บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวเชิงบวก รับความเชื่อมั่นตลาดสูงถึง 89% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ด้านฝ่ายวิเคราะห์ แนะกลยุทธ์ "รอย่อซื้อ" บริเวณแนว $4,200 / $4,175 หรือราคาทองไทย ประมาณ 63,500 / 63,000 บาท โดยหากราคาอ่อนตัวแต่ไม่ต่ำกว่า $4,150 มีโอกาสลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $4,380
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในเชิงบวก โดยราคายังสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่บริเวณ $4,155 ได้อย่างมั่นคง หากระดับดังกล่าวยังถูกประคองไว้และมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ราคาทองคำมีโอกาสขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $4,300 และ $4,380 ตามลำดับ ซึ่งเทียบเป็นราคาทองไทยประมาณ 64,800 และ 66,000 บาท ดังนั้นจึงแนะนำกลยุทธ์ "รอย่อซื้อ" ที่บริเวณแนวรับ $4,200 / $4,175 หรือราคาทองไทยประมาณ 63,500 / 63,000 บาท ทั้งนี้ หากราคาทองคำอ่อนตัวแต่ไม่หลุดต่ำกว่า $4,150 หรือราว 62,800 บาท ยังถือว่าโครงสร้างภาพรวมเป็นขาขึ้น ขณะเดียวกัน หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ย ก็จะยิ่งช่วยหนุนให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับแรงหนุนที่สำคัญ ภายใต้ปัจจัยความคาดหวังต่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยถึงการได้ตัดสินใจเลือกผู้ที่จะเสนอชื่อเป็นประธานเฟดคนใหม่แล้ว และคาดหวังว่าผู้ที่ถูกเลือกจะดำเนินนโยบายลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดทองคำ โดยมีชื่อของนาย Kevin Hassett ที่ปรึกษาเศรษฐกิจใกล้ชิดทรัมป์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะเข้ารับตำแหน่ง ต่อจากนาย Jerome Powell ซึ่งปัจจัยดังกล่างจึงช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในเชิงบวกต่อทองคำและสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ
"ตลาดกำลังประเมินโอกาสเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยช่วง ธ.ค.นี้ โดยล่าสุด FedWatch Tool ประเมินความเป็นไปได้สูงถึงประมาณ 89% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มอ่อนแรงลง ทั้งภาคแรงงาน, การใช้จ่ายผู้บริโภค และความเชื่อมั่น ทำให้สนับสนุนแนวคิดที่ว่า เฟดอาจ ต้องลดดอกเบี้ยเพื่อประคองเศรษฐกิจ และความคาดหวังดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงหนุน ทำให้ราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญได้อย่างแข็งแกร่ง"
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก Goldman Sachs ได้ตอกย้ำมุมมองเชิงบวกของตลาดต่อทองคำ โดยกว่า 70% ของนักลงทุนสถาบันทั่วโลกมองว่า ทองคำยังคงอยู่ในรอบขาขึ้น และมองเป้าหมายระยะยาวในโซน $4,500 - $5,000 หรือสูงกว่า โดยแรงหนุนสำคัญมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ การเข้าซื้อของธนาคารกลาง, การอ่อนค่าของดอลลาร์, ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์, และความต้องการกระจายความเสี่ยงจากหุ้นและคริปโต ดังนั้นมุมมองดังกล่าวสะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าในปัจจุบันทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ควรถือมากกว่าควรขาย
"GCAP GOLD" ชี้แนวโน้มทองยังเป็นบวก จับตาท่าทีดอกเบี้ย Fed -เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอหลังชัตดาวน์
GCAP GOLD" ชี้ทองคำยังมีเสน่ห์ ลุ้นรีบาวด์ เศรษฐกิจสหรัฐฯ แผ่ว-เฟดส่งสัญญาณขยายงบดุล
"GCAP GOLD" เตือนแรง! จีนเปลี่ยนเกมภาษีทอง แนะทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัวแถว 60,300 / 59,800 บาท
"GCAP GOLD" ชี้สองปัจจัยใหญ่ตัวกำหนดทิศทางทองคำโค้งสุดท้าย
GCAP GOLD ชี้ทองย่อไม่หลุด $3,970 ยังมีแรงไปต่อ จับตาเงินเฟ้อ-เจรจาการค้า-วิกฤตแบงก์ภูมิภาค ชี้ชะตาขาขึ้นรอบใหม่
"GCAP GOLD" ชี้ทองคำส่อแววทะยานต่อ 3 ปัจจัยบวก สงครามการค้า - Government Shutdown - เฟดลดดอกเบี้ย
GCAP GOLD ชี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จุดเปลี่ยนราคาทองคำ
GCAP GOLD แนะนักลงทุนทยอยแบ่งขายทำกำไรทองคำที่ 57,000-57,300 บาท