รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ให้นโยบายในการให้ความช่วยเหลือด้านดินและน้ำแก่เกษตรกรภาคตะวันออก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพ--26 ส.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายประวัฒน์ อุตตะโมต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปตรวจงานโครงการอนุรักษ์ดินและน้ำภาคตะวันออก ที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ภาคตะวันออก ประกอบด้วยพื้นที่ 6 จังหวัด คือ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด มีพื้นที่ทั้งหมด 21.5 ล้านไร่ ลักษณะภูมิประเทศ เป็นลูกคลื่นลอนลาด ดินมีปัญหาทางการเกษตร มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ และมีการชะล้างพังทลายของดินอย่างรุนแรง เนื่องจากการใช้ดินไม่เหมาะสม และไม่ระมัดระวังทำให้ดินเสื่อมโทรม และมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้จัดทำโครงการอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อหารูปแบบและวิธีการอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสม เพื่อถ่ายทอดให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาที่ดินและเกษตรกร โดยได้รับความร่วมมือทางวิชาการจากรัฐบาลญุี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2530 เริ่มตั้งแต่ รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือในการศึกษาความเป็นไปได้ และจัดทำแผนแม่บทระยะเวลา 14 เดือน (2530-2531) แล้ว ลงนามความร่วมมือในรูปการให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าในปี 2534 จำนวน 320 ล้านเยน (64 ล้านบาท) ในการจัดซื้อเครื่องจักรกล นอกจากนั้น ยังลงนามความร่วมมือทางวิชาการภายใต้โครงการอนุรักษ์ดินและน้ำภาคตะวันอออกในปี 2536 สำหรับการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร สถานีพัฒนาที่ดินเขต 2 ได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์ดินและน้ำ การป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน ปรับปรุงและปรับรูปสภาพดินที่มีปัญหา หรือไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้ประโยชน์ การสาธิตอบรม แนะนำ และเผยแพร่เกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรที่ดิน โครงการดินและปุ๋ย การอนุรักษ์ดินและน้ำ การปรับปรุงดินด้วยอินทรีย์วัตถุ และการพัฒนาดินเปรี้ยว เป็นต้น นายประวัฒน์ อุตตะโมต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ภาคตะวันออก มีปัญหารุนแรงเกี่ยวกับเรื่องการชะล้างพังทะลายของดิน ทำให้หน้าดินถูกชะล้างไปถึงประมาณ 10 ตัน/ไร่/ปี อาหารของพืชก็จะหมดไปด้วย ประกอบกับเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงด้วย จึงทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนมาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือทั้งในด้านการจัดทำฝนเทียม จัดรถบรรทุกน้ำ ขุดลอกแหล่งน้ำธรรมชาติ พร้อมทั้งได้เร่งรัดให้กรมพัฒนาที่ดินจัดขุดบ่อน้ำในไร่นาของเกษตรกร แต่เนื่องจากงบประมาณได้ถูกตัดลง จึงทำให้ไม่สามารถขุดบ่อน้ำได้ครบตามจำนวนที่เกษตรกรต้องการ พร้อมกันนี้ให้กรมพัฒนาที่ดินจัดอบรมหมอดินอาสา เพื่อไปช่วยเหลือในการให้ความรู้แก่เกษตรกรอย่างทั่วถึง สำหรับการเพาะปลูกของเกษตรกรก็สนับสนุนให้ทำการเกษตรแบบผสมผสานตามทฤษฎีแนวใหม่ตามแนวทางพระราชดำริ ลดพื้นที่การปลูกมันสำปะหลัง จัดทำโซนนิ่งว่าพื้นที่ไหนควรทำการเกษตร พื้นที่ไหนควรทำเป็นเขตอุตสาหกรรม รวมทั้งให้เกษตรกรมีการจดทะเบียนการปลูกพืชต่าง ๆ มีการรวบรวมกลุ่มในรูปสหกรณ์ เพื่อให้การช่วยเหลือของทางราชการเข้าไปอย่างทั่วถึงต่อไป--จบ--

ข่าวการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์+กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้

"รมช.อัครา" ลุยพะเยาต่อเนื่อง! มอบนโยบายจัดทำการเกษตรแบบเป็นระบบ

แนะเกษตรกรผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียนเกษตรกรรอมาตรการช่วยเหลือไร่ละ 1,400 บาท พร้อมเตรียมสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยไคร้ สานฝันเกษตรกรมีน้ำใช้อย่างยั่งยืน นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพะเยาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ วัดศรีไฮคำ ต.เชียงแรง อ.ภูซาง จ.พะเยา และองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำแวน อ.เชียงคำ จ.พะเยา เพื่อรับฟังปัญหาจากเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดจำนวนมากส่งผล

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกร... กระทรวงเกษตรฯ ตั้ง "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา" — นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ค...

กรมประมง...ส่งเสริมการเพาะเลี้ยง "ปูทะเล"... กรมประมง…หนุนเกษตรกรเปลี่ยน "บ่อกุ้งร้าง" เพื่อสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยง "ปูทะเล" — กรมประมง...ส่งเสริมการเพาะเลี้ยง "ปูทะเล" ในบ่อกุ้งร้าง หวังฟื้นแหล่งผล...