดยเป็นเวทีระดับภูมิภาคที่เชื่อมโยงผู้นำในอุตสาหกรรม ผู้มีบทบาทสำคัญ

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและน... วว. จับมือ ปตท. พัฒนาศักยภาพการบริหารองค์กร ส่งเสริมระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน — กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ผศ.ดร.วีรชัย อาจหา...

ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัย... วว. ร่วมเป็นเกียรติในการเปิดเวทีนักประดิษฐ์ 248 ผลงาน จัดโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ — ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห...

สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม "Thail... DIPROM จับมือ วว. / THACCA / OFOS ร่วมเปิดงานส่งเสริมการตลาด พัฒนาระบบมาตรฐานสากล — สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม "Thailand Soft Power DNA Food & Be...