กระทรวงเกษตรฯ รายงานผลการประชุมการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่า และพื้นที่ป่าไม้ภาคเหนือของกลุ่มสมัชชาคนจน

กรุงเทพ--6 ส.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประวัฒน์ อุตตะโมต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่า ครั้งที่ 2/2540 และการประชุมคณะกรรมการแก้ไขพื้นที่ป่าภาคเหนือ ครั้งที่ 2/2540 เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2540 ณ ห้องประชุม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าไม้ ที่ประชุมได้รับทราบว่า ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าไม้ (นายประวัฒน์ อุตตะโมต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าไม้ระดับจังหวัด ในพื้นที่ 18 จังหวัด คือ จังหวัดอำนาจเจริญอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธร ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร หนองคาย มุกดาหารนครพนม เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ นครราชสีมา สระแก้ว และ จังหวัดฉะเชิงเทรา (ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการไปแล้ว) ซึ่งคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน มีตัวแทนฝ่ายราชการและราษฎรในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน เป็นคณะอนุกรรมการ โดยมีอำนาจหน้าที่ 1) ปฏิบัติงานตามแผนและขั้นตอนการปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการฯ และให้มีการประชุมอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง 2) พิจารณาและนำเสนอผลการปฏิบัติงานให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ ทราบทุกเดือน ภายในวันศุกร์ที่ 3 ของเดือน 3) แต่งตั้งคณะทำงานระดับพื้นที่ เพื่อดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์และ หรือดำเนินการอื่น ๆ ตามที่คณะอนุกรรมการฯ และ หรือคณะกรรมการมอบหมาย โดยให้คณะทำงานที่แต่งตั้งประกอบด้วย ตัวแทนฝ่ายราชการและฝ่ายราษฎรที่เดือดร้อนโดยตรงในสัดส่วนที่เท่ากัน (การแต่งตั้งคณะทำงานให้แต่งตั้งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง) 4) กำกับ ดูแล เร่งรัดการดำเนินงานของคณะทำงานระดับพื้นที่ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ 5) คณะทำงานระดับพื้นที่ที่จังหวัดได้แต่งตั้งให้ดำเนินการตามผลการเจรจาไปก่อนหน้านี้แล้ว ให้คงทำงานต่อไป โดยอยู่ภายใต้การกำกับ ดูแลของคณะอนุกรรมการฯ ชุดนี้ 6) วินิจฉัยสั่งการแก้ไขปัญหาในกรณีที่คณะทำงานพื้นที่ที่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ หากคณะอนุกรรมการฯ ยังหาข้อยุติไม่ได้ให้นำเสนอต่อคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด 7) ให้ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดส่งเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง ประกอบการพิจารณา 8) ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการให้คณะอนุกรรมการฯ ที่ได้รับแต่งตั้งได้รับเบี้ยประชุม โดยอนุโลมตามระเบียบของทางราชการ ทั้งนี้ ให้เบิกจ่ายจากกรมป่าไม้ และ 9) ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย นอกจากนั้น ที่ประชุมได้มีการพิจารณา เรื่อง ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามผลการเจรจาตามที่กลุ่มสมัชชาคนจนร้องเรียน และคณะรัฐมนตรีมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปได้ เป็นรายจังหวัดทั้ง 18 จังหวัด ในแต่ละกรณีปัญหาดังนี้ ป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี 3 กรณี ป่าสงวนแห่งชาติ 11 กรณี ป่าอนุรักษ์ตามมติคณะรัฐมนตรี 14 กรณี ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย 32 กรณี สวนป่า 7 กรณี โครงการหมู่บ้านป่าไม้ 1 กรณี การฟื้นฟูส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม 1 กรณี และค่าชดเชยจากการถูกอพยพโครงการ คจก. 1 กรณี การประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าไม้ภาคเหนือ ที่ประชุมได้รับทราบว่าประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ป่าภาคเหนือ (นายประวัฒน์ อุตตะโมต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ป่าไม้ภาคเหนือ ระดับจังหวัดในพื้นที่ 6 จังหวัดคือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร และตาก โดยคณะอนุกรรมการฯ ระดับจังหวัดที่แต่งตั้ง มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีตัวแทนฝ่ายราชการและราษฎรในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน เป็นคณะอนุกรรมการ สำหรับอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการฯ เหมือนกับคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าไม้ระดับจังหวัดข้างต้น ทั้งนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบให้คณะอนุกรรมการระดับจังหวัดที่ได้รับแต่งตั้ง ไปดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานระดับพื้นที่เพื่อดำเนินการพิสูจน์สิทธิให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ให้คณะอนุกรรมการระดับจังหวัดดำเนินการประชุมพิจารณาถึงกรอบอำนาจหน้าที่ในการดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม รวมทั้งให้คณะอนุกรรมการระดับจังหวัดวางแผนการดำเนินงานในพื้นที่แต่ละจังหวัด เพื่อเสนอที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าไม้ภาคเหนือพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป นอกจากนั้นที่ประชุมได้มีการพิจารณา เรื่อง ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามผลการเจรจาตามที่กลุ่มสมัชชาคนจนร้องเรียน และคณะรัฐมนตรีมีมติ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปได้ เป็นรายจังหวัดทั้ง 6 จังหวัด--จบ--

• ข่าวการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
• ข่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
• ข่าวประวัฒน์ อุตตะโมต
• ข่าวเกษตรและสหกรณ์
• ข่าวกระทรวงเกษตรฯ