เมืองโบราณเหลียงจู่ แบบอย่างการผสานวัฒนธรรมและเทคโนโลยี นำโบราณวัตถุล้ำค่ามาบรรจบกับอุตสาหกรรมสมัยใหม่

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

การประชุมเหลียงจู่ฟอรั่ม ครั้งที่ 3

การประชุมเหลียงจู่ฟอรั่ม (Liangzhu Forum) ครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่เขตอวี่หาง เมืองหางโจว ในภาคตะวันออกของจีน ระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม เพื่อสะท้อนภาพการอยู่ร่วมกันของอารยธรรมโลก และวิธีการอันสร้างสรรค์ที่เมืองนี้สามารถผสมผสานความเก่าแก่กับความทันสมัยเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

เมืองโบราณเหลียงจู่ แบบอย่างการผสานวัฒนธรรมและเทคโนโลยี นำโบราณวัตถุล้ำค่ามาบรรจบกับอุตสาหกรรมสมัยใหม่

ด้านหนึ่งของเขตอวี่หางคือซากเมืองโบราณเหลียงจู่ที่หลับใหลมานานถึง 5,000 ปี โดยมีหลักฐานที่จับต้องได้แสดงให้เห็นถึงอารยธรรมรุ่งเรืองในยุคแรกเริ่มของจีน ไม่ว่าจะเป็นหยกฉง (Cong) เขื่อนโบราณ และผังเมืองเก่า ขณะที่อีกด้านหนึ่งคือเมืองและชุมชนสมัยใหม่ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังเช่นพื้นที่ทำงานเรียบหรูทันสมัยแต่ยังคงองค์ประกอบความงดงาม ที่ซึ่งนวัตกรรุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีประดุจพู่กันเพื่อจารึกประวัติศาสตร์บทใหม่

ด้วยการเสริมสร้างพลังซึ่งกันและกันระหว่างการปกป้องอนุรักษ์มรดกกับการพัฒนาเมือง อวี่หางจึงไม่เพียงเติมลมหายใจให้กับมรดกอายุนับพันปี แต่ยังดึงดูดอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถจากทั่วโลกให้เข้ามาปักหลักทำงานและใช้ชีวิต ณ วันนี้ ที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่สำคัญเพียงหนึ่งเดียว ที่ซึ่งรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ได้มาบรรจบกับพลังแห่งวัยเยาว์

เทคโนโลยีเป็นเกราะป้องกัน: รักษามรดกพันปีให้คงอยู่อย่างมั่นคงและปลอดภัย

การอนุรักษ์ซากเครื่องปั้นดินเผาของเหลียงจู่เคยเป็นความท้าทายระดับโลก เนื่องจากในสภาพภูมิอากาศชื้นทางตอนใต้ของจีน ดินกัดเซาะอย่างรวดเร็ว การซึมของน้ำ ปฏิกิริยาของจุลินทรีย์ และแม้แต่เสียงฝีเท้าแผ่วเบาของนักท่องเที่ยว ล้วนเป็นภัยคุกคามต่อมรดกอันเปราะบางนี้ อย่างไรก็ดี แทนที่จะปกปิดมิดชิดเพื่อปกป้อง แต่เหลียงจู่ได้หันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างเครือข่ายความปลอดภัยดิจิทัล

ณ ซากเขื่อนเหลาหูหลิง (Laohuling Dam Ruins) โครงการอนุรักษ์น้ำอายุ 5,000 ปีถูกห่อหุ้มด้วยเกราะป้องกันสีขาวขนาดใหญ่ราวกับเปลือกไข่ ภายในนั้นมีเครื่องวัดระดับน้ำ กล้องอินฟราเรด และสถานีตรวจวัดสภาพอากาศขนาดเล็ก คอยตรวจสอบความชื้น อุณหภูมิ และระดับน้ำแบบเรียลไทม์ ทันทีที่ตรวจพบข้อมูลที่ผิดปกติ ระบบระบายน้ำจะทำงานโดยอัตโนมัติ ทั่วทั้งเขตอนุรักษ์มรดกขนาด 162 ตารางกิโลเมตร กล้องมากกว่า 600 ตัว ท่าจอดโดรน 5 แห่ง และสายเคเบิลเซ็นเซอร์ใต้ดิน ได้ถักทอเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังอัจฉริยะ 3 มิติ

เทคโนโลยีเป็นมากกว่าผู้พิทักษ์ - ณ อุทยานโบราณสถานเหลียงจู่ เมื่อสแกน QR code บริเวณซากพระราชวังม่อเจียวซาน (Mojiaoshan Ruins) พระราชวังยุคหินใหม่แห่งนี้จะ "ปรากฏขึ้น" บนหน้าจอโทรศัพท์ของนักท่องเที่ยว ทำให้มองเห็นคานไม้และหลังคามุงจากได้อย่างชัดเจน และเมื่อสวมแว่น AR และเอื้อมมือไปที่หยกฉงในตู้จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์เหลียงจู่ วัตถุจำลองเสมือนจริงจะ "พุ่งออกมา" และวางลงบนฝ่ามือของผู้เข้าชม

ยิ่งไปกว่านั้น ฤดูร้อนนี้ยังได้มีการเปิดตัวโครงการ VR เพื่อยกระดับประสบการณ์ไปอีกขั้น เมื่อสวมชุดหูฟัง ผู้เข้าชมจะได้ "ย้อนเวลา" กลับไปยังเหลียงจู่เมื่อ 5,000 ปีก่อน ได้ชมบรรพบุรุษดูแลนาข้าว สลักหยกในโรงงาน และทำพิธีกรรมในลานสาธารณะ โดยใช้เวลาเพียง 35 นาที พวกเขาก็จะได้สัมผัสกับการรุ่งเรืองและล่มสลายของอารยธรรมนี้

"โบราณวัตถุอาจเลือนหาย แต่ข้อมูลจะคงอยู่ตลอดไป" หลัว เสี่ยวหง ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลดิจิทัลของพิพิธภัณฑ์เหลียงจู่กล่าว เหลียงจู่ได้ริเริ่มโครงการแปลงโบราณวัตถุให้เป็นดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2557 และขณะนี้กำลังดำเนินการเก็บข้อมูลรอบใหม่ โดยโบราณวัตถุล้ำค่ากว่า 200 ชิ้นจะได้รับชีวิตดิจิทัลเพื่อคงอยู่อย่างถาวร ทำให้มั่นใจได้ว่าแม้เวลาจะผ่านไปหลายพันปี ผู้คนก็ยังคงสามารถ "สัมผัส" อารยธรรมนี้ได้ผ่านหน้าจอ

วัฒนธรรมคือแก่น: ระเบียงวัฒนธรรมเหลียงจู่กลายเป็นพื้นที่บ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ดิจิทัลระดับโลก

เสน่ห์ของเหลียงจู่ไม่ได้อยู่ที่การเป็นโบราณสถานเท่านั้น ในปี 2565 เขตอวี่หางได้เปิดตัวระเบียงวัฒนธรรมเหลียงจู (Liangzhu Cultural Corridor) โดยมีวัฒนธรรมเหลียงจู่เป็นหัวใจหลัก ระเบียงแห่งนี้ได้ถักทอวัฒนธรรมคลอง (Canal culture), วัฒนธรรมจิงซาน (Jingshan culture), วัฒนธรรมเตียวซี (Tiaoxi culture) และวัฒนธรรมดิจิทัลเข้าด้วยกัน พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาวัฒนธรรมในรูปแบบทางเดินที่เชื่อมโยงกัน และกำลังกลายเป็นศูนย์บ่มเพาะสำหรับอุตสาหกรรมวัฒนธรรมดิจิทัลระดับโลก

ในระบบนิเวศอุตสาหกรรมของระเบียงวัฒนธรรมแห่งนี้ การหลอมรวมเทคโนโลยีและวัฒนธรรมได้ก่อกำเนิดนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ที่บริษัท Small Design พนักงานสามารถสร้างการ์ตูนเรื่องสั้นได้ภายในเวลาเพียง 90 วินาที เนื่องจากเครื่องมือ AI ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเองได้ปรับปรุงกระบวนการสร้างการ์ตูนจากเดิมที่มีถึง 11 ขั้นตอน เหลือเพียง 5 ขั้นตอน ซึ่งช่วยลดต้นทุนลงได้ถึง 37% ขณะที่บริษัท Suoyi Technology Enabled Vision ซึ่งเชี่ยวชาญด้านภาพคอมพิวเตอร์ 3 มิติและแอนิเมชันดิจิทัล ได้รวมคอนเทนต์ที่สร้างโดยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AIGC เข้ากับกระบวนการผลิต ทำให้ลดวงจรการผลิตโดยรวมลง 60% และลดต้นทุนลงเหลือเพียง 50-60% ของค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม

ธุรกิจประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งหายาก แต่พบเห็นได้ทั่วไปที่นี่ ปัจจุบัน ระเบียงวัฒนธรรมเหลียงจู่เป็นที่ตั้งขององค์กรธุรกิจขนาดใหญ่กว่า 1,000 แห่ง ซึ่งมีกำลังเติบโตสูงในด้านเนื้อหาดิจิทัล แอนิเมชัน และเกม ทำให้อารยธรรมอายุ 5,000 ปีแห่งนี้กลายเป็นทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ที่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ระดับโลกต่างต้องการ

เพื่อสนับสนุนธุรกิจเหล่านี้ เขตอวี่หางได้ออกนโยบายอุตสาหกรรม 20 ฉบับ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรม โดยให้การสนับสนุนแบบครบวงจรตั้งแต่การสรรหาบุคลากรไปจนถึงการเปิดตัวโครงการ นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาวรรณกรรมและศิลปะ มูลค่า 200 ล้านหยวน และกองทุนไมโคร-ดราม่า มูลค่า 200 ล้านหยวน เพื่ออัดฉีดเงินทุนในทุกส่วนของห่วงโซ่ ตั้งแต่การสร้างสรรค์ การถ่ายทำ ไปจนถึงการจัดจำหน่าย

ในปี 2567 เขตอวี่หางมีบริษัทด้านวัฒนธรรมเป็นจำนวนมากถึง 203 แห่ง ทำรายได้รวม 609.978 พันล้านหยวน และสร้างมูลค่าเพิ่ม 191.82 พันล้านหยวน ซึ่งทั้งสองตัวเลขคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 55% ของยอดรวมของหางโจว แสดงให้เห็นว่าในปัจจุบันเขตเพียงเขตเดียวมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของเมืองมากถึงครึ่งหนึ่ง

เสน่ห์ความน่าอยู่: คนหนุ่มสาวทั่วโลกมาลงหลักปักฐานในอวี่หางเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

ไม่เพียงเฉพาะโอกาสทางอุตสาหกรรมที่สร้างความน่าดึงดูดให้กับเหลียงจู่ แต่สถานที่แห่งนี้ยังทำให้การใช้ชีวิตท่ามกลางประวัติศาสตร์กลายเป็นจริงได้ บรรยากาศที่น่าอยู่นี้ได้แผ่ขยายจากเขตเมืองใหม่เหลียงจู่ ครอบคลุมไปยังทุกอาณาบริเวณของเขตอวี่หาง ส่งผลให้คนหนุ่มสาวจากทั่วโลกตัดสินใจมาหลงหลักปักฐานที่นี่

เมื่อยามเย็นย่ำ สะพานอวี่อิง ริมทะเลสาบอวี่หู จะส่องสว่างด้วยแสงสีรุ้ง ทอดตัวอยู่เหนือน้ำราวกับเส้นโค้งลอยน้ำ รอบทะเลสาบมีแกลเลอรี่ศิลปะ ตลาด และลานกางเต็นท์ผุดขึ้น จนได้รับฉายาในหมู่คนหนุ่มสาวว่า "หอศิลป์ที่ไร้เพดานหรือกำแพง" ตลอดแนวท่าเรือเหลียงจู่ งานศิลปะจัดวางเชิงวัฒนธรรม 13 ชิ้น ประดับอยู่ตามทางสีเขียว บางชิ้นเลียนแบบรูปทรงของหยกฉง บางชิ้นมีลวดลายจากเครื่องปั้นดินเผาเหลียงจู่ พลิกโฉมริมน้ำธรรมดาในอดีตให้กลายเป็นระเบียงวัฒนธรรมกลางแจ้งที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและการถ่ายภาพ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ อุทยานศิลปะและนวัตกรรมเหลียงจู่ 5000+ ยังได้เปิดตลาดวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนจัดนิทรรศการศิลปะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยสร้างสีสันและเติมเต็มชีวิตชีวาให้กับสถานที่แห่งนี้

อวี่หางได้เชื่อมโยงทรัพยากรคุณภาพสูงใน 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ ระเบียงวัฒนธรรมเหลียงจู่ ระเบียงนวัตกรรมและเทคโนโลยีหางโจวตะวันตก และเส้นแกนกลางของศูนย์กลางเมืองใหม่ที่สำคัญของหางโจว

ในด้านหนึ่ง มรดกทางวัฒนธรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายได้มอบพื้นที่ที่หลากหลายสำหรับการเล่นกีฬา งานศิลปะ และการอ่านให้กับคนหนุ่มสาว ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง อุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เฟื่องฟูได้เปิดขอบฟ้าอันกว้างใหญ่สำหรับนวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการ เปลี่ยนวิสัยทัศน์ "สัมผัสประวัติศาสตร์ในเหลียงจู่ ไล่ล่าความฝันในอวี่หาง" ให้กลายเป็นความจริง

ขณะเดียวกัน สถานที่ทางวัฒนธรรมที่เป็นแลนด์มาร์กตลอดเส้นแกนกลาง เช่น คอนเสิร์ตฮอลล์ โรงละครขนาดใหญ่ และห้องสมุด ได้เพิ่มพลังชีวิตของวัยหนุ่มสาวให้กับเมือง ณ ชุมชนวัฒนธรรมดิจิทัลจีนเหลียงจู่ (China Liangzhu Digital Culture Community) บริษัทเกม แอนิเมชัน ภาพยนตร์/โทรทัศน์ และเมตาเวิร์ส ได้จ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าดิจิทัลเกือบ 4,000 คน ซึ่งหลายคนย้ายมาจากเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง หรือแม้แต่ต่างประเทศ เนื่องจากถูกดึงดูดด้วยชื่อเสียงของอวี่หาง

จากแหล่งกำเนิดอารยธรรมเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว สู่กลไกหลักที่ขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพสูงของอวี่หางในปัจจุบัน เหลียงจู่ได้รักษารากเหง้าผ่านการอนุรักษ์ ปลดล็อกอนาคตด้วยเทคโนโลยี และรวมผู้คนเข้าด้วยกันผ่านคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม เนินดินทุกแห่งที่นี่บรรจุชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์ บริษัททุกแห่งบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ และคนหนุ่มสาวทุกคนกำลังเขียนเรื่องราวบทใหม่ของอารยธรรมนี้

สำหรับทั่วโลก เหลียงจู่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า มรดกโบราณและชีวิตสมัยใหม่ไม่เคยขัดแย้งกัน แต่สามารถเสริมสร้างพลังซึ่งกันและกัน สามารถเติบโตเคียงข้างกันเพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งชีวิตอย่างแท้จริง


ที่มา: การประชุมเหลียงจู่ฟอรั่ม ครั้งที่ 3


ข่าวและเทคโนโลยี+เมืองโบราณวันนี้

กปภ. ผนึก สวทช. นำเทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับคุณภาพบริการประชาชน

การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โดยนายจักรพงศ์ คำจันทร์ ผู้ว่าการ กปภ. ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. ลงนาม MOUโครงการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการระบบรับเรื่องร้องเรียนและการให้บริการอื่น ๆ เพื่อยกระดับการให้บริการน้ำประปาแก่ประชาชน ณ กปภ. สำนักงานใหญ่ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 นายจักรพงศ์ คำจันทร์ ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวว่า กปภ. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU

ฯพณฯ พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี เป... "นารถนารี" CEO SAM รับรางวัลเกียรติยศ "บุคคลตัวอย่างในภาคธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์" จาก มสวท. — ฯพณฯ พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอ...

กลุ่มบริษัทเคทีซีเผยกำไรสุทธิงวด 9 เดือน ... เคทีซีโชว์กำไรแกร่ง เดินหน้าดิจิทัลทรานส์ฟอร์มยกระดับบริการ คุมเข้มคุณภาพสินทรัพย์ — กลุ่มบริษัทเคทีซีเผยกำไรสุทธิงวด 9 เดือน 5,707 ล้านบาท พอร์ตสินเชื่อร...

วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทน... มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เปิดหลักสูตรนักพัฒนา Blockchain Technology and Applications — วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เทคโนโลยี (ANT DPU) ...