ในห้วงเวลา 75 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เป็นดั่งสายใยอันแนบแน่นที่ถักทอขึ้นจากมรดกทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมที่หยั่งรากลึก และการเดินทางไปมาหาสู่กันที่นับวันจะยิ่งใกล้ชิดมากขึ้น เปรียบเสมือนภาพวาดที่งดงามที่บอกเล่าเรื่องราวความผูกพันอันลึกซึ้งผ่านปลายพู่กันของศิลปิน สะท้อนถึงมิตรภาพและความร่วมมือกันระหว่างสองประเทศที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การสร้างสรรค์นิทรรศการครั้งประวัติศาสตร์ ที่บอกเล่าเรื่องราวมิตรภาพริมฝั่งโขงผ่านงานศิลปะอันงดงาม
รากเหง้าทางประวัติศาสตร์: มิตรภาพบนแผ่นดินอุษาคเนย์
ย้อนกลับไปในอดีต ดินแดนที่ปัจจุบันเป็นประเทศไทยในภาคเหนือบางส่วนและ สปป.ลาว เคยอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรล้านนาและอาณาจักรล้านช้าง ก่อนที่อาณาจักรล้านช้างจะแยกเป็นอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ ล้านช้างหลวงพระบาง และล้านช้างจำปาศักดิ์ ทำให้ทั้งสองประเทศมีความคล้ายคลึงกันทั้งในด้านภาษา วรรณกรรม ศาสนา วัฒนธรรม และประเพณี สะท้อนให้เห็นถึงความใกล้ชิดสนิทแนบดังคำเปรียบเปรยแต่โบราณที่ว่า "ไปเอาพริกที่บ้านเหนือ ไปเอาเกลือที่บ้านใต้"
ไทย-ลาว มีความผูกพันกันมามายาวนานตั้งแต่โบราณกาลราว 465 ปี ดังจะเห็นได้จากพระธาตุศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย จ.เลย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรไมตรีระหว่างกรุงศรีสัตนาคนหุต ภายใต้การปกครองของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กับกรุงศรีอยุธยาในยุคสมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2103 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2106 เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยและชาวลาวให้ความเคารพนับถือ มาตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน
แม้ทั้งสองประเทศจะมีความผูกพันกันยาวนาน แต่ราชอาณาจักรไทยกับ สปป.ลาว เพิ่งสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2493 หลังจากที่ สปป.ลาวได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2492 ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้เข้าสู่ยุคใหม่ เริ่มต้นด้วยการสถาปนาความร่วมมือในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ไทยและลาวต่างสนับสนุนกันในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความท้าทายระดับภูมิภาค และการปรับตัวเข้ากับกระแสโลกาภิวัตน์ โดยได้พัฒนาความสัมพันธ์ในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน อย่างใกล้ชิดและแน่นแฟ้น และเมื่อ พ.ศ. 2565 ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
วาระการครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย- สปป.ลาว จึงถือเป็นอีกหมุดหมายสำคัญที่จะนำพาความสัมพันธ์พิเศษนี้ไปสู่ยุคสมัยแห่งความร่วมมือที่สร้างสรรค์และมิตรภาพที่เกื้อกูลกันอย่าง
ยั่งยืน สายสัมพันธ์อันงดงามที่พระราชวงศ์ของไทยได้ทรงริเริ่มและสนับสนุนส่งเสริม มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อมิตรภาพและความเข้าใจอันลึกซึ้งระหว่างสองประเทศ พระบรมวงศานุวงศ์ไทยหลายพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือน สปป. ลาว อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ ทรงเสด็จฯ เยือน สปป. ลาว บ่อยครั้ง เพื่อทรงเยี่ยมโครงการตามพระราชดำริต่าง ๆ ตลอดจนทรงเยี่ยมเยียนราษฎรชาวลาวและพระราชทานความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาในสาขาการศึกษา สาธารณสุข การเกษตร การพัฒนาคุณภาพชีวิต ตลอดจนงานด้านศิลปวัฒนธรรมและภาษา อันเป็นรากฐานของความผูกพันที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบันนี้
จากสะพานเชื่อมใจ สู่ประตูแห่งโอกาส
ความสัมพันธ์ในด้านการคมนาคมระหว่าง สปป.ลาว และไทยเป็นอีกหนึ่งมิติที่สำคัญ ในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ การเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) ในปี พ.ศ. 2537 ช่วยให้การเดินทางระหว่างสองประเทศสะดวกสบายขึ้น ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือที่ยั่งยืน ปัจจุบันมีสะพานมิตรภาพ 4 แห่ง เพื่อส่งเสริมด้านการค้าขาย การลงทุน การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน และมีกำหนดเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ภายในปี พ.ศ. 2568 นอกเหนือจากสะพานแล้ว การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมอื่น ๆ ก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น
- ถนนหลวง: เส้นทางเดินรถที่เชื่อมโยงจากจังหวัดชายแดนของไทยสู่เมืองสำคัญในลาว เช่น เชียงราย-บ่อแก้ว, น่าน-ไซยะบูลี, หนองคาย-เวียงจันทน์, นครพนม-คำม่วน,มุกดาหาร-สะหวันนะเขต, อุบลราชธานี-จำปาสัก ทำให้การขนส่งสินค้าและการเดินทางส่วนบุคคลเป็นไปอย่างสะดวกสบาย
- ทางรถไฟ: การพัฒนาเส้นทางรถไฟที่เชื่อมโยงระหว่างลาวและไทย เช่น สายรถไฟระหว่างกรุงเทพฯ และเวียงจันทน์ และการเปิดสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ช่วยลดระยะเวลาการเดินทางและเพิ่มความสะดวกสบาย รวมไปถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน เชื่อมต่อจากบ่อเต็นถึงนครหลวงเวียงจันทน์ ได้กลายเป็นเส้นทางคมนาคมใหม่ที่น่าจับตามอง ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับโครงข่ายรถไฟของไทยในอนาคต ทำให้ลาวกลายเป็น "Land-linked" และเป็นสะพานเชื่อมไทยไปสู่จีนและภูมิภาคอื่น ๆ ได้อย่างคล่องตัว
- การคมนาคมทางน้ำและทางอากาศ: การเดินทางข้ามโขงโดยเรือยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตดั้งเดิม ขณะที่เที่ยวบินตรงระหว่างเมืองหลวงทั้งสองประเทศ และเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ ช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางและส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกันได้อย่างดี
ด้วยการคมนาคมที่สะดวกสบายและรวดเร็ว นำไปสู่โอกาสและการแลกเปลี่ยนทั้งด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การค้าบริเวณชายแดนมีความตื่นตัวยิ่ง นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในลาว และนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมาเที่ยว สปป.ลาว มากเป็นอันดับหนึ่งหลายปีซ้อน และนักท่องเที่ยวลาวก็เดินทางมาเยี่ยมเยือนไทยอย่างต่อเนื่อง นับเป็นอีกหนึ่งมิติที่แสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดทางสังคมผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศในการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
วัฒนธรรมที่คล้ายคลึง มรดกอันล้ำค่าระหว่างสองชาติ
สปป.ลาวและไทยมีความคล้ายคลึงกันอย่างลึกซึ้งในด้านวัฒนธรรม ภาษา ศาสนา และประเพณี โดยเฉพาะภาษาไทยและภาษาลาวที่มีความใกล้เคียงกัน แม้จะมีสำเนียงและคำศัพท์ที่แตกต่างกันบ้าง แต่ชาวอีสานและชาวลาวสามารถสื่อสารกันได้อย่างลื่นไหลราวกับไม่มีกำแพงภาษา และไม่ต้องใช้ล่ามแปลภาษาในการหารืออย่างเป็นทางการระหว่างคณะผู้แทนไทยกับ สปป.ลาว
ทั้งสองประเทศยังนับถือพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาหลักประจำชาติ รวมถึงประเพณีต่าง ๆ ที่คล้ายคลึงกัน เช่น สงกรานต์ ขบวนแห่บั้งไฟ ลอยกระทง การแข่งเรือในช่วงออกพรรษา หรือประเพณีเกี่ยวกับแม่น้ำโขง และความเชื่อเรื่องพญานาค ล้วนมีรากฐานทางความเชื่อและความหมายที่ใกล้เคียงกันมาก นอกจากนี้ อาหารพื้นเมืองของลาวและอาหารเหนือและอาหารอีสานของไทยยังมีรสชาติและส่วนผสมที่ใกล้เคียงกัน เช่น ส้มตำ ลาบ ก้อย ไส้อั่ว และข้าวเหนียว สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและกลมกลืนกับธรรมชาติ รวมถึงศิลปะการแสดงพื้นบ้านอย่าง หมอลำ ฟ้อนรำ เพลงพื้นเมือง และการทอผ้าไหม ซึ่งเป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น ล้วนมีเอกลักษณ์ร่วมกันที่บ่งบอกถึงสายสัมพันธ์อันยาวนาน
ความคล้ายคลึงทางภาษา ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตเหล่านี้ ทำให้ผู้คนสองฝั่งโขงรู้สึกผูกพันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเฉกเช่นคนในครอบครัว และเป็นพื้นฐานสำคัญที่สร้างความสนิทสนม ความเข้าใจซึ่งกันและกัน และพร้อมที่จะเอื้ออาทรและให้อภัยกัน โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องมือเผยแพร่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกันดังเช่นประเทศอื่น ๆ
นิทรรศการศิลปะฉลอง 75 ปี: สะพานเชื่อมวัฒนธรรม ผ่านปลายพู่กันอันวิจิตร
เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - สปป.ลาว สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต และกระทรวงวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวแห่ง สปป.ลาว ได้จัดการประกวดวาดภาพจิตรกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีฯ ภายใต้หัวข้อ "75 ปี แห่งความงดงามของความสัมพันธ์ไทย-ลาว" ซึ่งได้รับความสนใจจากศิลปิน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ที่ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดกันอย่างคึกคัก โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ และกระทรวงวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวแห่ง สปป.ลาว จะจัดงานแสดงศิลปวัฒนธรรมรวมใจไทย-ลาว ในโอกาสเฉลิมฉลองการครบรอบ 75 ปีฯ พร้อมจัดพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวด ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ณ หอวัฒนธรรมแห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์
ภายในงานยังจัดแสดงนิทรรศการศิลปะของศิลปินไทยที่เดินทางไปเข้าร่วมworkshop ณ สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต การแสดงดนตรีคลาสสิกจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะนักเรียนจากวิทยาลัยศิลปะแห่งชาติ สปป.ลาว รวมถึงการแสดงโนราและฟ้อนรำวงลาว ซึ่งศิลปะการแสดงทั้งสองประเภทได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจากUNESCO
นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ร่วมกับสมาคมศิลปินอีสาน มูลนิธิสงขลาเมืองเก่า และมูลนิธิศิครินทร์เพื่อการพัฒนา จัดงานจัดแสดงนิทรรศการผลงานศิลปะ "75 ปี แห่งความงดงามของความสัมพันธ์ไทย-ลาว จัดแสดงให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมใน 4 หอศิลป์ที่มีชื่อเสียงในนครหลวงเวียงจันทน์ ได้แก่ หอศิลป์ สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งชาติลาว (National Institute of Fine Arts), สายลม อาร์ต สตูดิโอ (Saylom Art Studio) บ้านสีน้ำ (Water Colour House) และ i:cat gallery ระหว่างวันที่ 9-17 กรกฎาคม 2568 ก่อนที่ผลงานศิลปะทุกชิ้นจะสัญจรไปจัดแสดงที่จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย ในโอกาสต่อไป
75 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับ สปป.ลาว จึงเปรียบเสมือนภาพสะท้อนความงดงามที่เกิดขึ้นจากบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ความสัมพันธ์นี้ไม่เพียงแสดงถึงมิตรภาพระหว่างสองประเทศที่ผูกพันแน่นแฟ้นอย่างที่อดีตนายกรัฐมนตรีของ สปป.ลาว กล่าวไว้ว่า คนลาวและคนไทย "กินข้าวร่วมนา กินปลาร่วมน้ำ" แต่ยังเป็นต้นแบบสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน สายใยแห่งความงดงามนี้ยังคงสืบทอดต่อไปสู่อนุชนรุนต่อไป เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งนำพา สปป.ลาว และไทยไปสู่อนาคตที่รุ่งเรืองและยั่งยืนร่วมกัน
มาสเตอร์การ์ดจับมือ Thunes รองรับการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ ในระบบการเงินกระแสหลัก
ซีพี แอ็กซ์ตร้า จับมือกับ Ayala Corporation กลุ่มบริษัทชั้นนำของฟิลิปปินส์ เร่งเดินหน้าขยายการเติบโตในภูมิภาค
กรุงไทยเสริมแกร่งร้านค้าถุงเงินทั่วประเทศ รับสแกนจ่ายจากนักท่องเที่ยวจีน ไม่มีค่าธรรมเนียม หนุนเศรษฐกิจดิจิทัล
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ร่วมกับ บริษัท JD Health ผู้นำด้านการแพทย์ดิจิทัลของประเทศจีน ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพข้ามพรมแดน
กรมทรัพย์สินทางปัญญา หนุนปลดล็อคศักยภาพนวัตกรรมไทย แนะใช้บริการ ePCT ยื่นจดสิทธิบัตรได้ 158 ประเทศทั่วโลก สะดวกรวดเร็ว พร้อมรับส่วนลดค่าธรรมเนียมช่วยเสริมเกราะป้องกันการก๊อปปี้ ลุยตลาดโลกอย่างมั่นใจ
รร.สาธิต ราชภัฏรำไพฯ จันทบุรี ผนึกโรงเรียนไต้หวัน แลกเปลี่ยนวิชาการ
เอชเอสบีซี สนับสนุนงาน Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025
ไทย โคโคนัท (COCOCO) ลุยเดินงานฟิลิปปินส์ เยือน PEZA หารือสิทธิประโยชน์โรงงานใหม่ "NOVOCOCONUT"
TEI-GIZ ผนึกกำลังเตรียมความพร้อมภาคเกษตรไทย รับมือกฎระเบียบการค้า EU ยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่ความยั่งยืนระดับสากล