นิธิภัทรทำกำไรสุทธิรอบ 9 เดือนสูงถึง 267 ล้านบาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพ--21 ต.ค.--นิธิภัทร นายณรงค์ ปัทมะเสวี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเงินทุน นิธิภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการทำงานในรอบ 9 เดือน ของบริษัทเงินทุนและบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งถือหุ้นโดยบริษัทเงินทุน มีกำไรสุทธิ 267 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2538 แล้ว กำไรสุทธิ ลดลง 13% เนื่องจากภาวะตลาดซบเซา โดยมีผลจากการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ดังนี้ รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลเพิ่มขึ้น 68% จากปี 2538 เนื่องจากการขยายตัว ของสินเชื่อ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 14,699 ล้านบาท ในปีก่อนเป็น 23,226 ล้านบาท ในปี 2539 หรือเพิ่มขึ้น 58% และโครงสร้างสินเชื่อจะประกอบด้วย 3 กลุ่มใหญ่ คือ สินเชื่อ เคหะ สินเชื่อโครงการ สินเชื่อโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคและสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ เช่นเดียวกับปีก่อน รายได้ค่านายหน้าลดลงจากปีก่อน 35% เนื่องจากภาวะที่ซบเซาของตลาด หลักทรัพย์ ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมบริการด้านวาณิชธนกิจ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2538 จาก 47 ล้านบาท เป็น 52 ล้านบาท ในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 10% แม้ว่าจะอยู่ในช่วงภาวะ ตลาดซบเซา แต่ยังสามารถเพิ่มรายได้ในด้านนี้ ด้านค่าใช้จ่าย บริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้เนื่อง จากการขยายตัวของบริษัท การเพิ่มบุคลากรด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับการแยก บง.-บล. ซึ่ง บริษัทได้แยกธุรกิจเงินทุน และหลักทรัพย์ออกจากกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อต้นเดือนสิงหา คมที่ผ่านมา รวมทั้งการตั้งสำรองโบนัสพนักงาน ซึ่งไม่มีการตั้งสำรองในปี 2538 สินทรัพย์รวมของบริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์รวมกันขยายตัวเพิ่ม 55% จาก 18,825 ล้านบาท เป็น 29,274 ล้านบาท ณ กันยายน 2539 จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ ดังที่ได้กล่าวข้างต้น ทำให้บริษัทตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจากเดิม เพื่อให้เป็นไป ตามนโยบายการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญของบริษัทซึ่งเคยปฏิบัติมาโดยตลอด คือ อัตรา ส่วนสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินกู้ยืมประมาณ 0.5% ของเงินกู้ยืม แม้ว่าจากการประเมิน ลูกหนี้บริษัทยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นในจำนวนดังกล่าวก็ตาม--จบ--

ข่าวบริษัทหลักทรัพย์+เงินทุน นิธิภัทรวันนี้

บลจ. ไทยพาณิชย์ เปิดตัว SCBROYALTY ลงทุนสินทรัพย์ Royalties กองทุนแรกในเอเชียแปซิฟิก ชูโอกาสสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ไม่ผันผวนตามตลาดทุน เสนอขายครั้งแรก 15 ก.ย. 68 - 24 ก.ย. 68

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัย ทั้งจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้สภาวะตลาดทุนทั่วโลกผันผวนและกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างหุ้นและตราสารหนี้ ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายความเสี่ยง

บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์น... "โกลเบล็ก" แนะช้อปหุ้นรับอานิสงส์โครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ — บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Sideway Up มองดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,270-1,320 จุด...

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำ... เมย์แบงก์ ผนึกสมาคมนักลงทุนประเทศไทยชวนเจาะลึกโอกาสการลงทุน ท่ามกลางศึกยักษ์ใหญ่จีน-สหรัฐ — บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสม...

บริษัทหลักทรัพย์ เคพีเอ็ม จำกัด ในฐานะผู้... บล.เคพีเอ็ม เผย RML ปิดจองหุ้นกู้ตามเป้ายอดจองล้น — บริษัทหลักทรัพย์ เคพีเอ็ม จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ของ บริษัท ไรมอน ...

นายสุรศักดิ์ บุณยะชัย ประธานเจ้าหน้าที่บร... บล.เคพีเอ็ม ปลื้มหุ้นกู้ STELLA จองล้น - พร้อมชำระหนี้หุ้นกู้เดือนกันยายน — นายสุรศักดิ์ บุณยะชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคพีเอ็ม จำกัด ...