บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำฟื้นตัวเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ในระยะสั้น พร้อมระบุเกิดวิกฤตศรัทธาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทั่วโลก ส่งผลบวกต่อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง "ทองคำ" แนะกลยุทธ์ทยอยสะสม โดยมีแนวรับ $3,325 และ $3,305 (เทียบเท่าราคาทองคำไทยประมาณ 51,100-50,900 บาท)
นางสาว อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังนโยบายด้านภาษีสามารถบรรลุข้อตกลงได้ชัดเจน โดยประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ได้รับการชี้แจงเกี่ยวกับอัตราภาษีเป็นไปตามที่คาดหวัง ส่งผลให้แรงกดดันต่อราคาทองคำจากประเด็นภาษีระหว่างประเทศเริ่มเบาลง
ขณะเดียวกัน นักลงทุนเริ่มหันมาจับตาความน่าเชื่อถือของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยชนวนของเรื่องเริ่มจากตัวเลขการจ้างงานล่าสุดที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ และมีการปรับลดตัวเลขย้อนหลังทั้งในเดือนมิ.ย.และเดือนพ.ค.ลงเป็นอย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การปลดผู้บริหารระดับสูงจากสำนักงานสถิติแรงงานโดยทรัมป์ พร้อมกล่าวหาว่าเป็นแทรกแซงข้อมูลเศรษฐกิจ ทำให้เกิดความวิตกกังวลในวงกว้างว่าข้อมูลเศรษฐกิจซึ่งเคยถูกยกเป็น "มาตรฐานทองคำ" อาจสูญเสียความเป็นกลาง
ทั้งนี้หากมีการแทรกแซงข้อมูลทางเศรษฐกิจจริง อาจส่งผลเชิงลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการตัดสินใจด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนในระยะต่อไป ทำให้ส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำ เพราะเกิดความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น และการเสื่อมศรัทธาต่อข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนมีแนวโน้มลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง และหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนทิศทางของนโยบายการเงินจาก Fed ก็เป็นอีกปัจจัยสนับสนุน เนื่องจากหากข้อมูลทางเศรษฐกิจหลัก เช่น การจ้างงานและเงินเฟ้อ ขาดความน่าเชื่อถือ Fed อาจจำเป็นต้องตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายเร็วกว่าคาดการณ์ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อทิศทางราคาทองคำในระยะสั้นถึงระยะกลาง
กลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ รอย่อซื้อ $3,325 และ $3,305 โดยราคาทองคำเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวเข้าสู่ช่วงขาขึ้นในระยะสั้น และมีแนวโน้มสูงที่จะสามารถเบรกกรอบสามเหลี่ยมด้านบนได้ภายใน1-2 สัปดาห์ข้างหน้า จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่ยังไม่มีสถานะในการทยอยสะสม โดยมีแนวรับที่น่าจับตาอยู่บริเวณ $3,325 และ $3,305 (เทียบเท่าราคาทองคำไทยประมาณ 51,100-50,900 บาท) ขณะที่เป้าหมายการทำกำไรระยะสั้นอยู่ที่ $3,400 (ราคาทองคำไทยประมาณ 52,000 บาท) และหากสามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้อย่างมั่นคง มีโอกาสสูงที่ราคาจะปรับขึ้นต่อเนื่องเพื่อทดสอบ ATH เดิมที่ $3,500 ในระยะถัดไป
YLG เผยครึ่งปีแรกราคาทองคำพุ่ง 25% เกือบเท่าทั้งปีก่อนหน้า เปิดสถิติย้อนหลัง 20 ปี สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยปีละกว่า 9%
YLG เฉลยแล้ว!! ทองในประเทศพุ่ง All Time High เหตุบาทอ่อนค่าเทียบดอลลาร์ ระยะสั้นมีลุ้นแตะ 33,250 บาทต่อบาททองคำ แนะนำนักลงทุนทยอยแบ่งขายทำกำไร
YLG ปรับเป้าหมายทองคำปี66 สู่ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะเพิ่มความระมัดระวังเหตุราคาเข้าใกล้จุดสูงสุด
YLG เผยทองคำแรงต่อเนื่องรับข่าวเฟดอาจไม่ขึ้นดบ.ในเดือนมี.ค. หลังกลุ่มแบงก์ในสหรัฐขาดเสถียรภาพส่อเค้าเกิดวิกฤต
YLG เผยระยะสั้นทองคำโลกมีลุ้นรีบาวด์เหตุตลาดกังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอ ชี้ตลาดฟิวเจอร์สตปท.คึกคักเทรดทอง-น้ำมัน-คริปโตฯได้ไม่เว้นวันหยุดไทย
YLG ชี้ธปท.ไฟเขียวใช้เงินต่างประเทศซื้อทองออนไลน์เป็นปัจจัยหนุนการลงทุน เปิดตัวเลขปีนี้นักลงทุนหน้าใหม่ตบเท้าลงทุนทองเพิ่มขึ้นเฉพาะTFEXเพิ่ม3เท่า
MTS แนะนำนักลงทุนติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด มองราคาทองมีโอกาสไปต่อ
“โกลเบล็ก” แนะโยกเงินสะสมทองคำหนี Covid – 19 ระบาดซ้ำสองมีลุ้นทองคำทดสอบ 1,640 - 1,690 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์