นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่าย ได้ร่วมมือกันเฝ้าระวังและผลักดันมาตรการสำคัญในการป้องกันและให้การรักษาที่มุ่งเน้นการลดภาวะคลอดก่อนกำหนด ให้ลดลงน้อยกว่า ร้อยละ 8 ซึ่งปัจจุบัน พบว่า สถานการณ์การคลอดก่อนกำหนดในหญิงไทย ในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 9.91 เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ประเทศไทยถือว่าอยู่ในระดับสูง สาเหตุการคลอดก่อนกำหนดส่วนใหญ่เกิดจากการมาฝากครรภ์ช้า ไม่ได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ รวมทั้งไม่ได้รับความรู้ เรื่อง อันตรายของการคลอดก่อนกำหนดและสัญญาณเตือนของอาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด และเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว จึงจำเป็นต้องสร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายของการคลอดก่อนกำหนดและสัญญาณเตือนของอาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดที่ ให้กับหญิงตั้งครรภ์ ครอบครัว และชุมชน เพื่อช่วยกันลดอัตราการคลอดก่อนกำหนดของประเทศไทย
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การคลอดก่อนกำหนด คือ การคลอดที่เกิดขึ้นก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ การป้องกันการคลอดก่อนกำหนดที่หญิงตั้งครรภ์ต้องระวัง คือ อาการเตือนของการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ท้องแข็ง ท้องปั้น เจ็บครรภ์ ปวดหน่วงท้องน้อย มีน้ำใสหรือเลือดออก แม้ว่าจะไม่เจ็บครรภ์ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ยังต้องทำงาน เช่น ทำงานบ้าน(ซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว อุ้มลูก ดูแลคนป่วย หรือรับจ้าง ค้าขาย เกษตรกรรม หากขาดความระมัดระวัง อาจทำให้เกิดอาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้ ความเครียดจากการทำงานถูกสะสมมาเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดอารมณ์หดหู่ หงุดหงิด เกิดการหลั่งฮอร์โมนเครียด ซึ่งมีผลต่อการเปิดของปากมดลูก อาจทำให้เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด และอาจทำให้แท้งบุตรได้ และ พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น การเปลี่ยนท่านั่งยองเป็นท่ายืนบ่อยครั้งการนั่ง หรือยืนทำงานเป็นระยะเวลานาน การขึ้นบันไดวันละหลายครั้ง การนั่งรถเดินทางไกล ขับรถบนเส้นทางที่ขรุขระ ขับขี่รถมอเตอร์ไซด์ หรือจักรยาน หรือยานพาหนะอื่นที่ทำให้คุณแม่รู้สึกเกร็งบริเวณหน้าท้อง การมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดแรงกระทบบริเวณหน้าท้อง รวมถึงการกลั้นปัสสาวะและการอาบน้ำในแหล่งน้ำที่ไม่สะอาด อาจทำให้มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะและช่องคลอดได้เช่นกัน
แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เนื่องในวันที่ 17 พฤศจิกายนของทุกปี คือ วันทารกเกิดก่อนกำหนดโลก (World Prematurity Day) ซึ่งเป็นวันสำคัญที่จัดขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาการคลอดก่อนกำหนด และส่งเสริมการดูแลทารกให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดวันนี้เพื่อระลึกถึงความท้าทายที่ทารกเหล่านี้ ต้องเผชิญ รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการป้องกันและรักษา กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำแนวทางการการส่งเสริมสุขภาพหญิงไทย เพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด ดังนี้ 1) รับประทานอาหารให้ครบถ้วนตามคำแนะนำ 2) ดื่มน้ำไม่น้อยกว่า วันละ 8-10 แก้ว 3) หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน 4) ดูแลทำความสะอาดทั่วร่างกายอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งและทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกหลังการขับถ่ายและเช็ดให้แห้งทุกครั้ง 5) แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งที่รับประทานอาหาร หากมีฟันผุ หรือเหงือกอักเสบ ควรไปพบทันตสาธารณสุข หรือทันตแพทย์ เพื่อให้การรักษา 6) หาเวลานอนหลับให้มากขึ้น ช่วงเวลากลางคืนควรนอนหลับไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง 7) ละเว้น หรือหลีกเลี่ยงการยกของหนัก 8) ควรหาวิธีที่ช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ ฟังเพลงเบาๆ หรืออ่านหนังสือ เป็นต้น
กรมอนามัย เตรียมทีมปฏิบัติการตรวจเฝ้าระวังสุขอนามัย รับเจ้าภาพซีเกมส์ อาเซียนพาราเกมส์ 2025
สธ. ชูนโยบาย 3 ด้าน ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จับมือ มูลนิธินมแม่ฯ - สสส. ร่วมผลักดันสังคมนมแม่ยั่งยืน หนุนไทยก้าวข้ามวิกฤติเด็กเกิดน้อย
กรมอนามัย ฝ่ากระแสดราม่า รณรงค์ "ทุกเพศทุกวัย…ดื่มนมจืด 2 แก้วทุกวัน"
สธ.-กทม. รวมพลังปกป้องชาวกรุงจากภัย PM2.5 ให้มีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
รู้หรือไม่... เด็กไทยบางคนเกิดมาโดยไม่มีรอยยิ้ม วัตสันชวนร่วมคืนความมั่นใจ ผ่านโครงการ "Give a Smile"
"สธ.-ตชด." ส่งเสริมรักษาช่องปากเด็กเล็กพื้นที่ห่างไกล นำหลัก "เวชศาสตร์วิถีชีวิต" ปรับพฤติกรรมดูแลสุขภาพ
" รมช.วรโชติ" ชูนโยบายส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมคนไทย มอบกรมอนามัย เร่งสร้างความรอบรู้ อสม. ส่งเสริมเด็กเกิดดีมีคุณภาพ
รมว.สธ. มอบกรมอนามัย เตรียมทีม SEhRT สนับสนุนทุกพื้นที่ดูแลสุขภาพประชาชนเข้าร่วมถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง