กรุงเทพ--18 ก.ย.--กรมสุขภาพจิต
กรมสุขภาพจิต กำหนดวิสัยทัศน์สู่ความเป็นเลิศในเอเชีย เน้นงานด้านการส่งเสริม และป้องกันปัญหาสุขภาพจิต ในขณะที่การขาดแคลนจิตแพทย์เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข พร้อมไปกับการพัฒนากฎหมายสุขภาพจิต
18 ตุลาคม 2540 คณะกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา นำโดย ศ.นพ.ประสพ รัตนากร ประธานคณะกรรมาธิการ เดินทางตรวจเยี่ยมและศึกษาข้อมูลสาธารณสุขด้านงานสุขภาพจิต ในโอกาสนี้ นายแพทย์ปรีชา อินโท อธิบดีกรมสุขภาพจิต แถลงถึง การดำเนินงานของกรมสุขภาพจิต ในปี 2540 ว่าได้มุ่งพัฒนาสุขภาพจิตของประชาชน ทั้งในด้านการส่งเสริมสุขภาพจิต ป้องกันปัญหาสุขภาพจิต การรักษาพยาบาลผู้ป่วยจิตเวช รวมทั้งการฟื้นฟูสมรรถภาพทางจิต โดยเน้นการส่งเสริม ป้องกันปัญหาเป็นหลัก มีการเปิดและกระจายบริการสุขภาพจิตที่สอดคล้องกับกระแสความต้องการของประชาชน อาทิ การกระจายคลีนิคคลายเครียดจากโรงพยาบาลจิตเวช สู่โรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป ซึ่งขณะนี้มีการจัดตั้งแล้ว 85 แห่งทั่วประเทศ จัดบริการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ในโรงพยาบาลจิตเวช 14 แห่ง ครอบคลุมในทุกภาค ดำเนินการนำร่องโครงการโรงเรียนพ่อแม่ใน 10 จังหวัด รวมทั้งการพัฒนาเยาวชนในเรื่องทักษะชีวิต เป็นต้น และเพื่อความสำเร็จของงาน กรมฯ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า ภายในปี พ.ศ. 2550 กรมสุขภาพจิต จะเป็นผู้นำการพัฒนางานสุขภาพจิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เป็นสุข ทั้งนี้จำเป็นต้องอาศัยการผลักดันด้านการเมือง รวมทั้งความร่วมมือจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัญหาที่กรมต้องประสานเพื่อการแก้ไขโดยเร่งด่วน คือ ปัญหาการขาดแคลนจิตแพทย์ และการพัฒนากฎหมายสุขภาพจิต
นอกจากนี้ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการดูแลสุขภาพจิตคนไทยในวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นโครงการเพื่อการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตที่กรมให้ความสำคัญยิ่งในขณะนี้ว่า ในส่วนขั้นตอนได้ดำเนินงานไปเกือบครบถ้วนแล้ว ยังเหลือแต่การติดตาม และพัฒนางานซึ่งจะทำต่อเนื่องไป เช่น การให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชน การเฝ้าระวังปัญหา และการให้บริการสุขภาพจิตในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมา กรมได้รับความร่วมมือที่ดียิ่งจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นองค์กรทางธุรกิจ สื่อมวลชน องค์กรศาสนา และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เหล่านี้สะท้อนถึงความรักสามัคคี และพร้อมร่วมแรง ร่วมใจของคนไทยเมื่อเกิดภาวะวิกฤต--จบ--