SAK ฟอร์มเด่นครึ่งปีแรก 68 กำไรสุทธิ 439 ล้านบาท เติบโต 11.6% สินเชื่อกลุ่มเกษตรกรและกลยุทธ์ขยายสาขา ดันพอร์ตฯ 14,900 ล้านบาท พุ่ง 11.9% ชูแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเกษตร มุ่งการรักษาและเพิ่มคุณภาพหนี้ เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง'หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย โชว์ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 เติบโตสุดแกร่ง พอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 14,900 ล้านบาท เติบโต 11.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ก่อน หนุนรายได้รวม 1,686 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0% และมีกำไรสุทธิ 439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6% หลังไตรมาส 2/2568 ดีมานด์สินเชื่อเพื่อการเกษตรพุ่งและกลยุทธ์การขยายสาขาครบหนุนการเติบโต วางหมุดหมายแผนครึ่งปีหลังเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ พร้อมรุกขยายสินเชื่อเพื่อการเกษตร สินเชื่อที่ดิน โซลาร์รูฟท็อป วางเป้าหมายปี 2568
พอร์ตสินเชื่อรวมทะยานสู่ 15,500 ล้านบาท เติบโต 8-10%

SAK ฟอร์มเด่นครึ่งปีแรก 68 กำไรสุทธิ 439 ล้านบาท เติบโต 11.6% สินเชื่อกลุ่มเกษตรกรและกลยุทธ์ขยายสาขา ดันพอร์ตฯ 14,900 ล้านบาท พุ่ง 11.9% ชูแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเกษตร มุ่งการรักษาและเพิ่มคุณภาพหนี้ เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ

นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยภายใต้แบรนด์ 'ศักดิ์สยามลิสซิ่ง' เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2568 (มกราคม-มิถุนายน)
บริษัทฯ ยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยขยายพอร์ตสินเชื่อโดยรวมทะยานสู่ 14,900 ล้านบาท เติบโต 14.0% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 1,686 ล้านบาท เติบโต 14.0% มีกำไรสุทธิ 439 ล้านบาท เติบโต 11.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 2/2568 (เมษายน-มิถุนายน) มีรายได้รวม 859 ล้านบาท เติบโต 13.7% กำไรสุทธิ 215 ล้านบาท เติบโต 8.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ของ SAK ที่มุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการสนับสนุนเศรษฐกิจของภาคเกษตร ที่ต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนนำไปเพาะปลูกตามฤดูกาล รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่ต้องการเสริมฐานทุนสำหรับการประกอบอาชีพต่างๆ SAK ฟอร์มเด่นครึ่งปีแรก 68 กำไรสุทธิ 439 ล้านบาท เติบโต 11.6% สินเชื่อกลุ่มเกษตรกรและกลยุทธ์ขยายสาขา ดันพอร์ตฯ 14,900 ล้านบาท พุ่ง 11.9% ชูแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเกษตร มุ่งการรักษาและเพิ่มคุณภาพหนี้ เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ

ทั้งนี้ปัจจัยเติบโตมาจากสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อทะเบียนรถเพื่อการเกษตรที่เติบโตโดดเด่น เนื่องจากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนของเกษตรกรพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน จากการที่ภาคการเกษตรของประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก ประกอบกับช่วงในไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากกลยุทธ์การขยายสาขาใหม่ครบ 50 สาขา ได้ตามเป้าหมาย จาก 1,029 สาขา เพิ่มเป็น 1,079 สาขา ครอบคลุม 47 จังหวัด ส่งผลให้สินเชื่อของ SAK สามารถตอบสนองดีมานด์อย่างรวดเร็วและตรงจุด ทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำเป็น เพื่อนำไปใช้ในการเพาะปลูกและต่อยอดผลผลิตได้อย่างเต็มที่ และสำหรับประชาชนทั่วไป SAK ก็เป็นฐานทุนที่แข็งแกร่งและยืดหยัดเคียงข้างในสถานการณ์ที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอในช่วงที่ผ่านมาได้อย่างต่อเนื่อง

"SAK สามารถควบคุมสัดส่วน NPL อยู่ที่ 2.6% ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2568 ผ่านกลยุทธ์การคัดกรองสินเชื่อคุณภาพสูงตั้งแต่ต้นทาง การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อไปยังกลุ่มลูกค้าและพื้นที่ที่หลากหลาย รวมทั้งการติดตามและจัดเก็บหนี้อย่างใกล้ชิด สะท้อนถึงความสามารถการบริหารจัดการความเสี่ยงที่โดดเด่นและรัดกุมในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ซึ่งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ตอกย้ำรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว" นายศิวพงศ์ กล่าว

ส่วนแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะเดินหน้าปล่อยสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อทะเบียนรถเพื่อการเกษตร สินเชื่อที่ดิน และโดยเฉพาะสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) เนื่องจากดีมานด์เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมุ่งจัดการคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ โดยพิจารณาการปล่อยสินเชื่ออย่างรัดกุม หรือเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำหรือเกษตรกรที่ได้รับผลดีจากสภาพอากาศ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาพืชผลทางการเกษตร และส่งผลมายังความสามารถในการจ่ายคืนหนี้ของลูกหนี้ ทำให้บริษัทฯ เพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อโดยยึดหลักในการปล่อยสินเชื่อตามวัตถุประสงค์การประกอบอาชีพอย่างชัดเจน ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำและมีแนวโน้มปรับลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อต้นทุนการเงินครึ่งปีหลัง จึงมั่นใจว่าในปีนี้จะผลักดันพอร์ตสินเชื่อทั้งปีแตะ 15,500 ล้านบาท เติบโต 8-10%


ข่าวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ+ศักดิ์สยามลิสซิ่งวันนี้

ธนาคารกสิกรไทย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ M Rate ลง 0.25% หนุนเศรษฐกิจไทย พร้อมเคียงข้างลูกค้าทุกกลุ่ม

ธนาคารกสิกรไทยประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้ง MLR MOR และ MRR ลงร้อยละ 0.25 ต่อปี มีผลวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ท่ามกลางความเปราะบางที่เพิ่มขึ้นในหลายภาคส่วน อันเป็นผลจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าโลก มาตรการภาษีของสหรัฐฯ การชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยว และอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง นายจงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ส่งมอบประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยืดห... HP เสริมแกร่งอนาคตแห่งการทำงานด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI Workstation ที่ครอบคลุมที่สุดในอุตสาหกรรม — ส่งมอบประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยืดหยุ่นที่เหนือชั้น ...

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่า... วว. พร้อมโชว์นวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย วทน. ในงาน อว.แฟร์ /มหกรรมวิทย์ 2568 — นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาส...