"เดอะแบกของบ้าน" เป็นคำพูดที่ระบุถึงกลุ่มคนที่กำลังเป็นความหวังของครอบครัว ต้องทำงานอย่างหนัก มีความรับผิดชอบสูง และเผชิญกับความกดดันรอบทิศทาง เพื่อประคับประคองไม่ให้ตนเอง ซึ่งหมายถึงอีกหลายชีวิตภายใต้การดูแลต้องล้มลง
การเกิดขึ้นของ "เดอะแบก" เป็นผลมาจากโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป อธิบายง่ายๆ คือคนที่เป็นวัยแรงงานน้อยลง แต่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา ทำให้มีสัดส่วนผู้สูงอายุสูงถึงราว 13 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 19.97 ของประชากรทั้งหมด หรือเกือบ 1 ใน 3 ขณะที่เด็กเกิดใหม่น้อยลง
ในขณะที่ลูกหลานกำลังออกไปสู้งานข้างนอกอย่างหนักหน่วง ท่ามกลางความซบเซาของพิษเศรษฐกิจ สิ่งที่ดำเนินไปอย่างควบคู่กันก็คือผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยต้องอาศัยอยู่ในบ้านอย่างโดดเดี่ยวขาดคนดูแล เกิดปัญหาสุขภาพกาย สุขภาพจิต และคุณภาพชีวิตที่ดิ่งลง
นี่คือโจทย์ของประเทศที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อเพิ่มการเข้าถึงคุณภาพชีวิตดีสำหรับผู้สูงวัย และลดภาระทางใจและกายให้กับ "เดอะแบก" ของบ้าน ซึ่งสิ่งที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ดำเนินการอยู่ น่าสนใจจึงนำมาบอกต่อ
โปรเจกต์อันเป็นร่มใหญ่ของธรรมศาสตร์ ที่ต้องการระดมทรัพยากรทั้งองค์ความรู้ บุคลากร กระบวนการ งานวิจัยและนวัตกรรม ออกมาทำงานรับใช้สังคมเพื่อรับมือกับปัญหาสังคมสูงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับมือกันกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีชื่อว่า TU Care & Ageing Society 'ธรรมศาสตร์' เพื่อนร่วมทางสังคมสูงวัย
ภายใต้ TU Care & Ageing Society มีการขับเคลื่อนงานอีกหลายโครงการใหญ่ ที่น่าสนใจและเกิดผลสัมฤทธิ์แล้วคือ โครงการการพัฒนาการจัดบริการสำหรับผู้สูงอายุในชุมชน ผ่านการสร้างเครือข่าย อปท. ในประเทศไทย หรือ SMART AND STRONG PROJECT ที่ธรรมศาสตร์ ได้ให้บริการวิชาการสนับสนุนการยกระดับการจัดบริการสุขภาพใน อปท. 39 แห่ง ทั่วประเทศ
จุดเริ่มต้นของโครงการ ผศ. ดร.ณัฏฐพัชร สโรบล ภาควิชานโยบายสังคม การพัฒนาสังคมและการพัฒนาชุมชน สาขาเชี่ยวชาญสวัสดิการผู้สูงอายุ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าว่า SMART AND STRONG PROJECT เป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันระหว่างธรรมศาสตร์ กับเทศบาลเมืองบึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มาตลอด 10 ปี จนเกิดเป็นรูปธรรมและนวัตกรรมในการพัฒนาและออกแบบการจัดบริการผู้สูงอายุในพื้นที่ อาทิ การจัดตั้งศูนย์สันทนาการและฟื้นฟูผู้สูงอายุ (Day Care Center) เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมในช่วงกลางวัน มีบริการรถรับ-ส่งตามบ้าน ตลอดจนการจัดบริการรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรม การกายภาพบำบัด คลินิกสุขภาพจิต คลินิกแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีน ฯลฯ โดยศูนย์การแพทย์และฟื้นฟูบึงยี่โถ รวมไปถึงการมีศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ อีกจำนวน 3 แห่ง และอื่นๆ อีกมากมาย
สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า สวัสดิการบริการสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุที่ดำเนินการโดยท้องถิ่นร่วมมือกับสถาบันทางการศึกษา มีศักยภาพมากเพียงพอ ที่จะรองรับและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุได้ จนอาจสามารถปลดแอกบนบ่าให้กับเดอะแบกได้ไม่มากก็น้อย เพราะเป็นการรุดไปข้างหน้า แสวงหาโอกาสของชีวิตโดยรู้สึกอุ่นใจว่า ชีวิตของพ่อแม่ หรือญาติพี่น้อง ซึ่งอยู่วัยเกิน 60 ปี จะมีระบบสวัสดิการสังคมจากภาครัฐคอยเป็นตาข่ายรองรับชีวิตไม่ให้ร่วงหล่น
โครงการ SMART AND STRONG PROJECT จึงเกิดขึ้นเมื่อปี 2565 - 2565 เพื่อต่อยอดและขยายภาพความสำเร็จของเทศบาลเมืองบึงยี่โถ ไปยัง อปท. อื่นๆ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การเสริมพลัง และคำแนะนำ ระหว่างภาคีเครือข่าย ทั้งสิ้น 39 อปท. ที่ร่วมกันทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อรับมือกับสังคมสูงวัยในประเทศไทย ผ่านกระบวนการจัดอบรม และถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการให้แก่ อปท. โดยได้รับการสนับสนุนทั้งเงินทุน และองค์ความรู้จากหน่วยงานในประเทศญี่ปุ่น อย่างองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และองค์กร Nogezaka-Glocal เทศบาลเมืองยูกาวะระ
ทั้งนี้ บทบาทมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในทางวิชาการ คือการถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อเสริมพลังให้กับผู้บริหารท้องถิ่น และบุคลากร เจ้าหน้าที่ ด้านสาธารณสุขของ อปท. เพื่อสร้างทีม 'นักบริหารจัดการสังคมสูงวัย' จากหลากหลายวิชาชีพ เพื่อให้มีศักยภาพที่เข้าไปสร้างการเปลี่ยนแปลง หรือออกแบบระบบบริการสุขภาพเพื่อคนสูงอายุที่เหมาะสมกับเงื่อนไขเฉพาะพื้นที่ของตนเอง
ทั้งนี้ มีเทศบาลเมืองบึงยี่โถ เป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมประสานกับภาคีเครือข่ายท้องถิ่น ทั้ง 39 อปท. และเป็นพื้นที่ต้นแบบการศึกษา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 3 ปี ของโครงการฯ ได้ส่งผลให้เกิดการนำประเด็นซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากโครงการฯ ไปสร้างการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ของตนเองได้
ยกตัวอย่างเช่น กรณีของเทศบาลตำบลเทพารักษ์ ที่มี วชิรเชษฐ์ รุ่งธวัฒน์วงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลเทพารักษ์ เป็นผู้นำ เปิดเผยว่า ภายในปี 2569 เทศบาลตำบลเทพารักษ์ ตั้งเป้าหมายกันไว้ว่าจะสร้าง 'ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟู' คล้ายคลึงกับเทศบาลเมืองบึงยี่โถ เพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่นี่ ซึ่งที่ผ่านมาก็ปรึกษากับ รังสรรค์ นันทกาวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองบึงยี่โถ มาโดยตลอด และในวันที่ 24 - 25 เดือนกรกฎาคม นี้ จะมีการจัดอบรมบุคลากรของเทศบาลให้เป็นทีม "นักบริหารจัดการสังคมสูงวัย" จากคณาจารย์ธรรมศาสตร์เพื่อเตรียมความพร้อมในการ เปิดศูนย์ฯ
ขณะที่ อติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีนครหัวหิน กล่าวว่า ภายหลังการเข้าร่วมโครงการ SMART AND STRONG PROJECT ได้นำมาสู่การออกแบบกิจกรรม Huahin Heal Team ซึ่งประกอบไปด้วยบุคลาการทางการแพทย์หลากหลายสหวิชาชีพ ในการทำให้เกิดเจตคติและสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้สูงอายุ กับผู้ดูแลในครอบครัว ตลอดจนทำให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับภาวะของคนเป็นโรคสมองเสื่อม
ด้าน ดร.กิตติพงศ์ สีเหลือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสม็ดใต้ (อบต.เสม็ดใต้) กล่าวว่า แม้ว่า อบต.เสม็ดใต้ จะเป็นท้องถิ่นขนาดเล็ก มีทรัพยากรงบประมาณและบุคลากรจำกัด แต่ส่วนตัวก็มีความตั้งใจที่จะสร้างศูนย์สันทนาการและฟื้นฟูผู้สูงอายุ หรือ Day Care Center ให้เกิดขึ้นจริงในอนาคตเช่นกัน โดยหวังว่า จะมีบริการรับ-ส่ง ถึงที่บ้าน ผู้สูงอายุมายังพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมร่วมกันในตอนกลางวัน ซึ่งจะทำให้ลูกหลานที่จะต้องออกไปทำงานเกิดความสบายใจ ซึ่งขณะนี้ อบต.เสม็ดใต้ กำลังอยู่ในช่วงของการเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน เพื่อไปสู่การสร้าง Day Care Center ใน
รศ. ดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า ปัจจุบัน SMART AND STRONG PROJECT กำลังจะเดินต่อไปในระยะที่สอง ภายในกรอบระยะเวลาตั้งแต่ปี 2568-2571 ซึ่งจะขยายความร่วมมือไปสู่ 50 อปท.ทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นการสร้างไป 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. การดูแลผู้สูงอายุสมองเสื่อม 2. การให้บริการดูแลโภชนาการ 3. การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน 4. การจัดการเฝ้าระวังความเสี่ยงและภัยพิบัติ
ทั้ง 4 ประเด็น ที่จะเกิดการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่นั้น ล้วนแต่เป็นประเด็นที่ผ่านการชั่งน้ำหนักความสำคัญ และผ่านการวิเคราะห์-สังเคราะห์ โดยทีมวิชาการทั้งธรรมศาสตร์และภาคีประเทศญี่ปุ่นอย่างเข้มข้น
รศ. ดร.อรรถสิทธิ์ ระบุอีกว่า จากการทำงานร่วมกับ อปท. ชัดเจนว่า อปท. มีความสามารถและมีศักยภาพสูง มีความใกล้ชิดเข้าใจสภาพปัญหา บริบท และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ แต่ในเรื่องสังคมสูงวัยและการจัดบริการปฐมภูมิ อาจถือเป็นเรื่องใหญ่และใหม่ของหลายท้องถิ่น การสร้างกลไกสนับสนุนทางองค์ความรู้ ผ่านการจับมือทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษากับ อปท. จะยิ่งช่วยให้การรับมือกับสังคมสูงวัยเป็นไปอย่างมั่นคงและมั่นใจ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ TU Care & Ageing อันเป็นร่มใหญ่ของโครงการดูแลผู้สูงวัยโดยธรรมศาสตร์ที่มุ่งสนับสนุนองค์ความรู้ และเป็นกลไกสนับสนุนการทำงานทั้งระดับนโยบายและระดับท้องถิ่น
นี่เป็นตัวอย่างของจังหวะก้าวที่น่าสนใจของสถาบันอุดมศึกษา ในฐานะส่วนหนึ่งในการรับมือวิกฤตชาติ และสอดรับกับวิสัยทัศน์ของ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ป้ายแดง ที่ต้องการขับเคลื่อน 1 มหาวิทยาลัย 1 ภารกิจ เพื่อท้องถิ่น อีกด้วย
NKT ผนึก "Chersery Home" ดัน "นครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ บาย เฌ้อสเซอรี่ โฮม" ปั้นธุรกิจดูแลผู้สูงวัย พร้อมเปิดให้บริการปี 69 ปักธงเป็นศูนย์ชั้นนำอาเซียน ปี 73
ก้าวใหม่ 'TOA' ผนึก 'JOMOO' บุกตลาด 'Smart Toilet' ตั้งเป้า 200 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวโชว์รูม Smart Bathroom Solution ครบวงจรแห่งแรกใจกลางสุขุมวิท
ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ขยายเตียง ICU-เสริมเทคโนโลยี-ดูแลด้านจิตใจ ยกระดับศักยภาพการดูแลผู้ป่วยวิกฤต
เนสท์เล่ชูความสำเร็จโครงการ "นักส่งเสริมสุขภาพดีรุ่นใหญ่" ดึงศักยภาพวัยเกษียณสร้างสังคมสูงวัยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
Gen ยัง Active 50+ เปิดเวทีเสวนา ผนึกกำลังผู้กำหนดนโยบายสุขภาพของประเทศ ขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพเชิงป้องกัน
ประชุมวิชาการพิเศษ แพทย์สหสาขาวิชา ร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางดูแลสุขภาพผู้หญิงและผู้ชาย ถอดรหัสสุขภาพองค์รวม รับมือสังคมสูงวัยของไทย
แอล ดับเบิลยู เอสฯ แนะ 6 ธุรกิจบริการ ตอบโจทย์สังคมสูงวัยระดับสุดยอด
กทม. ชี้แจงโครงการเตรียมพร้อมสู่สังคมสูงวัยของบุคลากร กทม. ยืนยันใช้งบประมาณเหมาะสม ดูแลข้าราชการอย่างมีคุณค่า ช่วยวางแผนชีวิต-การเงิน-สุขภาพ หลังเกษียณอย่างมีคุณภาพ