จุฬาฯ ร่วมกับสมาคมนาฏกรรม ประเทศไทย จัด "Thailand Dramatic Festival 2025" เวทีนาฏศิลป์และลีลาศนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน พร้อมก้าวสู่เวทีโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสมาคมนาฏกรรม ประเทศไทย จัดงาน "Thailand Dramatic Festival 2025" การแข่งขันนาฏศิลป์และลีลาศนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประกอบด้วยนาฏศิลป์สร้างสรรค์ 2 รุ่น และลีลาศนานาชาติ 64 รุ่น เปิดให้เยาวชนและคนทุกวัย รวมทั้งผู้สูงอายุเข้าร่วมการแข่งขัน พร้อมกิจกรรม Workshop โดยครูผู้สอนลีลาศระดับโลก

การแข่งขันนาฏศิลป์และลีลาศนานาชาติ "Thailand Dramatic Festival" จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมาคมนาฏกรรม ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 13-14 กันยายน 2568 ณ ห้องประชุมดวงเดือน พิศาลบุตร คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ พระราม 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะศิลปะการเต้นลีลาศที่กำลังได้รับความนิยมทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ โดยเปิดโอกาสให้เยาวชน คนทุกวัย รวมถึงผู้สูงอายุ ได้ร่วมเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการเต้นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิต ตลอดจนร่วมชมนาฏศิลป์สร้างสรรค์ที่ผสมผสานความงดงามของนาฏศิลป์ไทยดั้งเดิมเข้ากับนาฏศิลป์ร่วมสมัย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศไทยสู่เวทีโลก สำหรับผู้ชนะเลิศการแข่งขันลีลาศจะได้รับเกียรติเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันลีลาศระดับโลก "Dutch Open" ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-9 พฤศจิกายน 2568 ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์
รศ.ดร.สุกัญญา สมไพบูลย์ รองอธิการบดี จุฬาฯ กล่าวว่า "นาฏศิลป์และลีลาศ" เป็นศิลปะที่ช่วยเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ สร้างบุคลิกภาพและการทรงตัว และสร้างสุนทรียภาพทางจิตใจ การเต้นสามารถเริ่มได้ในทุกช่วงวัยโดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ถือเป็นกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับบุคคลทุกเพศทุกวัย จุฬาฯ ไม่เพียงมุ่งมั่นสร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ แต่ยังมุ่งขับเคลื่อนศิลปวัฒนธรรมและกิจกรรมสร้างสรรค์สู่ระดับนานาชาติ เพื่อเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้คนทุกวัยได้พัฒนาศักยภาพอย่างรอบด้าน การจัดแข่งขันนาฏศิลป์และลีลาศนานาชาติ "Thailand Dramatic Festival 2025" ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ถือเป็นเกียรติอันสูงสุดสำหรับทุกคน

คุณกฤติยา หาญแกล้วกล้า นายกสมาคมนาฏกรรม ประเทศไทย กล่าวว่า นาฏศิลป์และลีลาศยังเป็นหนึ่งในศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์และความงดงามทางวัฒนธรรม เชื่อมโยงผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม สะท้อนพลังสร้างสรรค์ที่สร้างความสุขและแรงบันดาลใจ ซึ่งการแข่งขันนาฏศิลป์และลีลาศนานาชาติ "Thailand Dramatic Festival" เป็นการจัดอย่างต่อเนื่องในปีที่ 5 ถือเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการส่งเสริม Soft Power สืบสานและเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลกในรูปแบบที่ร่วมสมัย เป็นกิจกรรมที่สมาคมนาฏกรรม ประเทศไทย และจุฬาฯ มุ่งพัฒนาและส่งเสริมให้เยาวชนและผู้สูงอายุได้มีโอกาสแสดงความสามารถเพื่อสร้างพลังทางวัฒนธรรมให้แก่ประเทศไทยและสามารถขยายผลสู่การแข่งขันในระดับโลก เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

Mr. Sammy Stopford MBE ผู้แทนจาก World Dance Council (WDC) กล่าวว่า การจัดงาน "Thailand Dramatic Festival 2025" ในประเทศไทย เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมที่ช่วยส่งเสริมศิลปะการเต้นให้กับผู้เข้าร่วมทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็ก วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งการเต้นลีลาศถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากกว่าความบันเทิง เพราะช่วยปลูกฝังวินัยให้กับเด็ก เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด็ก ๆ ได้เข้าใจว่าการฝึกฝนสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างต่อเนื่องจะนำไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งส่งผลดีต่อการเรียนรู้ด้านวิชาการอื่น ๆ ในขณะเดียวกันสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ การเต้นลีลาศยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย การทรงตัว และการประสานงานของร่างกาย จึงลดความเสี่ยงจากการหกล้มและปัญหาสุขภาพที่ตามมาได้ ดังนั้นการเต้นลีลาศจึงสามารถพัฒนาชีวิตได้อย่าง รอบด้าน ทั้งสุขภาพ การเรียนรู้ และการใช้ชีวิตประจำวัน ขอแสดงความยินดีที่ประเทศไทยได้ริเริ่มการจัดเวทีการแข่งขันในครั้งนี้ ถือเป็นการโอกาสที่จะขยายวงการเต้นลีลาศออกสู่สังคมในวงกว้าง ซึ่ง WDC ยินดีให้การสนับสนุนกิจกรรมลีลาศในประเทศไทย และมีแนวทางเข้ามาร่วมจัดการแข่งขันในระดับนานานาชาติที่ประเทศไทยในอนาคตต่อไป
Barbara Mc Coll Stopford MEB กล่าวว่า การจัดงาน "Thailand Dramatic Festival" ในประเทศไทยมีความยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงพลังและความสำคัญของการเต้นลีลาศต่อสังคมทั้งในประเทศไทยและระดับนานาชาติ การเต้นเป็นกิจกรรมที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทั้งเพื่อความสนุกสนานและเพื่อการแข่งขัน สำหรับ WDC ถือเป็นองค์กรที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันวงการเต้นระดับโลก ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะครบ 100 ปี ในปี 2026 นี้ มีประเทศที่เป็นภาคีเครือข่ายจำนวน 60 - 70 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความเพียรพยายาม และการเติบโตของชุมชนนักเต้นทั่วโลก ซึ่ง WDC พร้อมจะสนับสนุนการเต้นในประเทศไทย จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมแรงสนับสนุนเพื่อพัฒนางานแข่งขันเต้นลีลาศในประเทศไทยให้ก้าวสู่เวทีนานาชาติในอนาคต

ผศ.ดร.อุไรวรรณ ขมวัฒนา อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ เลขาธิการสมาคมนาฏกรรม ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า งาน Thailand Dramatic Festival 2025 เปิดโอกาสให้เยาวชนอายุ 6-25 ปี ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และประชาชนทั่วไปที่สนใจในศิลปะการเต้นทั้งไทยและสากล รวมถึงนักเรียน นิสิต นักศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมและเรียนรู้ศิลปะแห่งการเคลื่อนไหวที่เป็นมากกว่าการแสดง แต่เป็นพลังขับเคลื่อนสังคม โดยจะมีการแข่งขันในรูปแบบนาฏศิลป์สร้างสรรค์ 2 รุ่น และการแข่งขันลีลาศนานาชาติ 64 รุ่น มีคณะกรรมการตัดสินเป็นผู้ทรงคุณวุฒิระดับนานาชาติ นำโดย Barbara Mc Coll Stopford MEB และ Sammy Stopford MBE ผู้แทนจาก WFC ผู้ชนะเลิศจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันระดับโลก รายการ Dutch Open ระหว่างวันที่ 3 - 9 พฤศจิกายน 2568 ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งมีการจัด Workshop โดยครูผู้สอนการเต้นที่มีชื่อเสียงของโลก ซึ่งจะถ่ายทอดความรู้และเทคนิคการเต้นสู่เยาวชนและผู้สนใจ พร้อมทั้งมีกิจกรรมการแสดงโชว์ลีลาศโดยนักลีลาศระดับโลก

"ปัจจุบันลีลาศอาจจะได้รับความนิยมลดน้อยลง เนื่องจากมีการเต้นรูปแบบอื่น ๆ ที่ได้รับความสนใจจากเด็กและเยาวชนมากกว่า แต่แท้จริงแล้ว ลีลาศถือเป็นการเต้นที่เป็นพื้นฐานด้านการถ่ายน้ำหนัก ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการเต้นทุกประเภท นอกเหนือจากความสนุกสนานแล้ว ลีลาศยังช่วยพัฒนาบุคลิกภาพ เสริมสร้างสุขภาพจิตและทักษะการเข้าสังคมให้กับผู้เต้น รวมทั้งยังเหมาะสมกับคนทุกวัย การจัดการแข่งขันนาฏศิลป์และลีลาศนานาชาติในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการเต้นลีลาศและนาฏศิลป์สร้างสรรค์ให้บุคคลทุกกลุ่มหันกลับมาสนใจศิลปะการเต้นดังกล่าวมากขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนลีลาศของประเทศไทยไปสู่เวทีในระดับโลก" ผศ.ดร.อุไรวรรณ กล่าว


ข่าวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย+ชิงถ้วยพระราชทานวันนี้

จุฬาฯ จับมือ NIA ปั้น "ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย" สร้างเวทีบ่มเพาะนวัตกรรมและธุรกิจ Startup จากงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เดินหน้าขับเคลื่อน "โครงการผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย (Chula-NIA Grant)" เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของอาจารย์และนิสิตในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมให้สามารถต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ เชิงนโยบาย และเชิงสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อขยายผลองค์ความรู้และผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยไปสู่การประยุกต์ใช้ในระดับ นโยบายสาธารณะ

ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ... ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ชวนเปิดโลกเทรนด์และเทคโนโลยีสู่อนาคตที่ยั่งยืน — ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ WE TECH CONSULTING ขอเชิญ องค์กร บริษัท หน่วย...

ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเชิญร... ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดเสวนา "รัฐศาสตร์ ในโลกแห่งอำนาจและการเมือง" — ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเชิญร่วมงาน BOOK TALK "รัฐศาสตร์ ในโลกแห่งอำนาจและก...

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสร้างความภาคภูมิใจให... จุฬาฯ หนึ่งเดียวของไทย ASEAN Top 10 การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย THE World University Rankings 2026 — จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสร้างความภาคภูมิใจให้มหาวิทยาลัยไ...

จุฬาฯ จับมือ NT พัฒนาความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมสร้างบุคลากรรุ่นใหม่และสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมมือกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล...