กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 35.40-36.00 รอตีความสัญญาณเฟด – สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี คาดการรณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย.โดยตลาดจะให้ความสนใจกับรายงานสรุปการคาดการณ์เศรษฐกิจ(SEP) และดอกเบี้ย(Dot Plot)ฉบับล่าสุด นอกจากนี้ คาดว่าธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี)จะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยสู่ 5.50% และอาจเป็นครั้งสุดท้าย
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.50-34.20 ผันผวนตามสูตรจัดตั้งรัฐบาล – สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ระบุว่า นักลงทุนจะติดตามยอดค้าปลีกของสหรัฐฯและข้อมูลเศรษฐกิจจีน ความคืบหน้าประเด็นการเพิ่มเพดานหนี้ซึ่งเราคาดว่าทางการสหรัฐฯอาจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขยายเวลาออกไปราว 3-4 เดือน รวมถึง สุนทรพจน์ประธานเฟดช่วงท้ายสัปดาห์ ในเวลาเดียวกัน แรงส่งของการเติบโตทางเศรษฐกิจนอกสหรัฐฯกำลังมีสัญญาณแผ่วลง
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.65-34.35 ลุ้นเงินเฟ้อและเพดานหนี้สหรัฐฯ – สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ระบุว่า ตลาดจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) วันที่ 11 พ.ค. ซึ่งมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ย 25bp สู่ระดับ 4.50% นอกจากนี้ ปธน.สหรัฐฯจะประชุมกับผู้นำสภาคองเกรสในวันที่ 9
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.85-34.65 มองกนง.ขึ้นดอกเบี้ยแต่อาจเสียงแตก – สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับข้อมูลค่าใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจการเงินหลังความเชื่อมั่นสั่นคลอน ขณะที่ความกังวลเรื่องภาคธนาคารของสหรัฐฯและยุโรปจะยังคงสร้างความผันผวนให้กับราคาสินทรัพย์ต่างๆ
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.75-34.60 ลุ้นประชุมเฟด – สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)วันที่ 21-22 มี.ค.จะเป็นจุดสนใจหลักของตลาดโลก โดยเราคาดว่ายังมีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bp สู่ 4.75-5.00% ในรอบนี้ แต่การสื่อสารของเฟดอาจบ่งชี้ว่าวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นกำลังใกล้สิ้นสุดลง
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 34.30-35.00 จังหวะที่ยากขึ้นสำหรับเฟด – สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะติดตามดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)ซึ่งคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 50bp สู่ระดับ 3.00% อนึ่ง ในภาพใหญ่การสั่งปิด Silicon Valley Bank
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 34.35-35.00 จับตาประธานเฟดแถลง ข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ – สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า จุดสนใจของตลาดจะอยู่ที่ถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)และข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐฯซึ่งจะส่งผลต่อการประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟดต่อไป นอกจากนี้ จะมีการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของผู้ว่าการคนปัจจุบัน
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 34.65-35.30 ลุ้นเงินไหลออกชะลอ – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะติดตามการเปิดเผยดัชนี ISM ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ.ของสหรัฐฯเพื่อประเมินว่าจะมีสัญญาณชะลอตัวลงบ้างหรือไม่ หลังจากข้อมูลเดือนม.ค.แข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญส่งผลให้สัญญาล่วงหน้าสะท้อนไปแล้วว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 25bps อีกอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.50-34.20 ลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐฯ – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.50-34.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ตลาดจะติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ โดยค่าเงินดอลลาร์จะได้แรงหนุนต่อเนื่องหากเงินเฟ้อสูงเกินคาด แต่กรณีที่ตัวเลขต่ำกว่าหรือใกล้เคียงกับที่นักลงทุนคาดไว้การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์อาจเป็นไปอย่างจำกัด นอกจากนี้
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.20-33.80 ดอลลาร์ฟื้นตัวชั่วคราว – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับกระแสข่าวการเสนอชื่อผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)คนใหม่ รวมถึงความเห็นของประธานเฟดที่ Economic Club of Washington, D.C. โดยหลังการประชุม FOMC รอบล่าสุดประธานเฟดแสดงท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้โดยกล่าวว่าแรงกดดันเงินเฟ้อเริ่มลดลงแล้วและไม่กังวลกับภาวะการเงินที่ผ่อนคลายลง
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.50-33.25 ลุ้นสัญญาณจากเฟด – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า จุดสนใจของตลาดโลกจะอยู่ที่การประชุมเฟดวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. ซึ่งคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 25bp สู่ 4.50-4.75% ปฏิกิริยาของนักลงทุนจะขึ้นอยู่กับการสื่อสารของเฟดเกี่ยวกับทิศทางนโยบายระยะถัดไป โดยการร่วงลงของดอลลาร์และ Financial Conditions ที่ผ่อนคลายในช่วงกว่า 3
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.40-33.10 มองกนง.ขึ้นดอกเบี้ยสู่ 1.5% – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะติดตามข้อมูลการใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลเดือนธ.ค.ของสหรัฐฯซึ่งคาดว่าจะบ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง โดยเงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลงต่อเนื่องขณะที่ตลาดมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 25bp ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. และวัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ยใกล้จะยุติลง
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.10-33.90 เงินไหลเข้าดันบาทแข็งค่านำภูมิภาค – เมื่อวันที่ 13-14 ธ.ค.ระบุว่าผู้กำหนดนโยบายทั้งหมดในที่ประชุมเห็นตรงกันว่าควรชะลอการขึ้นดอกเบี้ยแบบเชิงรุก แต่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อผิดๆในตลาดการเงินที่ว่าความมุ่งมั่นของเฟดต่อการควบคุมเงินเฟ้อกำลังแผ่วลง โดยในภาพรวมกรรมการส่วนใหญ่เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องรักษาความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบาย อย่างไรก็ดี
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 34.10-34.75 ลุ้นตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะติดตามข้อมูลภาคการผลิต ภาคบริการ การจ้างงานเดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ และรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 13-14 ธ.ค. ของเฟดเพื่อประเมินทิศทางภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 34.55-35.30 จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ และผลการประชุมเฟด – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะติดตามดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของสหรัฐฯและผลการประชุมดอกเบี้ยเฟดในวันที่ 13-14 ธ.ค.ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 50bp สู่ 4.25-4.50% โดยนักลงทุนจะให้ความสนใจกับประมาณการดอกเบี้ย(dot plot) และแนวโน้มเศรษฐกิจรวมถึงเงินเฟ้อฉบับล่าสุดของเจ้าหน้าที่เฟด นอกจากนี้
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 34.55-35.30 อาจพักตัวชั่วคราว – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า เงินดอลลาร์อาจฟื้นตัวหลังจากอ่อนค่าลงมาเร็ว โดยในระยะสั้นราคาได้สะท้อนการคาดการณ์นโยบายเฟดและการทยอยคลายความเข้มงวดของมาตรการปลอดโควิดของจีนไปมากพอสมควรแล้ว อีกทั้งการเติบโตของค่าจ้างและภาคบริการสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง อนึ่ง
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 35.60-36.35 จับตาประธานเฟด – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะติดตามความเห็นประธานเฟด รวมถึงข้อมูลค่าใช้จ่ายผู้บริโภคและการจ้างงานของสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางการดำเนินนโยบายของเฟดต่อไป โดยเราคาดว่าประธานเฟดจะยังคงสื่อสารว่าเฟดให้น้ำหนักต่อการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อสูงเป็นอันดับแรกและพยายามลดการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 2566
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 35.75-36.50 ฟันด์โฟลว์ผันผวน – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับรายงานประชุมเฟดเมื่อวันที่ 1-2 พ.ย. ก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าซึ่งปริมาณธุรกรรมอาจซึมลง ทางด้านอังกฤษประกาศแผนงบประมาณขนาด 5.5 หมื่นล้านปอนด์ต่อปีเพื่อแก้ไขสถานะทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ โดยแผนดังกล่าวรวมถึงการปรับขึ้นภาษีและการปรับลดงบรายจ่ายของรัฐบาลในอนาคต อนึ่ง
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 37.10-37.95 ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับการเลือกตั้งกลางเทอมและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค.ของสหรัฐฯ รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลังตัวเลขการจ้างงานออกมาในเชิงผสม โดยเรามองว่าค่าเงินดอลลาร์จะแกว่งตัวผกผันไปกับบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์มากกว่าการปรับตัวของบอนด์ยิลด์ในระยะนี้
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 37.60-38.40 ลุ้นประชุมเฟด – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า เหตุการณ์สำคัญจะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)วันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 75bp เป็นครั้งที่สี่ติดต่อกันสู่ระดับ 3.75-4.00% นักลงทุนจะจับตาท่าทีของเฟดเพื่อประเมินความแข็งกร้าวในการขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค.
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 37.80-38.50 จับตาอีซีบี ค่าใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ – สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่านักลงทุนจะติดตามข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3 และค่าใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นบททดสอบความหวังของตลาดอีกครั้งว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างดุดันต่อไปอีกหลายรอบการประชุมหรือไม่ โดยนักลงทุนมั่นใจว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2