บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลก ได้ร่วมมือกับโครงการ Aerial Recon & Recovery Initiative (ARRI) เพื่อใช้เทคโนโลยีโดรนและปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอในการค้นหาและกำจัดขยะพลาสติกทางทะเลที่อันตรายที่สุดประเภทหนึ่ง ได้แก่ "อุปกรณ์ประมงที่ถูกทิ้งหรือสูญหายในทะเล" (Ghost Gear) จากน่านน้ำชายฝั่งบริเวณเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจระดับโลกของไทยยูเนี่ยน ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange(R) 2030 ที่ตั้งเป้าในการลดการรั่วไหลของพลาสติกลงสู่มหาสมุทรให้ได้ 1,500 ตัน ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยผสานความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยนเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยของ ARRI เพื่อช่วยปกป้องระบบนิเวศทางทะเลที่เปราะบาง
ความร่วมมือนี้ต่อยอดจากโครงการต่าง ๆ ของไทยยูเนี่ยนที่มุ่งจัดการปัญหามลพิษจากขยะพลาสติกในหลายพื้นที่ เช่น การร่วมมือกับ Second Life องค์กรเพื่อสังคมที่มีเป้าหมายในการสร้างกลุ่มคนที่เก็บรวบรวมและรีไซเคิลขยะพลาสติกในชุมชนภาคใต้ของประเทศไทย การทำงานร่วมกับ Seven Clean Seas ผ่านโครงการ HIPPO (High Impact Plastic Pollution remOver) ให้การสนับสนุนการดำเนินงานเรือเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์ ในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อดักจับขยะในแม่น้ำ ช่วยลดปริมาณขยะในบริเวณดังกล่าว และร่วมป้องกันปัญหาขยะไหลออกสู่ท้องทะเลรวมถึงการจัดกิจกรรมเก็บขยะทั่วโลกที่ระดมพนักงานและพันธมิตรของไทยยูเนี่ยนให้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง
นายอดัม เบรนนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "มลพิษทางทะเลจากขยะพลาสติกมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะใช้แนวทางเดิม ๆ รับมือได้ ด้วยการผสานเทคโนโลยีโดรนและเอไออันล้ำสมัยของ ARRI เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน เรากำลังลงมือแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อลดภัยคุกคามที่คงอยู่ยาวนานที่สุดในมหาสมุทร และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกเพื่อมุ่งฟื้นฟูสุขภาพของมหาสมุทร"
ใช้เทคโนโลยีเพื่อค้นหาและกำจัดอุปกรณ์ประมงที่ถูกทิ้งหรือสูญหายในทะเล
อุปกรณ์ประมงที่ถูกทิ้งหรือสูญหายในทะเล (Ghost Gear) ถือเป็นขยะทางทะเลที่สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง เพราะเป็นกับดักของสัตว์น้ำ ทำลายแนวปะการัง และคุกคามทรัพยากรประมงและวิถีชีวิตชายฝั่ง เนื่องจากขยะประเภทนี้สามารถลอยอยู่ในทะเลโดยไม่ถูกพบเห็นเป็นเวลาหลายปี การค้นหาและเก็บกู้จึงเป็นเรื่องท้าทายมาโดยตลอด โครงการระยะเวลา 6 เดือนระหว่างไทยยูเนี่ยนและ ARRI นี้จะใช้เทคโนโลยีโดรนและเอไอเพื่อตรวจสอบและระบุพิกัดของเครื่องมือเหล่านี้ ตลอดพื้นที่กว่า 12 ตารางกิโลเมตรรอบเกาะพะงัน ซึ่งเป็นพื้นที่อุดมไปด้วยแนวปะการังและหญ้าทะเล เพื่อทำการเก็บและนำไปรีไซเคิลต่อไป
ARRI ใช้โดรนติดกล้องที่สามารถบันทึกภาพทุก 2 วินาที ทำให้ได้ภาพถ่ายความละเอียดสูงนับพันภาพ จากนั้นจะนำภาพเหล่านี้เข้าสู่ระบบเอไอที่พัฒนาโดย ARRI ซึ่งถูกฝึกให้สามารถระบุอุปกรณ์ประมงที่ถูกทิ้งหรือสูญหายในทะเลได้โดยเฉพาะ ช่วยให้สามารถระบุตำแหน่งขยะและดำเนินการเก็บกู้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
วัสดุที่เก็บได้จะถูกชั่งน้ำหนัก คัดแยก และนำไปรีไซเคิลอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนและฟื้นฟูถิ่นอาศัยทางทะเลที่สำคัญ ในระหว่างโครงการนี้ ARRI และไทยยูเนี่ยนคาดว่าจะสามารถเก็บขยะได้ไม่น้อยกว่า 3,230 กิโลกรัม ซึ่งจะช่วยปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศชายฝั่งโดยตรง
ดร. ธันยา กาญจนรักษ์ ผู้อำนวยการโครงการ ARRI กล่าวว่า "เทคโนโลยีของเราช่วยให้สามารถตรวจสอบพื้นที่มหาสมุทรขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำสูงสุด ทำให้ทีมสามารถกำหนดเป้าหมายในการเก็บกู้ในจุดที่มีผลกระทบมากที่สุด การร่วมมือกับไทยยูเนี่ยนทำให้เราสามารถขยายขอบเขตการทำงาน มีส่วนร่วมกับชุมชนมากขึ้น และสร้างวิธีแก้ปัญหาระยะยาวต่อวิกฤตอุปกรณ์ประมงที่ถูกทิ้งหรือสูญหายในท้องทะเลได้"
โครงการนี้ยังมุ่งเน้นการป้องกัน โดย ARRI ทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นและชาวประมงเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ประมงที่ถูกทิ้งหรือสูญหายในท้องทะเล ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการให้ความรู้และการร่วมมือกัน เพื่อให้ชาวประมงทิ้งอุปกรณ์ที่ชำรุดอย่างถูกวิธีป้องกันการปล่อยลงสู่ทะเล ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องเก็บกู้ในอนาคตและเสริมสร้างท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ในระยะยาว โครงการนี้ยังสนับสนุนพันธกิจของไทยยูเนี่ยนที่มุ่งสร้าง "การมีสุขภาพที่ดีและท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์" (Healthy Living, Healthy Oceans) เพื่อให้ระบบนิเวศทางทะเลสามารถคงอยู่เพื่อผู้คนและโลกของเรา
ในภาคใต้ของประเทศไทย ไทยยูเนี่ยนยังร่วมมือกับ Second Life เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้กับชุมชนเกาะและชายฝั่งในการเก็บและรีไซเคิลพลาสติก เพื่อเปลี่ยนของเสียให้เป็นรายได้และวัสดุที่กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
ในกรุงเทพฯ ไทยยูเนี่ยนร่วมมือกับ Seven Clean Seas เพื่อเก็บขยะพลาสติกจากแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนที่จะไหลลงสู่อ่าวไทย
ไทยยูเนี่ยนยังคงระดมพนักงานและพันธมิตรทั่วโลก ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป แอฟริกา และอเมริกาเหนือ เพื่อร่วมกันรับผิดชอบในการปกป้องมหาสมุทร
นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังทำงานผ่านพันธมิตรระดับโลก เช่น Global Ghost Gear Initiative (GGGI) และ International Seafood Sustainability Foundation (ISSF) เพื่อสร้างความรับผิดชอบและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมในการลดขยะทางทะเลและการประมงอย่างยั่งยืน
"ความท้าทายนี้ยิ่งใหญ่มาก แต่ความก้าวหน้ามาจากการร่วมมือกัน นับตั้งแต่โดรนและเอไอ ไปจนถึงการเก็บขยะจากแม่น้ำและการรีไซเคิลแบบหมุนเวียน โครงการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการทำงานร่วมกันระหว่างภาคอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ และชุมชนในการแก้ปัญหาขยะพลาสติกในมหาสมุทร" นายเบรนนัน กล่าวเพิ่มเติม
กรุงไทยยกทัพ ส่งโปรฯ การเงิน-การลงทุน ร่วมงาน Thailand Smart Money สุราษฎร์ธานี 22-24 ส.ค. นี้
กรมอนามัย ยกทัพ จัดงานมหกรรมวิชาการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพแห่งชาติ ประจำปี 2568 : รอบรู้สุขภาพ เท่าทันเทคโนโลยี สู่สุขภาพดีที่ยั่งยืน
จี แคปปิตอล เปิดตัวนำร่องสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนบนเกาะเต่า
แชมป์สมศักดิ์ศรี! ทีมโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ภูเก็ต คว้าถ้วยเกียรติยศแชมป์ "ยุวชนหาดทิพย์คัพ" ครั้งที่ 10 รับเงินรางวัล พร้อมเปิดประสบการกับสโมสรชั้นนำของประเทศ
PRAPAT อัพเดทแผนธุรกิจ งาน Dinner talk จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทาโก้ เบลล์ เปิดสาขาใหม่ที่เฮเว่น สมุย คอมมูนิตี้มอลล์ รับดีมานด์ท่องเที่ยวคึกคัก
ฉลอง 10 ปี ฟุตบอล 'ยุวชนหาดทิพย์คัพ' ขยายครบ 14 จังหวัดภาคใต้ จุดประกายความฝันเยาวชน สู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ ด้วยมิตรภาพและความสุข
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมโลจิสติกส์ บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มจธ. ลงพื้นที่เพื่อดำเนินการสัมภาษณ์เชิงลึกร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ภาคใต้