ภายใน 5 ปีจากนี้ การใช้จ่ายไปกับเทคโนโลยี "Earth Intelligence" ขององค์กรธุรกิจจะมากกว่ารัฐบาลและหน่วยงานทหารรวมกัน
 
                                                                                                                                        การ์ทเนอร์เผย เทคโนโลยีเก็บข้อมูลอัฉริยะของโลก หรือ Earth Intelligence จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทุกอุตสาหกรรม เนื่องจากเทคโนโลยีนี้กำลังเปลี่ยนมือจากภาครัฐสู่ภาคเอกชนอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2030 คาดว่าจะมีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นเกินกว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ จากเกือบ 3.8 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ตามรายงานของการ์ทเนอร์ล่าสุดยังระบุว่า โอกาสการสร้างรายได้โดยตรงสะสมจากเทคโนโลยี Earth Intelligence สำหรับผู้ให้บริการเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์จะมีมากถึงเกือบ 20 พันล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่ปี 2025 ถึง 2030 
                                                             
                                                                                                                            
การคาดการณ์รายได้ของผู้ให้บริการเทคโนโลยีนี้ มุ่งเน้นไปที่รายได้โดยตรงจากข้อมูล บริการวิเคราะห์ และแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ของเทคโนโลยี Earth Intelligence โดยไม่ได้นำปัจจัยที่ขับเคลื่อนมูลค่าของ Earth Intelligence วงกว้างมาคำนวณ ซึ่งอาจรวมถึงการปรับปรุงประสิทธิผลการทำงานและการหลีกเลี่ยงต้นทุน
การ์ทเนอร์ให้คำจำกัดความเทคโนโลยี Earth Intelligence ว่าเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI รวมกับข้อมูลการสำรวจโลก เพื่อเสนอโซลูชันที่เฉพาะเจาะจงสำหรับภาคอุตสาหกรรมและฟังก์ชันทางธุรกิจ ครอบคลุมตั้งแต่การรวบรวมและนำเสนอข้อมูลการสำรวจโลก การแปลงข้อมูลให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ และนำข้อมูลนั้นมาใช้เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ได้กับโมเดล เครื่องมือ และแอปพลิเคชัน AI ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละโดเมน
Bill Ray รองประธานนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์กล่าวว่า "อนาคตของ Earth Intelligence จะเป็นของผู้ขายที่เคลื่อนตัวได้ไวในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้เข้าใจข้อมูลดิบจำนวนมหาศาลที่เก็บรวบรวมไว้"
"ข้อมูล Earth Intelligence เพิ่งได้รับการตระหนักถึงคุณค่า ตัวอย่างเช่น ผู้ขายกำลังใช้ประสิทธิภาพจากดาวเทียมเพื่อระบุตำแหน่งต้นไม้ที่ล้มขวางทางรถไฟช่วงเกิดพายุ หรือการตรวจสอบอุณหภูมิของโรงหลอมโลหะ (Metal Refinery) ทุกแห่งเพื่อประเมินการผลิตทั่วโลก หรือการนับจำนวนยานพาหนะเพื่อวิเคราะห์รูปแบบการจราจรและเทรนด์ผู้บริโภค รวมถึงการติดตามสินค้าขนส่งทางทะเลเพื่อประเมินกิจกรรมการขนส่งต่าง ๆ โดยข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เคยมีมาก่อนเหล่านี้กำลังสร้างมูลค่ามหาศาล และทำให้พบยูสเคสการใช้งานใหม่ ๆ ถูกค้นพบทุกวัน ขณะที่การแข่งขันของผู้ขายเทคโนโลยี AI ทวีความรุนแรงขึ้นพร้อมกับปริมาณข้อมูลที่มีอยู่ก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง" Bill Ray กล่าวเพิ่มเติม
ปัจจุบัน ข้อมูลดิบที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยี Earth Intelligence ถูกรวบรวมและวิเคราะห์โดยรัฐบาลเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้น การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าภายในปี 2030 องค์กรเอกชนจะใช้จ่ายเพื่อเทคโนโลยี Earth Intelligence มากกว่ารัฐบาลและหน่วยงานทหารรวมกัน โดยคิดเป็นมากกว่า 50% ของ Earth Intelligence ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากในปี 2024 ที่มีน้อยกว่า 15%
"เมื่อผู้ให้บริการเทคโนโลยีและบริการเอกชนเริ่มให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี Earth Intelligence พวกเขาจะมีโอกาสขายข้อมูล โมเดล และแอปพลิเคชันให้กับบริษัทที่ขาดแคลนทรัพยากรด้านการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่ง Earth Intelligence จะนำไปสู่ตลาดและข้อเสนอใหม่ ๆ ทั้งในด้านข้อมูล โมเดล เครื่องมือและแอปพลิเคชันแบบสแตนด์อะโลน รวมถึงมีความสามารถในการฝังเทคโนโลยีนี้ในแอปพลิเคชันที่มีอยู่เดิม เป็นโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ให้บริการเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์" Bill Ray กล่าวเพิ่มเติม
สภาพเศรษฐกิจเกิดใหม่กำลังวิวัฒนาการ เนื่องจากดาวเทียมวงโคจรต่ำมาก (Very Low Earth orbit หรือ VLEO) มีต้นทุนการสร้างและการปล่อยที่ถูกลง และดาวเทียมเหล่านี้กำลังเฝ้าดูโลกในแนวทางใหม่ เทคนิคเรดาร์และไฮเปอร์สเปกตรัมสามารถมองเห็นสิ่งที่ไม่เคยมองเห็น และอาจใช้เวลาย้อนกลับมาสำรวจเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น บริษัทเอกชนยังทดลองกับ VLEO ที่สามารถให้ความละเอียดต่ำถึง 10 เซนติเมตร ซึ่งเล็กมากพอที่จะส่องเห็นหนู
"สิ่งนี้กำลังเริ่มขึ้นและจะยังคงขับเคลื่อนข้อมูลการสำรวจโลกในปริมาณมหาศาลต่อไป การรวบรวมข้อมูลดาวเทียมเข้ากับข้อมูลการสำรวจภาคพื้นดินจากเซนเซอร์และโดรนจะสร้างมูลค่าให้กับเทคโนโลยี Earth Intelligence ยิ่งขึ้น นี่คือจุดที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญ ไม่เหมือนเทคโนโลยีในโดเมนอื่น ๆ ที่มีข้อมูลมากมายอยู่แล้ว แต่ข้อมูลนั้นต้องได้รับการออกแบบให้เป็นข้อมูลที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์เพื่อป้อนให้กับโมเดล AI ที่มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับอุตสาหกรรมและฟังก์ชันทางธุรกิจ"
 
                             การ์ทเนอร์เผยปีนี้ยอดใช้จ่าย AI ทั่วโลกจะมีมูลค่าแตะ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
                            การ์ทเนอร์เผยปีนี้ยอดใช้จ่าย AI ทั่วโลกจะมีมูลค่าแตะ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
                         การ์ทเนอร์คาดการณ์ ในปีหน้าแอปพลิเคชันระดับองค์กรถึง 40% จะฝังเทคโนโลยี AI Agents เฉพาะงานไว้ เพิ่มจากปีนี้ที่น้อยกว่า 5%
                            การ์ทเนอร์คาดการณ์ ในปีหน้าแอปพลิเคชันระดับองค์กรถึง 40% จะฝังเทคโนโลยี AI Agents เฉพาะงานไว้ เพิ่มจากปีนี้ที่น้อยกว่า 5%
                         การ์ทเนอร์เผยสิ้นปีนี้ AI PCs ครองส่วนแบ่ง 31% ของตลาดพีซีทั่วโลก
                            การ์ทเนอร์เผยสิ้นปีนี้ AI PCs ครองส่วนแบ่ง 31% ของตลาดพีซีทั่วโลก
                         Primal เปิดตัว 'ElevateSEO' หนุนแบรนด์ปรับตัวรับยุค AI Search เผยโซลูชันใหม่ ปิดช่องว่างด้านการมองเห็นของแบรนด์ ครอบคลุม Google AI Mode, ChatGPT และแพลตฟอร์ม AI ชั้นนำ
                            Primal เปิดตัว 'ElevateSEO' หนุนแบรนด์ปรับตัวรับยุค AI Search เผยโซลูชันใหม่ ปิดช่องว่างด้านการมองเห็นของแบรนด์ ครอบคลุม Google AI Mode, ChatGPT และแพลตฟอร์ม AI ชั้นนำ
                         การ์ทเนอร์เผย 3 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญต่อภาครัฐในเอเชียแปซิฟิก ปี 2568
                            การ์ทเนอร์เผย 3 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญต่อภาครัฐในเอเชียแปซิฟิก ปี 2568
                         การ์ทเนอร์เผยปี 2567 ที่ผ่านมา ตลาดบริการคลาวด์สาธารณะ IaaS ทั่วโลกเติบโตถึง 22.5%
                            การ์ทเนอร์เผยปี 2567 ที่ผ่านมา ตลาดบริการคลาวด์สาธารณะ IaaS ทั่วโลกเติบโตถึง 22.5%
                         การ์ทเนอร์คาดการณ์ ในปี 2569 บริการสื่อสารดาวเทียม LEO ทั่วโลก จะมีมูลค่าใช้จ่ายแตะ 14.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
                            การ์ทเนอร์คาดการณ์ ในปี 2569 บริการสื่อสารดาวเทียม LEO ทั่วโลก จะมีมูลค่าใช้จ่ายแตะ 14.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
                         การ์ทเนอร์คาดการณ์ ภายในปี 2027 โครงการ Agentic AI มากกว่า 40% จะถูกยกเลิก
                            การ์ทเนอร์คาดการณ์ ภายในปี 2027 โครงการ Agentic AI มากกว่า 40% จะถูกยกเลิก