ข่าวประชาสัมพันธ์เครดิตพินิจ | newswit

ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิต FNS Holdings เป็น B-(tha) เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ – การปรับลดอันดับเครดิตและการนำอันดับเครดิตเข้าสู่เครดิตพินิจเป็นลบของ FNS สะท้อนถึงความเสี่ยงในด้านสภาพคล่องและการกู้ยืมเพื่อใช้ชำระคืนหนี้ (Refinancing) ที่สูง เนื่องจากบริษัทฯ ต้องพึ่งพาการจำหน่ายสินทรัพย์เป็นหลัก ในการชำระคืนหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 นอกจากนี้ความสามารถในการกู้ยืมใหม่เพื่อใช้ชำระคืนหนี้เดิมยังถูกลดทอนลงจากการที่
ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของ บล. ดาโอ (ประเทศไทย)ที่ 'BB+(tha)' ยกเลิก 'เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ' และให้ 'แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ' – การประกาศคงอันดับเครดิตและยกเลิก 'เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ' สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่า การเพิ่มทุนของบริษัทจะช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับความเสียหาย (loss-absorption capacity)
ฟิทช์ประกาศนำอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นตั๋วแลกเงินของ บมจ. เอสโซ่ (ประเทศไทย) เข้าเครดิตพินิจภายใต้การพิจารณา – อันดับเครดิตเข้าเครดิตพินิจภายใต้การพิจารณาสะท้อนความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลง ที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานะเครดิตของEsso ปัจจุบันฟิทช์จัดอันดับเครดิตของ Esso ด้วยวิธี bottom-up ซึ่งได้มีการปรับเพิ่มอันดับเครดิตสามอันดับ จากสถานะเครดิตโดยลำพังของ Esso เพื่อสะท้อนถึงแรงจูงใจของ ExxonMobil ในการให้การสนับสนุนแก่ Esso ในระดับปานกลาง
ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศแก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทของ บล. ดาโอ (ประเทศไทย) ที่ 'BB(tha)' และ 'เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ' – หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวจะมีอายุ 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตฟิทช์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ DAOLSEC ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ DAOLSEC ('BB+(tha)') ซึ่งเป็นอันดับเครดิตอ้างอิง (anchor rating) อยู่ 1 อันดับ
ฟิทช์คงเครดิตพินิจเป็นลบต่อ อันดับเครดิต 'A+(tha)' ของ DTAC – ฟิทช์ได้นำอันดับเครดิตของ DTAC เข้าสู่เครดิตพินิจเป็นลบ (Rating Watch Negative) ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากที่คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติ ให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญาควบรวมกิจการกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ฟิทช์จะพิจารณายกเลิกเครดิตพินิจ หลังจากที่การควบรวมกิจการแล้วเสร็จ ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 1
ฟิทช์ให้ 'เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ' แก่อันดับเครดิตภายในประเทศของ บล. ดาโอ (ประเทศไทย) – DOALSEC เป็น 1 ใน 11 บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อกรมตำรวจ เพื่อให้สอบสวนธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ที่มีความผิดปกติที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ ที่ 'AA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และยกเลิก 'เครดิตพินิจภายใต้การพิจารณา' – ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตการยกเลิกเครดิตพินิจภายใต้การพิจารณา สืบเนื่องจาก บมจ. เอสซีบี เอกซ์ (SCBX; 'BBB'/'AA+(tha)'/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ได้ดำเนินการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ InnovestX จาก ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) (SCB;'BBB' /'AA+(tha)'/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ)
ฟิทช์ประกาศให้เครดิตพินิจเป็นบวกแก่อันดับเครดิตของ JWD InfoLogistics – การประกาศให้เครดิตพินิจเป็นบวก สะท้อนถึงความเห็นของฟิทช์ว่าสถานะเครดิตของ JWD ภายหลังการรวมกิจการ น่าจะมีความแข็งแกร่งขึ้น เครดิตพินิจเป็นบวกจะได้รับการยกเลิกเมื่อเงื่อนไขหลักในการเข้าทำรายการสำเร็จและฟิทช์ได้รับข้อมูลรายละเอียดที่มากขึ้นเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางธุรกิจและประมาณการทางการเงินภายหลังการรวมกิจการภายหลังการรวมกิจการ JWD จะเป็นบริษัทร่วมของ SCC
ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันของ Risland (Thailand) เป็น A(tha) คงเครดิตพินิจเป็นลบ – การปรับลดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ของ RLT เป็นผลมาจากการประกาศปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ CGH  ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าว เป็น BB+ จาก BBB- เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 โดยยังคงเครดิตพินิจเป็นลบแก่อันดับเครดิตทั้งหมดของ CGH ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นในระยะเวลาอันใกล้
ฟิทช์ให้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวกแก่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ บล.โนมูระพัฒนสิน และยกเลิกอันดับเครดิต – พร้อมกันนี้ฟิทช์ได้ยกเลิกอันดบเครดิตภายในประเทศระยะยาวและระยะสั้นของ CNS เนื่องจากเหตุผลทางด้านธุรกิจ (commercial reasons)ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตการให้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวก พิจารณาจากการที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY; 'BBB+'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/'AAA(tha)') ได้ประกาศข้อตกลงที่จะเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 99.1% ใน CNS จาก
ฟิทช์คงเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบบนอันดับเครดิตภายในประเทศของ บริษัท เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) – ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบสะท้อนถึงความไม่แน่นอนในทิศทางการดำเนินธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของโครงสร้างทางการเงินหลังจากการจำหน่ายหุ้นในธุรกิจหลักทรัพย์สองแห่ง ได้แก่หุ้น 29.3% ในบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS (อันดับเครดิตภายในประเทศ BBB+(tha)/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ)
ฟิทช์ประกาศให้เครดิตพินิจเป็นลบแก่อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันของ Risland (Thailand) – การประกาศให้เครดิตพินิจเป็นลบแก่หุ้นกู้ของ RLT เป็นผลมาจากการประกาศให้เครดิตพินิจเป็นลบแก่อันดับเครดิตของ CGH เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ฟิทช์จะยกเลิกเครดิตพินิจเป็นลบของหุ้นกู้มีประกันของ RLT หลังจากที่เครดิตพินิจเป็นลบของอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของ  CGH ได้รับการยกเลิก ทั้งนี้ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีประกันของ RLT
ฟิทช์ให้ 'เครดิตพินิจภายใต้การพิจารณา' แก่อันดับเครดิตภายในประเทศของ บล.ไทยพาณิชย์ที่ 'AA(tha)' – ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตเครดิตพินิจภายใต้การพิจารณา สะท้อนถึงความไม่แน่นอนของผลกระทบต่ออันดับเครดิตจากการปรับโครงสร้างของกลุ่ม ซึ่งจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงของบริษัทแม่ที่เป็นผู้ถือหุ้นโดยตรงของ SCBS จากปัจจุบันคือธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) (SCB; 'BBB'/'AA+(tha)'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) เป็น บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด
ทริสเรทติ้งประกาศคงเครดิตองค์กร
ทริสเรทติ้งประกาศคงเครดิตองค์กร
“CWT” ที่ระดับ “BB+” พร้อมจัดอันดับเครดิตให้เป็น “Stable” หลังปรับแผนชำระหนี้หุ้นกู้ – ด้านนายวีระพล ไชยธีรัตต์ Sep 2020
ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศของ 5 สถาบันการเงินไทยที่ไม่ใช่ธนาคารซึ่งเป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างประเทศ และประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบสำหรับ บล.โนมูระพัฒนสิน – บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGS-CIMB TH คงอันดับเครดิตที่ 'A(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพบริษัทหลักทรัพย์โนมูระพัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS คงอันดับเครดิตที่ 'AA(tha)’; เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch
ฟิทช์ปรับอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ ธ.ทหารไทย เป็น 'BBB-’; เพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุน และยกเลิกเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวก – ฟิทช์ได้ให้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวกแก่อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำและอันดับเครดิตสนับสนุนของ TMB ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2562 หลังจากที่มีการประกาศยืนยันการควบควมกิจการกับ TBANK พร้อมกำหนดช่วงเวลาในการดำเนินการ ทั้งนี้ในส่วนของอันดับเครดิตอื่นของ TMB นั้นไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศอันดับเครดิตในครั้งนี้
ฟิทช์ให้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ หลังจากได้รับอนุมัติให้เสนอขายหุ้นต่อประชาชน (IPO) – ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ สะท้อนถึงโอกาสที่อันดับเครดิตของบริษัทจะได้รับการปรับลดอันดับ เนื่องจากโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนันสนุนแก่ BAM น่าจะปรับตัวลดลงหลังจากการขายหุ้นต่อประชาชน (IPO) ตามแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัท กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (ซึ่งเป็นหน่วยงานของธนาคารแห่งประเทศไทย)
ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ GPSC ที่ 'A+(tha) หลังจากการเข้าซื้อกิจการ GLOW’; นำออกจากเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ – อันดับเครดิต 'A+(tha)' ของ GPSC ได้รวมถึงอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิตโดยลำพัง (Standalone Credit Profile) ที่ 'a(tha)' ฟิทช์ได้ทบทวนความสัมพันธ์ระหว่าง GPSC และบริษัทแม่ ซึ่งได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. (อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ)
ฟิทช์: หนี้สิ้นของ GPSC น่าจะเพิ่มขึ้นอีก; อันดับเครดิตยังคงอยู่ภายใต้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ – ฟิทช์เชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสถานะทางการเงินของ GPSC เนื่องจากแหล่งเงินทุนที่บริษัทจะใช้มาจากการกู้หนี้ อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวจะทำให้สถานะทางธุรกิจ และความสัมพันธ์ด้านการดำเนินงานระหว่าง GPSC และกลุ่ม ปตท. แข็งแกร่งขึ้น โดยทั้ง GPSC และ ไทยออยล์ มีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.
ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตของ บล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เป็น 'A(tha)’/'F1(tha)’ยกเลิกอันดับเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ ให้แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ – ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต การปรับลดอันดับเครดิตสะท้อนถึงการที่ฟิทช์ปรับเปลี่ยนมุมมองสำหรับปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นของ CGS-CIMB TH ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาอันดับเครดิต โดยฟิทช์เชื่อว่าการสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานปรกติ (extraordinary support)
ฟิทช์: อันดับเครดิตของ GPSC ยังคงอยู่ภายใต้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ หลังจากยื่นอุธรณ์ต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน – ฟิทช์กล่าวว่าอันดับเครดิตของ GPSC ยังคงอยู่ภายใต้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ เพื่อรอผลการอุธรณ์ของบริษัท หากบริษัทไม่สามารถชนะการอุธรณ์ผลการตัดสินของ กกพ. ได้ และการเข้าซื้อหุ้นไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ฟิทช์คาดว่าอันดับเครดิตของ GPSC ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าสถานะทางธุรกิจ และสถานะทางการเงินของบริษัท
ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เป็น 'AA-(tha)’ และคงอันดับเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบของ บล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) – การปรับลดอันดับเครดิตเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนมุมมองของฟิทช์ต่อ CIMB Bank Berhad ในประเทศมาเลเซีย เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองของฟิทช์ต่อโครงสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินโดยรวมของบริษัทแม่ CIMB Group Holdings (หรือ CIMB)
ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบของ บล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด – ฟิทช์ได้ให้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่อันดับเครดิตของ CGS-CIMB TH เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 เนื่องจาก CIMB Group ได้ประกาศที่จะขายหุ้นใน CGS-CIMB Securities International Pte. Ltd. (หรือ CGS-CSI) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่เป็นผู้ถือหุ้นโดยตรงของ CGS-CIMB THในสัดส่วน 50% ให้แก่ China Galaxy International Financial Holdings Limited (หรือ CGI)
ฟิทช์ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่ GPSC จากแผนการเข้าซื้อหุ้น GLOW – การประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ เกิดขึ้นเนื่องจาก GPSC ได้ประกาศที่จะเข้าซื้อหุ้นของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW ในสัดส่วนร้อยละ 69.11ของหุ้นทั้งหมดของ GLOW และทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 141.2 พันล้านบาท โดยในช่วงแรกบริษัทจะใช้เงินกู้ระยะสั้นจำนวน 142.5 พันล้านบาท ในการเข้าซื้อกิจการ
ทริสเรทติ้งคง “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วน “บ. กรุ๊ปลีส” – บริษัทกรุ๊ปลีสได้พักการชำระดอกเบี้ยของหุ้นกู้แปลงสภาพซึ่งถือโดย JTA แล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกมีมูลค่า 3.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีกำหนดชำระวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 และครั้งที่ 2 มีมูลค่า 1.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีกำหนดชำระวันที่ 20 มีนาคม 2561
ฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับเครดิต TREIT เป็น A(tha) และนำออกจากเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวก – การนำออกจากเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวก ซึ่งได้ประกาศไว้เมื่อเดือนตุลาคม 2560 เป็นผลจากการแปลงสภาพของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการสนับสนุนสินทรัพย์หลักจากกลุ่มไทคอน ซึ่งได้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทคอน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท มาเข้ากองทรัสต์ TREIT
ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตของ บล. ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เป็น 'AA-(tha)’ และให้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ และประกาศคงอันดับเครดิตของสถาบันการเงินไทย 3 แห่งที่เป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างชาติ – พร้อมกันนี้ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของสถาบันการเงินไทยที่เป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างชาติ ดังนี้ ธนาคารยูโอบี (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBT ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์
ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิต บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ เป็น 'BBB-/AA(tha); นำออกจากเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ – การปรับลดอันดับเครดิตของ ThaiBev ลงหนึ่งอันดับเป็นผลมาจากการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหุ้นสามัญของ Saigon Beer - Alcohol - Beverage Joint Stock Corporation ("Sabeco") เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2560 ฟิทช์คาดว่า อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินของ ThaiBev
ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิต BTS เป็น A-(tha); นำออกจากเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ; แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ – การปรับลดอันดับเครดิตสะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่า สถานะทางการเงินของ BTS Group น่าจะอ่อนแอลงในช่วงสามถึงห้าปีข้างหน้า จากการกู้ยืมเพื่อลงทุนในโครงการรถไฟฟ้ากรุงเทพมหานครสายสีชมพูและสีเหลือง เงินชำระค่าหุ้นในโครงการดังกล่าวของ BTS Group จำนวน 2.16 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินกู้ยืมเป็นส่วนใหญ่
ฟิทช์ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่ บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ จากแผนการเข้าซื้อหุ้น Sabeco – ThaiBev ผ่าน บริษัท เวียดนาม เบฟเวอเรจ จำกัด ซึ่ง ThaiBev ถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 49 เป็นผู้ชนะการประมูลซื้อหุ้นสามัญของ Sabeco โดยใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 110 ล้านล้านดองเวียดนาม หรือประมาณ 1.56 แสนล้านบาท ซึ่งต้องชำระภายในวันที่ 28 ธันวาคม 2560 โดยมีแหล่งเงินทุนมาจากการเพิ่มทุนและเงินให้กู้ยืมจาก ThaiBev ซึ่ง ThaiBev