โรงพยาบาลกรุงเทพแนะ ส่องกล้องช่วยการป้องกัน อย่ารอจนมีอาการผิดปกติแล้ว อาจสายไป
"โรคระบบทางเดินอาหาร" ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป โดยเฉพาะในยุคที่ไลฟ์สไตล์การกินของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ยังคงอร่อยกับการทาน อาหารมัน ทอด ปิ้งย่าง บุฟเฟต์ รวมถึงการทานไม่เป็นเวลา รู้หรือไม่ว่ากำลังเพิ่มความเสี่ยงโรคร้ายเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนวัยทำงานและคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อย คือ คนส่วนใหญ่เชื่อว่า ต้องมีอาการก่อนถึงจะส่องกล้อง ทั้งที่ในความจริง การส่องกล้องเป็นการตรวจเชิงรุกเพื่อคัดกรองและวินิจฉัยโรคร้ายแรงได้ตั้งแต่ระยะแรก และด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน การตรวจ "ไม่เจ็บ ไม่ทรมาน และปลอดภัยกว่าที่คิดมาก"
พญ. อิสรีย์ เล้าเปี่ยมทอง ศัลยแพทย์ชำนาญการ ด้านส่องกล้องทางเดินอาหาร ทางเดินน้ำดี ตับและตับอ่อน โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า "หลายคนยังเข้าใจผิดว่าการส่องกล้องคือวิธีรักษาเมื่อป่วยแล้ว ทั้งที่จริงการส่องกล้องมีไว้เพื่อคัดกรองและป้องกัน โดยช่วยให้เราตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะแรก ก่อนพัฒนาเป็นโรครุนแรงในอนาคต"
ป้องกันก่อนป่วย "ส่องกล้องวันนี้…ลดความเสี่ยงโรควันหน้า"
มะเร็งลำไส้ใหญ่ ยังคงเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในคนไทย และเป็นภัยเงียบที่มักตรวจพบ รอให้มีอาการค่อยตัดสินใจตรวจ ระยะของโรคอาจจะต้องทำการผ่าตัดหรืออาจจะไม่สามารถผ่าตัดได้แล้ว ถึงอย่างไรก็ยังเป็นมะเร็งที่สามารถป้องกันได้มากที่สุดหากตรวจพบตั้งแต่เริ่มต้น เพราะก่อนจะพัฒนาเป็นมะเร็ง มักเกิดจาก ติ่งเนื้อเล็ก ๆ ที่สามารถตัดออกได้ทันทีระหว่างการส่องกล้อง
"ข้อดีของการส่องกล้องเพื่อป้องกัน คือไม่ใช่แค่การส่องเพื่อวินิจฉัย แต่สามารถรักษาได้เลยในคราวเดียว เช่น สามารถช่วยตัดติ่งเนื้อที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งออกได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เปรียบเหมือนการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม และอยากแนะนำให้ประชาชนเริ่มตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไป หรือเร็วกว่านั้นหากมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่" พญ. อิสรีย์ เล้าเปี่ยมทอง กล่าวไว้
ภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม "ตับอ่อน-ท่อน้ำดี"
นอกจากโรคทางเดินอาหารส่วนบนและลำไส้แล้ว ปัจจุบันแพทย์พบผู้ป่วยโรค ตับอ่อนและท่อน้ำดี เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในคนวัยทำงานและคนอายุน้อยลงเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นโรคที่อันตราย เพราะมักไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก และมักตรวจพบเมื่อระยะของโรคดำเนินไปมากแล้ว
โดยโรคที่พบบ่อย ได้แก่
- นิ่วอุดตันในท่อน้ำดีมักมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ร่วมกับการปวดท้องใต้ชายโครงขวาอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ หนาวสั่น
- ตับอ่อนอักเสบมักมีการปวดท้องอย่างรุนแรง อาการปวดจะเริ่มจากใต้ลิ้นปี่ปวดร้าวทะลุหลัง คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ หากรุนแรงอาจมีภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่นถุงน้ำหรือมีเนื้อตายรอบๆตับอ่อน สัมพันธ์กับการดื่มแอลกอฮอล์สะสมเป็นระยะเวลานาน
- มะเร็งตับอ่อนเป็นโรคที่วินิจฉัยยาก เนื่องจากในระยะแรกอาจยังไม่แสดงอาการผิดปกติชัดเจน อาจพบมีเพียงอาการอืดจุกแน่นเหมือนอาหารไม่ย่อย ต่อมาเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม และถ่ายอุจจาระสีซีดลงเหมือนดินเหนียว เนื่องจากน้ำดีไม่สามารถระบายออกได้แล้ว บางรายหากรอยโรคของตับอ่อนอยู่ใกล้บริเวณณท่อนน้ำดี มักตรวจพบได้เร็วเนื่องจากจะมาด้วยอาการตัวเหลืองตาเหลืองมากขึ้นเรื่อยๆ
พญ. อิสรีย์ เล้าเปี่ยมทอง กล่าวเพิ่มเติมว่า "โรคท่อน้ำดีและตับอ่อนเป็นโรคที่เราควรให้ความสำคัญ เพราะอาจรุนแรงและเกิดภาวะแทรกซ้อนได้หากพบช้า หลายครั้งผู้ป่วยคิดว่าเป็นแค่อาหารไม่ย่อยหรือกระเพาะอักเสบ จึงมาพบแพทย์ช้าเกินไป ทำให้เกิดเป็นระยะลุกลามแล้ว"
เทคโนโลยี EUS และ ERCP ตรวจละเอียดและรักษาได้ตรงจุด
ด้วยความก้าวหน้าของการแพทย์ ทำให้ปัจจุบัน การตรวจส่องกล้องขั้นสูง สามารถตรวจความผิดปกติของ ท่อน้ำดี-ตับอ่อน ได้อย่างแม่นยำ ตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล คือ
1.EUS (Endoscopic Ultrasound)
- เป็นการส่องกล้องร่วมกับอัลตราซาวนด์ภายใน ช่วยให้เห็นโครงสร้างละเอียดของทางเดินอาหาร ท่อน้ำดี และตับอ่อนได้ชัดเจนกว่าการตรวจแบบทั่วไป โดยมีแค่เพียงความหนาของผนังทางเดินอาหารที่คั่นระหว่างตัวกล้อง ถ้าเทียบกับการทำอัลตร้าซาวด์ทั่วไปที่ต้องผ่านชั้นผิวหนัง ชั้นไขมัน และกล้ามเนื้อ รวมถึงไขมันในช่องท้องก่อนจะถึงอวัยวะในช่องท้อง ดังนั้น การตรวจ EUS จึงให้ภาพที่ชัดเจน เห็นรายละเอียดที่ดีมากขึ้น
- สามารถตรวจพบรอยโรคขนาดเล็กที่ CT Scan หรือ MRI ไม่สามารถตรวจพบได้
- ไม่เพียงแค่การตรวจวินิจฉัย เช่น หากตรวจพบก้อนเนื้อ EUS สามารถเจาะเอาชิ้นเนื้อ (EUS guided tissue acquisition : Aspiration or biopsy) บริวณนั้นๆออกมาตรวจ โดยใช้เข็มขนาดเล็ก (Fine Needle) เพื่อวางแผนการรักษาต่อไปได้อีกด้วย
2.ERCP (Endoscopic Retrograde Cholangiopancreatography)
- เป็นการส่องกล้องเพื่อรักษาในกรณีท่อน้ำดีตับหรือท่อตับอ่อนอุดตัน เช่น นิ่วหรือก้อนหรือก้อนเนื้อ
- ในกรณีที่เป็นิน่วในท่อน้ำดี จะมีอุปกรณ์ลากนิ่ว (balloon or Basket) นำก้อนนิ่วออกได้ทันที
- หากท่อน้ำดีตับหรือตับอ่อนอุดตันจากเนื้องอก ก็สามารถใส่ท่อระบายน้ำดี ชนิดพลาสติก (ชั่วคราว เหมาะสำหรับตนไข้ที่มีแผนผ่าตัดต่อไป) หรือท่อชนิดโลหะ เพื่อวางแผนการให้ยาเคมีบำบัดต่อไป
- โดยปัจจุบันเป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากไม่มีแผลผ่าตัด ฟื้นตัวเร็วกว่า เจ็บน้อยกว่า เสียเลือดน้อย และนอนโรงพยาบาลสั้นกว่า
ส่องกล้องยุคใหม่ หลับสบาย-ไม่เจ็บ-รู้ผลไว
ภาพจำของการส่องกล้องที่น่ากลัว ไม่สบายตัว หรือเจ็บขณะตรวจ ไม่ใช่ความจริงในปัจจุบันอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีเครื่องมือรุ่นใหม่และการดูแลของทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีมาตรฐานสากล สิ่งที่เปลี่ยนไปในวันนี้ ได้แก่
- กล้องมีขนาดเล็กลงและยืดหยุ่นมากขึ้น
- ให้ยานอนหลับอย่างปลอดภัย ผู้ป่วยหลับสบายระหว่างตรวจ
- ภาพคมชัดระดับสูง ทำให้ตรวจพบจุดผิดปกติแม้จะมีขนาดเล็กมาก
"คนไข้ส่วนใหญ่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดตัวขณะส่องกล้อง ตื่นขึ้นมาก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว และทราบผลได้ทันที ซึ่งในวิธีการเราจะมีการพ่นยาชาให้ที่คอ และให้ยาเพื่อให้รู้สึกเหมือนหลับ แต่ไม่ถึงขั้นหลับลึก เพื่อให้การสอดกล้องง่ายขึ้น เนื่องจากการที่เราจะใส่อุปกรณ์แปลกปลอมเข้าไปในตัวคนไข้ เราเข้าใจว่าเขาก็อาจจะมีความกังวลด้วย ความหวาดกลัวด้วย แล้วก็ไม่เคยมีประสบการณ์ ซึ่งน้อยคนที่จะให้ความร่วมมือตรงนี้ ฉะนั้นวิธีการแบบนี้ในปัจจุบันจึงมีส่วนช่วยลดความกังวลและความเจ็บปวดลงได้ และใช้เวลาน้อยลงมากจึงไม่ต้องกังวลหรือกลัวเหมือนในอดีต" พญ. อิสรีย์ เล้าเปี่ยมทอง กล่าวเสริมเพื่อขยายความมั่นใจให้ผู้ที่กำลังเกิดวิตกกังวล
ใครควรเริ่มส่องกล้องเชิงป้องกันบ้าง?
- อายุ 45 ปีขึ้นไป แนะนำให้ส่องกล้องตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
- หากมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจจะต้องมาตรวจคัดกรองเร็วขึ้นกว่าคนทั่วไป
- หากมีอาการขับถ่ายผิดปกติ ถ่ายมีเลือดปน เบื่ออาหาร ซีดลง แนะนำให้มาตรวจได้เลย
- ส่วนการตรวจทางเดินอาหารส่วนบน จะตรวจตั้งแต่หลอดอาหาร กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น แนะนำให้มาตรวจหากมีอาการดังนี้ คือ ปวดจุกแน่นท้อง หรือแสบร้อนบริเวณช่องท้องส่วนบนหรือหน้าอก ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาการไม่ย่อยเรื้อรัง อิ่มเร็วหลังรับประทานอาหารเพียงเล็กน้อย คลื่นไส้หรืออาเจียนเรื้อรัง รู้สึกเหมือนอาหารติดอยู่ในลำคอหรือกระดูกหน้าอก อาเจียนเป็นเลือด หรืออาเจียนที่มีลักษณะเหมือนกากกาแฟ อุจจาระสีดำคล้ายยางมะตอย น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร
- การส่องกล้องอัลตร้าซาวด์ แนะนำให้ตรวจในรายที่มีประวัติมเร็งตับอ่อน หรือท่อน้ำดีในครอบครัว หรือมีอาการตับอ่อนอักเสบ
ใส่ใจวันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในวันข้างหน้า
การส่องกล้องทางเดินอาหาร ในปัจจุบันนับว่าเป็นการลงทุนด้านสุขภาพที่คุ้มค่า เพราะการรู้ก่อน ทำให้สามารถป้องกันและรักษาได้ทันเวลา โรงพยาบาลกรุงเทพ เน้นการดูแลด้วยเทคโนโลยีทันสมัยควบคู่กับความใส่ใจในผู้ป่วยทุกขั้นตอน เพื่อให้ทุกคนรู้สึกมั่นใจ ปลอดภัย และได้รับการดูแลแบบองค์รวมตั้งแต่ตรวจวินิจฉัยจนถึงการติดตามรักษา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร. 1719 หรือ www.bangkokhospital.com
Maxim เดินหน้ายกระดับความปลอดภัย: แอปเรียกรถชั้นนำเปิดโครงการอบรมกู้ชีพเบื้องต้นรับเทศกาลท่องเที่ยว
"สารัชถ์ รัตนาวะดี แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2568 รวย 1.89 แสนล้านบาท"
PROUD ผนึก BDMS เชื่อมต่อ Telehealth ดูแลสุขภาพลูกบ้าน 24 ชั่วโมง ย้ำแนวคิด "ALL IS WELL เพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน"
ไทยประกันชีวิต ผนึก โรงพยาบาลกรุงเทพ จัดสัมมนา Health Talk "ดูแลด้วยใจ ห่วงใยด้วยรัก" เสริมภูมิคุ้มกันความรู้โรค NCDs
ธ.ทิสโก้จับมือพันธมิตร ลุยให้ความรู้แผนการเงิน - สุขภาพ " มะเร็งปอด ไม่รู้ตัว ป้องกัน-รักษายังไงให้หายขาด " @นครราชสีมา
เมืองไทยประกันชีวิต ห่วงใย ใส่ใจสุขภาพ สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ จัดกิจกรรมตรวจสุขภาพประจำปี "Smile Morning Check up" ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ (ซ.ศูนย์วิจัย)
เอ็นไอเอเปิดฟอรั่มโอกาสเฮลท์เทคไทย พร้อมเผยผลการจัดอันดับนวัตกรรมโลก 2025
ธ.ทิสโก้ผนึกพันธมิตร จัดสัมมนา "Unlock Long Life" ชวนคิดเรื่องสุขภาพและการเงินในยุคอายุยืน