IDG เร่งเครื่องโต รับดีมานด์ AI Transformation - Data Center แย้มอยู่ระหว่างพูดคุยลูกค้า หนุนแผนโตก้าวกระโดด

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บมจ.อินดิจี (IDG) เร่งเครื่องสู่จังหวะเติบโตครั้งใหม่ จับโอกาสจากเมกะเทรนด์ Cloud, AI, IoT, Cybersecurity และ Sustainability รวมถึงการขยายตัวของ Data Center ขนาดใหญ่ในประเทศไทย หนุน IDG ได้อานิสงส์ นำซอฟต์แวร์และโซลูชันอัจฉริยะ รองรับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเทคโนโลยีระดับโลกเพิ่มเติม เพื่อขยายการให้บริการใหม่ๆ จากปัจจุบันแข็งแกร่งในฐานะ Microsoft Gold Partner ตั้งเป้าภายใน 3 ปี IDG คาดรายได้เติบโตมากกว่า 2 เท่า และปีนี้คาดรายได้ขยายตัวต่อเนื่อง 10-20% จากปีก่อน

IDG เร่งเครื่องโต รับดีมานด์ AI Transformation - Data Center แย้มอยู่ระหว่างพูดคุยลูกค้า หนุนแผนโตก้าวกระโดด

นายวิธาน ฉั่วเจริญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินดิจี จำกัด (มหาชน) หรือ IDG ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบดิจิทัลแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของ IDG ในปีนี้และต่อเนื่องในปีหน้า มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการของลูกค้าองค์กรในการลงทุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกระแส AI Transformation ที่กำลังเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ของภาคธุรกิจ องค์กรจำนวนมากเริ่มปรับตัวและต้องการนำนวัตกรรม AI เข้ามาใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นจังหวะสำคัญที่ IDG เตรียมพร้อมกระโดดเข้าสู่คลื่นการเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับลูกค้า และเติบโตไปพร้อมกับเมกะเทรนด์โลก

ฉายภาพจากนี้ไป IDG ตั้งเป้าการเติบโตแบบก้าวกระโดด คาดรายได้ 3 ปี ทะยานโต 2 เท่า และ คาดภาพรวมรายได้ปี 2568 เติบโตต่อเนื่องในระดับ 10-20% จากปีก่อนอยู่ที่ 127 ล้านบาท ครึ่งปีแรกของปี 2568 รายได้อยู่ที่ 64.43 ล้านบาท จากปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ชัดเจน และเข้าสู่ไฮซีซั่นในช่วงไตรมาส 4/2568 ที่สัญญาณธุรกิจมีทิศทางที่ดี มีงานใหม่ๆ เข้ามาต่อเนื่อง

ด้วยความโดดเด่นด้านนวัตกรรมของ IDG มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ในธุรกิจเทคโนโลยี ได้รับการยอมรับในฐานะ Microsoft Gold Partner นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเทคโนโลยีระดับโลกเพิ่มเติม เพื่อเสริมศักยภาพการให้บริการและขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Regional Market ขณะเดียวกัน IDG ยังมองเห็นโอกาสจากกระแสการลงทุนด้าน Data Center ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก โดยบริษัทอยู่ระหว่างการพูดคุยกับพาร์ตเนอร์ในการนำซอฟต์แวร์และโซลูชันตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าดังกล่าว ซึ่งจะเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงในอนาคต

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของ IDG คือการพัฒนาซอฟต์แวร์ของตนเอง ที่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ได้แก่ WORK+ : แพลตฟอร์มบริหารงานและการสื่อสารภายในองค์กร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การจัดการเอกสาร ข้อมูล และ Workflow, BIZ+ แพลตฟอร์มบริหารธุรกิจและลูกค้า (Customer-Centric System) ครอบคลุม POS, การจัดการบริการ, การชำระเงิน, CRM และ Loyalty

รวมทั้ง LIFE+ แพลตฟอร์มบริหารชุมชนและอาคาร สำหรับโครงการที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน หรือโครงการ mixed-use รองรับการจัดการผู้เช่า การแจ้งบิล การแจ้งซ่อม และบริการชุมชนออนไลน์ ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีฐานลูกค้าที่แตกต่างกัน จึงมีโอกาสขยายไปยังตลาดใหม่ๆ จากเดิมลูกค้าหลักของ IDG อยู่ในกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ ไปสู่ กลุ่ม Mid-Market และ Small Market มากขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) จากผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง อีกทั้ง IDG สามารถให้บริการลูกค้า และมีบุคลากรหลายด้านที่เข้าไปตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบวงจร จึงคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตและสร้างโอกาสให้กับประเทศได้

นอกจากนี้ IDG วางกลยุทธ์บริหารความเสี่ยง โดยการกระจายพอร์ตลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรมไม่เกินประมาณ 20% ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าใน 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ สถาบันการเงิน (Financial Institution), ICT, อาหารและเครื่องดื่ม (F&B), สุขภาพ (Healthcare) และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ครอบคลุมทั้งภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้ ภายหลังจากบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงที่ผ่านมา IDG พร้อมลุยงานใหญ่ นำเงินที่ได้จากการระดมทุน จำนวนกว่า 74.95 ล้านบาท เดินหน้าขยายและพัฒนาธุรกิจตามแผน แบ่งได้เป็น 3 แกนหลัก คือ 1.การวิจัยผลิตภัณฑ์ โดยในปีหน้า IDG ได้เตรียมนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI ชุดใหม่ ที่พัฒนาโดยบริษัทฯ ออกมาทดลองใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ 2.การขยายสำนักงานและศูนย์บริการธุรกิจดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการ สามารถเข้าถึง IDG เพื่อขอรับคำปรึกษาด้าน Digital & AI Transformation ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เพื่อวางแนวทางในสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการใช้งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัย ด้วยคำแนะจากผู้เชี่ยวชาญ และ 3.การใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเดินหน้าธุรกิจได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น


ข่าวความร่วมมือ+ซอฟต์แวร์วันนี้

อีริคสันจับมือโวดาโฟนพัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะระยะยาว 5 ปี

อีริคสันจะเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย RAN ของโวดาโฟนแต่เพียงผู้เดียวในไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกส และยังเป็นผู้ให้บริการหลักในเยอรมนี โรมาเนีย และอียิปต์ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นาน 5 ปี จะตอกย้ำความเป็นผู้นำระดับโลกของโวดาโฟนทั้งด้านประสิทธิภาพและประสบการณ์ของผู้ใช้ ผ่านการติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ 5G ประสิทธิภาพสูงของอีริคสัน เพื่อพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยและพร้อมเปิดใช้งาน 5G แบบ Standalone เพื่อรองรับความต้องการการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน นำระบบบริหารจัดการเครือข่ายอัจฉริยะแบบเปิด

โรงเรียนสาธิต ม.ราชภัฏรำไพพรรณี จับมือโรง... รร.สาธิต ราชภัฏรำไพฯ จันทบุรี ผนึกโรงเรียนไต้หวัน แลกเปลี่ยนวิชาการ — โรงเรียนสาธิต ม.ราชภัฏรำไพพรรณี จับมือโรงเรียนประถมไต้หวัน ยกระดับวิชาการและแลกเปลี่...

ก.ล.ต. ลงนาม MOU กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่าง 15 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมี...

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินท... กรมทรัพย์สินทางปัญญา จับมือ depa ร่วมเดินหน้าใช้ทรัพย์สินทางปัญญาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัล — นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา หารือ นางส...