โคเวสโตร ผู้ผลิตนวัตกรรมวัสดุจากเยอรมนี ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท Vencorex Holding SAS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เพื่อเข้าซื้อกิจการของสองบริษัทที่มีโรงงานผลิตสารอนุพันธ์ เฮกซะเมทิลีน ไดไอโซไซยาเนท (Hexamethylene Diisocyanate) หรือ HDI ในจังหวัดระยอง ประเทศไทย และที่ฟรีพอร์ท ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทั้งสองบริษัทและโรงงานดังกล่าวเคยเป็นส่วนหนึ่งของเวนคอเร็กซ์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสารอะลิฟาติกสัญชาติฝรั่งเศส จากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ โคเวสโตรได้ขยายกลยุทธ์ทางธุรกิจและเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอการผลิตสารอะลิฟาติกในสหรัฐอเมริกา และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถขับเคลื่อนกลยุทธ์ "อนาคตที่ยั่งยืน" หรือ "Sustainable Future" ขององค์กรไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเติบโตในธุรกิจที่ทำกำไรและส่งเสริมนวัตกรรม อย่างเช่นธุรกิจสารเคลือบและสารยึดเกาะนี้

"การเข้าซื้อกิจการเพื่อให้ได้ฐานการผลิตทั้งสองแห่งจากเวนคอเรกซ์นี้สอดคล้องอย่างลงตัวกับพอร์ตโฟลิโอและเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของเรา" คริสเตียน ไบเออร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของโคเวสโตร กล่าว "ในขณะที่เรายังคงควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาผลการดำเนินงานในระยะสั้น เรายังเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถในการแข่งขันระยะยาวด้วยการลงทุนที่เจาะเป้าหมายอย่างเช่น โครงการนี้"
โคเวสโตร เป็นผู้จัดจำหน่ายสารอนุพันธ์ HDI ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งสารนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในหลายผลิตภัณฑ์ เช่น สารเคลือบโพลียูรีเทน กาว และวัสดุอุดรอยต่อ จึงถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ การเคลือบพื้นผิวและกาวสำหรับรถยนต์ รถบรรทุก สะพาน เรือ เฟอร์นิเจอร์ไม้ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ยังช่วยเสริมความสามารถในการผลิตของโคเวสโตรที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกา เยอรมนี จีน อินเดีย และอื่นๆ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย
"กำลังการผลิตใหม่ในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา จะเข้ามาเสริมความสามารถด้านการผลิตที่มีอยู่ของเราซึ่งครอบคลุมทุกภูมิภาคสำคัญทั่วโลก และจะช่วยให้เราสามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดเผชิญความท้าทายเช่นนี้" โทมัส โรเมอร์ (Thomas Roemer) หัวหน้ากลุ่มธุรกิจสารเคลือบและสารยึดเกาะ กล่าว
"หลังจากที่เราเข้าซื้อกิจการ Resins & Functional Materials (RFM) จาก DSM และมีการลงทุนเพื่อการเติบโตจากภายในอย่างต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ชัดเจน ที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบริษัทที่มีต่อกลุ่มธุรกิจสารเคลือบและสารยึดเกาะ ผมตั้งตารอที่จะได้ต้อนรับเพื่อนร่วมงานใหม่เข้าสู่ทีมของเรา"
ทั้งนี้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะไม่เปิดเผยมูลค่าการซื้อขายในครั้งนี้ และคาดว่าธุรกรรมนี้จะเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ภายในสิ้นปีพ.ศ. 2568
เกี่ยวกับโคเวสโตร
โคเวสโตร คือหนึ่งในผู้ผลิตวัสดุโพลิเมอร์และส่วนประกอบโพลิเมอร์คุณภาพสูงชั้นนำของโลก ด้วยผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และวิธีการที่เป็นนวัตกรรม บริษัทฯ มีส่วนช่วยยกระดับความยั่งยืนและคุณภาพชีวิตในหลากหลายด้าน
โคเวสโตรจัดหาผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าทั่วโลกในอุตสาหกรรมหลัก เช่น การขนส่ง การก่อสร้างและการอยู่อาศัย รวมถึงภาคไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ พอลิเมอร์จากโคเวสโตรยังถูกนำไปใช้ในภาคส่วนต่างๆ เช่น กีฬาและสันทนาการ โทรคมนาคม และสุขภาพ รวมถึงในอุตสาหกรรมเคมีเองด้วย
บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ โคเวสโตรตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศสำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบเขตที่ 1 และ 2 ภายในปี พ.ศ. 2578 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบเขตที่ 3 ของกลุ่มบริษัทฯ จะบรรลุความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศภายในปี พ.ศ. 2593 โคเวสโตรสร้างยอดขายได้ 14.2 พันล้านยูโรในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ณ สิ้นปี พ.ศ. 2567 บริษัทฯ มีฐานการผลิต 46 แห่งทั่วโลก และมีพนักงานประมาณ 17,500 คน (คำนวณเป็นจำนวนเทียบเท่าเต็มเวลา)
ดูข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่: Covestro Homepage
ติดตามเราได้ทางโซเชียลมีเดีย: Facebook CovestroThailand
ข้อความคาดการณ์อนาคต
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้อาจมีข้อความที่เกี่ยวข้องกับการคาดการณ์อนาคต ซึ่งอ้างอิงจากสมมติฐานและการคาดการณ์ในปัจจุบันของบริษัท Covestro AG อย่างไรก็ตาม อาจมีปัจจัยเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่น ๆ ทั้งที่ทราบและไม่ทราบ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ สถานะทางการเงิน การพัฒนา หรือผลการดำเนินงานจริงของบริษัท แตกต่างไปจากที่ระบุไว้ในข้อความเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยเหล่านี้รวมถึงสิ่งที่ได้มีการกล่าวถึงไว้ในรายงานสาธารณะของ Covestro ซึ่งสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ www.covestro.com
ทั้งนี้ บริษัทไม่มีข้อผูกพันในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ให้สอดคล้องกับเหตุการณ์หรือพัฒนาการในอนาคตแต่อย่างใด