กรุงเทพ--29 เม.ย.--กรมการศึกษานอกโรงเรียน
นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อธิบดีกรมการศึกษานอกโรงเรียน นายชาติชาตรี โยสีดา รองอธิบดีกรมการศึกษานอกโรงเรียน และ ดร.บุญเลิศ มาแสง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้เดินทางไปร่วมอบรมชี้แจงการศึกษานอกโรงเรียนสายสามัญแนวใหม่แก่ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดำเนินงานในภาคต่าง ๆ ภาคเหนือ 28-31 มีนาคม ณ โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ จ.เชียงใหม่ ภาคกลาง 27-30 มีนาคม ณ โรงแรมมาร์คแลนด์ จ.ชลบุรี ภาคใต้ 2-5 เมษายน ณ โรงแรมรีเจนซี่ จ.สงขลา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3-5 เมษายน ณ โรงแรมร้อยเอ็ดธานี จ.ร้อยเอ็ด ภาคตะวันออก และ กรุงเทพมหานคร 1-4 เมษายน ณ โรงแรมบางแสนบีช จ.ชลบุรี
ในการปรับหลักสูตรการศึกษาสายสามัญในครั้งนี้ ได้ดำเนินการสนองนโยบายปฏิรูปการศึกษา โดยการปรับปรุงหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนให้ได้มาตราฐาน มีคุณภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพของการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายให้ได้มาตราฐานที่จะต่อยอดการศึกษาต่อไปถึงขั้นอุดมศึกษาให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคโลการภิวัฒน์
อธิบดี กศน. กล่าวว่า การศึกษานอกโรงเรียนแผนใหม่จะมีทางเลือก 3 แนวทาง ได้แก่ แผน ก. แผนเพื่อการศึกษาต่อ แผน ข. แผนพัฒนาอาชีพ และแผน ค. แผนพัฒนาคุณภาพชีวิต จะเริ่มใช้ในภาคที่ 1 ปี การศึกษา 2540 นี้ ในการอบรมผู้บริหารทั้ง 5 ภาค ตนได้มอบแนวคิดในการดำเนินงานไว้ว่าให้ทุก ศบอ. สำรวจจำนวนประชากร เพื่อวางแผนพร้อมหาวิธีการเชิญชวนให้ประชาชนมาเรียนกับกศน.อย่างน้อยระดับ ม.ปลาย ให้ดำเนินการรับสมัครนักศึกษาอย่างต่อเนื่องที่ศูนย์การเรียนไม่จำกัดเวลา
นอกจากนี้ อธิบดี กศน. ได้กล่าวย้ำให้หัวหน้า ศบอ. หาวิธีการให้บริการเข้าถึงพื้นที่ให้มากที่สุด เน้นคุณภาพให้อย่างน้อยต้องมีพื้นความรู้ในการคิดเลขเป็นและใช้ภาษาไทยอย่างง่าย ๆ ได้ ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่จะจัดให้มีการแนะแนวเพื่อเลือกแผนการศึกษาตามความเหมาะสมและความสนใจของนักศึกษา ซึ่งจะต่างจากวิธีการเดิม การเรียนการสอนเน้นให้เข้มข้นขึ้นโดยจะจัดสอนเสริมในวิชาหลัก มีการทำโครงงาน และเน้นการทำงาน โดยปฏิบัติจริง พร้อมจะมีการนิเทศติดตามผลการพบกลุ่มเป็นระยะ ๆ อย่างสม่ำเสมอ
ท้ายที่สุด ได้ฝากให้ผู้บริหาร กศน. ทำงานด้วยกันเป็นทีมตามแนวนอน ให้บริหารงานแบบ Reenginering ใช้คนน้อยได้ผลงานมาก และใช้เงินน้อยโดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงาน มีการยืดหยุ่นและเลื่อนไหล ทำงานเป็น project ทีม ตนเชื่อมั่นในศักยภาพของทุก ศบอ. ว่าจะสามารถพัฒนางาน กศน. สายสามัญ ให้มีพัฒนาสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ.2540-2544) ที่มุ่งให้การศึกษาไทยเป็นเสิศให้ได้ภายในปี 2550--จบ--